top of page
40_ดอกเบี้ยออนไลน์-603-x-230.jpg
image.png

'ทุนเทา' กินรวบไทย...กลืนกินธุรกิจไทยแทบทุกวงการ


ree

ทุนเทา ‘ศูนย์เหรียญ’ ครอบงำ แฝงตัวโกยผลประโยชน์จากไทย ขยายวงจากธุรกิจท่องเที่ยว ‘ทัวร์ศูนย์เหรียญ’ กลืนกินธุรกิจไทยแทบทุกวงการ ทั้งค้าปลีก ค้าส่ง อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ โลจิสติกส์ สาธารณูปโภค สาธารณูปการ ฯลฯ โดยมีคนไทย ข้าราชการภาครัฐ ข้าราชการท้องถิ่น ไร้จิตสำนึกร่วมเป็นขบวนการเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน เขมือบกำไรกลับประเทศ ทิ้งซากอัปยศให้คนไทยตามล้างตามเช็ด เร่ง...รัฐบาลไทยต้องกล้าคิด กล้าทำ กล้าแก้ไข ก่อนวอดวายทั้งบาง ชี้...ไทยยังพอมีทางรอดจากมาตรการภาษีของทรัมป์ แต่ทุนเทา ‘ศูนย์เหรียญ’ น่าเกลียดน่ากลัวกว่ามาก หากไม่รีบแก้ รีบป้องกัน จะเละตุ้มเป๊ะเกินจินตนาการ

 

Interview : คุณอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

 

ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่กำลังวิตกกังวลมากเลย คือเรื่องอุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ มองเรื่องนี้อย่างไรบ้างบ้าง

        

คือผมขออนุญาตแยก 2 เรื่อง คือเราไม่ต้องเอาเรื่องปัญหา Trade War ระหว่างจีนกับอเมริกาเข้ามาเพราะไทยอยู่ตรงกลาง ลำบากใช่ไหม ผมว่าเอาแค่ว่าวันนี้ประเทศไทยเราสูญเสียความสามารถในการแข่งขันจากการที่มีทุนจากประเทศยักษ์ใหญ่ที่เข้ามาถล่มบ้านเรา ผมขออนุญาตเกริ่นก่อนจะมาพูดถึงอุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ เราพูดถึงนักท่องเที่ยวทัวร์ศูนย์เหรียญที่เราทราบอยู่แล้วใช่ไหม เราพูดถึง Platform e-Commerce ที่เป็นของประเทศยักษ์ใหญ่แล้วเข้ามาแล้วก็ซื้อขายกัน แล้วก็มีสินค้า มีแพลตฟอร์มเหล่านั้นก็เป็นสินค้าจากประเทศดังกล่าว เราพูดถึงโลจิสติกส์ที่มีเส้นจากทางเหนือของเราที่เชื่อมกับทางจีนตอนใต้ใช่ไหม เราพูดถึงขนส่งทางรถไฟจากจีนตอนใต้มาถึงประเทศลาว แล้วกำลังจะต่อข้ามมาหนองคายมาที่ประเทศเราเชื่อมไปมาเลเซีย สิงคโปร์ เราพูดถึงไอศกรีมโคนละ 15 บาทที่เอาทั้งไอศกรีมทั้งโคนมาจากอเมริกา เราพูดถึงเครื่องดื่มที่เอามาจากจีนทั้งหมด แค่มาตั้งร้านแล้วก็ใช้แรงงานไทยในการเซอร์วิส

        

เหล่านี้คือภัยคุกคามที่มาแย่งงานแล้วก็แย่งตลาดในเมืองไทยแล้วเอาเงินกลับไปที่ประเทศเขาโดยที่ประเทศเราก็เหมือนหนึ่งเป็นมณฑลนึงของประเทศดังกล่าว ถูกไหม ผมคิดว่าทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นในภาพอุตสาหกรรมในหลาย Business ที่ผมพูดเกริ่นไปแล้วทั้งท่องเที่ยว ทั้งบริการ ทั้งร้านอาหาร อีกหลายๆ อย่างรวมกัน

        

ทีนี้กลับมาอุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ ผมขออนุญาตพูดเป็นเคสบายเคสจะได้เข้าใจภาพตามกัน ก่อนหน้านี้จะเห็นเคสที่เราเจอปัญหาเรื่องของขยะอุตสาหกรรมที่มีการสร้างปัญหามากมายจนกระทั่งนำไปสู่การสร้างมลภาวะให้กับชุมชนข้างๆ ทั้งที่บ้านค่าย จังหวัดระยอง ทั้งที่ราชบุรี หรืออยุธยา หรือหลายๆ ที่รวมกัน เป็นบริษัทเอาขยะมาจากประเทศดังกล่าวมาขึ้นทะเบียนเป็นผู้กำจัดขยะตามระบบของกระทรวงอุตสาหกรรมของเรา แต่แล้วก็ได้รับสิทธิ์ในการกำจัดขยะ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือเขาไม่ได้มีเครื่องจักร ไม่ได้มีเครื่องมือไปจัดการขยะตามวิธีที่ระบุไว้ในทางกฎหมาย แถมยังได้เงินค่ากำจัดขยะ แต่วิธีการคือเอาไปฝังกลบ หรือไปเก็บไว้ในโกดังที่ไปซื้อเก็บไว้ จนกระทั่งพอมีเหตุการณ์สารเคมีรั่วไหลก็เลยเกิดมลภาวะตามมา นี่คือการสะท้อนภาพว่าอุตสาหกรรมแรกคืออุตสาหกรรม Waste Management ก็ยังโดนแทรกแซงเข้ามา แค่แย่งงานไม่พอ ยังมาทำลายอุตสาหกรรมโดยรวม แล้วเท่าที่ทราบบางอุตสาหกรรมเขามีเอาตัวทองแดง เอาวัตถุดิบที่มาจากขยะดังกล่าวกลับไปประเทศเขา เพื่อไปรีไซเคิลเพื่อให้ต้นทุนมันต่ำลง ขณะเดียวกันขยะต่างๆ ก็ทิ้งไว้ในบ้านเรา อันนี้คือเรื่องที่ 1

        

ประการที่ 2 เคสที่เอาให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น เคสอุตสาหกรรมเหล็กและการก่อสร้าง ผลกระทบทั้ง 3 เคส ที่เราฟังมาที่เกิดจากบริษัทของประเทศจีนโดยตรงเลย เอ่ยชื่อได้ คือ China Railway No. 10 ทั้งกรณีการก่อสร้างทางด่วนที่ถนนพระราม 2 ทั้งอุโมงค์เชื่อมรถไฟช่วงโคราชไปหนองคาย และล่าสุด คือตึก สตง.ใช่ไหม เหล่านี้มันคือการที่บอกว่ามีวัสดุก่อสร้าง มีระบบการรับเหมาก่อสร้างที่ไม่ได้คุณภาพแล้วก็โยงไปสู่ผลกระทบที่ตามมา

        

อันต่อมาที่เป็นเคสที่ผมอยากพูดคือรถ EV เป็นอะไรที่คลาสสิกมาก จนวันนี้เห็นไหมว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ดั้งเดิมที่มาจากประเทศญี่ปุ่น เครื่องยนต์สันดาปที่ตอนนี้ถดถอย มีย้ายโรงงานออกไป ปิดโรงงานก็มี แล้วก็นําไปสู่การเลิกจ้าง นําไปสู่การลดเวลาการทํางาน รถยนต์อุตสาหกรรมดั้งเดิมเราที่มาจากค่ายยุโรปก็ดี หรือค่ายญี่ปุ่นก็ดี ยอดขายลดลง นำไปสู่อุตสาหกรรมต่อเนื่องเช่นชิ้นส่วนยานยนต์ที่เริ่มมีการเลิกจ้าง เริ่มมีการถามหาเรื่องการ Transform ไปทำอย่างอื่น

        

ทีนี้คำถามคืออุตสาหกรรมที่มาแทนที่อย่าง EV มันได้มีการพูดถึง Local Content ตามสิทธิ์ BOI ตามหลัก EV ที่เราส่งเสริมกันอยู่ว่าต้องมี Local Content คือใช้สัดส่วนการผลิตในประเทศเราไม่ต่ำกว่า 40% แต่จริงๆ คือไม่ใช่ แบตเตอรี่ก็นำเข้ามาจากประเทศจีน แค่มาประกอบกันในเมืองไทยแล้วสุดท้ายก็มาแทนอุตสาหกรรมเดิมที่ใช้ Local Content เยอะๆ ผลก็คือยอด GDP ของเราลดน้อยถอยลงเพราะ GDP เหล่านั้นไม่ได้หมุนเวียนในประเทศไทย

        

ผมยกตัวอย่างให้เห็นประมาณนี้ ยังไม่รวมเรื่องของการส่งออก เราทราบเรื่องการส่งออกไซรัปหรือน้ำเชื่อมไปที่เมืองจีนไหม ที่มีการโดนระงับไป ซึ่งไทยส่งออกเป็นเบอร์หนึ่ง แต่สุดท้ายมีบริษัทจากจีนมาตั้งโรงงานไซรัป คือเอาน้ำตาลมาแล้วก็เอามาเชื่อม ต้ม แล้วก็ส่งกลับไปที่ประเทศจีน คือประเทศจีนเขามีโควตานําเข้าน้ำตาลทรายจากบ้านเราไป หลังจากเป็นไซรัปก็มีโควตา แล้วภาษีส่งออกในฟรีโซนจะเป็นศูนย์ ก็ปรากฏว่าบริษัทจีนมาตั้งโรงงานในเขตฟรีโซนดังกล่าวแล้วใช้สิทธิ์อิมพอร์ตน้ำตาลมาจากประเทศอื่น มาจากบราซิล อินเดีย แล้วเอามาทำเป็นน้ำเชื่อมแล้วส่งออกไปที่จีน ไม่ได้คุณภาพ สุดท้ายประเทศจีนก็เลยขึ้นบัญชีแดงขึ้นบัญชีดำน้ำเชื่อมในทุกโรงของเราที่ตอนนี้ส่งออกไปจีนไม่ได้ ถูกระงับอยู่

        

สิ่งเหล่านี้คืออุตสาหกรรมศูนย์เหรียญหรือเปล่า ผมจะบอกว่ายังไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายๆ ยี่ห้อที่เข้ามา เข้ามายังไงทราบไหม เริ่มต้นเขาอิมพอร์ตมาก่อน แล้วมาดัมป์ราคา คุณภาพเป็นรอง เอาราคาถูกไว้ก่อน ทีนี้พอเศรษฐกิจไม่ดี ราคาถูกๆ เราซื้อไว้ก่อน มันจะมี มอก.หรือเปล่า มีเซฟตี้หรือเปล่า ไม่มีใครตรวจสอบ สุดท้ายก็มาแย่งตลาดในเมืองไทย จากนั้นการอิมพอร์ตก็จะมา มีการมาเริ่มตั้ง OEM มาซื้อโรงงาน หรือจ้างโรงงานในไทยเป็นผู้ผลิตแทน กลืนอุตสาหกรรมเราไป แล้วตอนที่อิมพอร์ตมาเขาไม่ได้อิมพอร์ตมา อย่างเช่นเครื่องปรับอากาศหรือตัวเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ออกมาทั้งแพ็กเกจจิ้งด้วย เอามาเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า มาประกอบบ้านเราแล้วก็เอาแพ็กเกจจิ้งกล่อง Offset มาเป็นแพ็กเกจจิ้งเราเสียออร์เดอร์ไปทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้งแพ็กเกจจิ้ง

        

สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ผมบอกว่าอุตสาหกรรมศูนย์เหรียญเหล่านี้กำลังสร้างปัญหาให้ประเทศไทย ให้กับคนไทย ให้กับอุตสาหกรรมของเมืองไทย การที่เราไม่โยงไปหา Trade War เรากับอเมริกา เพราะจะบอกว่าเราไปเจรจาอเมริกา ส่วนที่จีนมาเอาจากเมืองไทยแล้วไปสวมเสื้อเราแล้วไปส่งออกถล่มอเมริกามันก็ยิ่งซ้ำสอง ดูภาพออกไหม ถึงอเมริกาไม่โวย ไม่ขึ้นภาษีเรา ถามว่าเราควรจะจัดการปัญหาเหล่านี้ก่อนที่อเมริกาจะโวยไหม แล้วก็ไม่พูดถึงว่ามาอย่างผิดกฎหมาย มาอย่างเป็นสีเทา ทั้งฝั่งเขาทั้งฝั่งเรา คืออันนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นสะสมมาเป็นปีตั้งแต่ยุครัฐบาลก่อนหน้านี้ ผมพูดแรงๆ คือชักศึกเข้าบ้าน ทำให้สิ่งที่ผิดกฎหมายกลายเป็นถูกกฎหมาย ไปเปิดช่องให้มีระบบคอร์รัปชัน ระบบใต้โต๊ะ ระบบนอมีนี ทุกอย่างรวมกันแล้วถามว่าทำไมเราถึงปล่อยให้เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นได้

 

ตอนนี้มันซึมลึกด้วย แล้วก็ทำลายหัวใจการผลิต ทำลายชื่อ ทำลายมาตรฐาน ถึงขั้นยากแล้วไหมที่จะแก้ไข

        

ถามว่าปัญหาหนักไหม...หนัก ยากไหม...ก็ยาก แต่ถ้าเรารู้ปัญหาแล้วกล้าแก้ไข คำถามนี่ทำให้ผมนึกกลับมาคำถามเดิมว่าอย่าเพิ่งไปมองปัญหาที่ส่งออกไปที่ประเทศอเมริกา เอาแค่เมืองไทยเองยังโดนขนาดนี้ มีคนบอกว่า 2 คำพูดลองมาเปรียบเทียบ คนที่หนึ่งบอกว่าก็ประเทศของเรา ประเทศไทยไปปล่อยให้เข้ามาได้ยังไง เหมือนที่ผู้นำของประเทศจีนบุกมาให้เราจัดการปัญหาแก๊ง Call Center ที่มาซื้อไฟฟ้า มาซื้อข้าวของกับบ้านเรา เพื่อนบ้านเราปล่อยมานาน เขามาหลอกเงินคนไทยทั้งกี่แสนคนเป็นเงินกี่ล้านบาท ในทางกลับกันเขาก็บอกว่าถ้าไทยปล่อยให้เกิดสิ่งเหล่านั้นเข้ามา มีคนมองว่าประเทศไทย มองประเทศกัมพูชาเคสของสีหนุวิลล์ที่พยายามจะทำเป็นเมืองท่องเที่ยวโดยการเปิดบ่อนต่างๆ แล้วก็แหล่งกาสิโน ซึ่งหวังพึ่งทุนจากจีน สุดท้ายวันนี้เป็นเมืองร้าง

        

มาที่ประเทศลาว เป็นทางผ่านอยู่แล้วที่ทางจีนตอนใต้จะส่งทางรางมา เขาต้องผ่านมาที่ลาว ตลอดเส้นทางของประเทศลาวจีนลงทุนให้ แต่ลาวเป็นหนี้สกุลเงินหยวน แล้วการจ้างงานหรือตลอดเส้นทางข้างทางรถไฟทั้ง 2 ข้าง เราไปดูก็จะเป็นธุรกิจของจีนทั้งนั้นทั้งที่อยู่ในประเทศลาว แล้วก็ใช้ภาษาจีนกัน ใช้สกุลหยวนในการซื้อขาย ทั้งๆ ที่เป็นดินแดนที่อยู่ในประเทศของลาวแท้ๆ แต่ธุรกิจเป็นของจีน

        

กลับกัน ประเทศไทยมีคนบอกว่าประเทศจีนมองเราเหมือนเป็นหนึ่งในมณฑลของเขา เป็นแค่แหล่งอาหาร แหล่งที่จะเป็นฐานผลิตให้เขา ทำไมจะต้องส่งทุเรียนไปประเทศจีนถึง 95% พอจีนมีปัญหานิดเดียววันนี้เป็นไง เราเดือดร้อน คนที่บอกว่าการที่เราไม่สร้างความสมดุลตัวเราเอง เราทำตัวเราเอง เพราะเมื่อก่อนที่เราไม่ต้องพึ่งจีนขนาดนี้ ถูกไหม

 

พวกที่เข้ามาเหมาสวนทุเรียนแล้วไปฉีดสารเหลืองเองใช่ไหม

        

ใช่ มีคนบอกว่าล้งที่ทําเป็นล้งของประเทศเขาเอง ประเด็นต่อมาคือจีนมองเกษตรบ้านเราหรือเกษตรเพื่อนบ้านเราเป็นแค่ฐานเกษตรในการปลูก เป็นยางพาราก็ดี มันสำปะหลังที่ส่งไปทำเอทานอลที่บ้านเขา พอเขาไม่ซื้อราคาก็ร่วง เกษตรกรก็เดือดร้อน มาถามหาระบบการประกันราคา มาประท้วง เราเองไม่มองวิชั่นของประเทศไทยว่าเราควรจะเป็นอุตสาหกรรมแปรรูปเกษตรที่พึ่งพาตัวเองและมีการบาลานซ์เรื่องของตลาดส่งออกอย่างเหมาะสม คือเราเองที่ทำตัวให้เป็นปัญหาเสียเอง แล้วก็ชักศึกเข้าบ้าน

        

เอาง่ายๆ ขอพูดเรื่องเบาๆ ขำๆ เรือดำน้ำไร้เครื่องยนต์ ซื้อไปได้ยังไง ภาษีเรา วันนี้เราไม่ต้องเอาอเมริกามาเกี่ยวข้องก็ได้ เราเอาแค่ว่าตัวเราเองทำตัวเราให้เหมาะสมได้หรือยัง เพื่อให้ไทยมีความเพียบพร้อมทุกอย่าง เรามีอุตสาหกรรม เรามีเกษตร เรามีท่องเที่ยวที่แข็งแรงอยู่ก่อน แต่วันนี้แค่จีนไม่เข้ามาท่องเที่ยวเราก็เดือดร้อน คำถามคือเราจะแก้ปัญหาอย่างไร คำว่าศูนย์เหรียญจะเป็นท่องเที่ยว จะเป็นอุตสาหกรรม จะเป็นนิคมอุตสาหกรรม จะเป็นบริการ จะเป็นอะไรก็ตาม เห็นหรือยัง ผมขอให้วิเคราะห์แบบนี้ได้ไหม คือลึกๆ ผมว่าชั้นเชิงทางการค้าทางการจีนเขาเก่งกว่าเรา เขารู้จะใช้เราอย่างไร แล้วเขามองเราเป็นแค่หนึ่งในมณฑลของเขา เพราะฉะนั้นเขาเองเขาวาง Positioning ของเขาไว้ชัดเจน ของเราผู้นำในยุคๆ หนึ่งไม่มีวิชั่น แล้วก็ไม่มีความสามารถในการบริหาร ถือว่าเจอปัญหาหนักไหม ยากไหม แต่ถ้ามันเริ่มแก้ก็ยังพอมีหวัง

 

เท่ากับว่าตอนนี้ไทยเรากำลังติดกับดักสองขั้น ขั้นที่หนึ่ง คือในประเทศเราเองที่เรามีปัญหา เรามีเรื่องของทัวร์ศูนย์เหรียญ กับอีกกับดักหนึ่งคือเรื่องของภาษีทรัมป์ ซึ่งจะยิ่งทำให้ทั้งสองอย่างมันขมวดกัน มันยิ่งแก้ยากเข้าไปอีก ตอนนี้อุตสาหกรรมไทยเรายิ่งลำบาก 90 วันจากนี้ไปจะเป็นอย่างไร

        

จริงๆ ผมมองว่าการที่มีแรงบวก 2 แรงบวกกันมันคือสิ่งที่ต้องกล้าจัดการตัวเอง ที่ผมพยายามแจ้งประเด็นว่าไม่เอาเรื่องอเมริกามาเกี่ยวข้อง ลำพังเรากับเรื่องอุตสาหกรรมศูนย์เหรียญหรือที่เราเสียเปรียบทางการค้า เราไม่อยากเป็นอย่างสีหนุวิลล์ เราไม่อยากเป็นอย่างประเทศลาว จุดแข็งของเราจะต้องส่งเสริมไว้ รักษาไว้ ประการที่ 2 พอเราเจอเรื่องทรัมป์ 2.0 เข้ามา เรื่องภาษีผมคิดว่ายิ่งทำให้เราต้องจัดการตัวเองอย่างกล้าหาญ เพราะฉะนั้นถามผม ผมคิดว่าเรื่องนี้เรามีทางออกแน่นอน ผมพูดในภาพรวม 1. ความสมดุลในการจัดตัวเองให้อยู่ตรงกลางที่เหมาะสม ไทยไม่ต้องพึ่งพาใครมากเกินไป ประการที่ 2 ผมมองว่าสินค้าของเราที่จะสร้าง GDP ให้ประเทศได้ จุดแข็งของเราคืออะไร ตรงนั้นคืออาหารจากเกษตรแปรรูป อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปหรืออุตสาหกรรมที่เรามีความแข็งแกร่งจากอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์เดิมมา Transform มาทำสิ่งที่เราคิดว่ามีประโยชน์ มาทำอุตสาหกรรมที่ต้องการในประเทศเพื่อไม่ต้องนำเข้า

        

ผมคิดว่าถึงเวลาที่เราจะต้องมาทบทวนตัวเอง การที่เราสะดุดไปนิดนึง สมมุติว่าจากที่อุตสาหกรรมเขาจะขึ้นภาษีเราจะมากจะน้อยก็แล้วแต่ ถามว่าถ้าเรายังเป็นเบี้ยล่างประเทศยักษ์ใหญ่เดิมแบบนี้ไปเรื่อยๆ มันจะหนักกว่าไหม ชักศึกเข้าบ้าน แล้วก็โดนนอมินีต่างๆ เข้ามา ผมคิดว่าวันนี้เราควรจะทําเหมือนประเทศอินโดนีเซียไหมที่เขากล้าขึ้นกำแพงภาษี กล้าปกป้องบ้านเขาเองจากประเทศที่เข้ามาอย่างไม่ถูกต้องหรือมาอย่างไม่เหมาะสม ส่วนอเมริกาคือคุยได้ เพราะเรายังมีโอกาสที่จะคุยกัน

        

ตัวอย่างเช่น ภาพความหวังคืออย่างเราเป็นประเทศที่ผลิตอาหารสัตว์ ทั่วโลกตอนนี้ Growth สูงมาก คนใช้เยอะมาก อาหารสัตว์ต้องทำมาจากถั่วเหลืองหรือข้าวโพด เราอิมพอร์ตมาอยู่แล้วทุกวันนี้ ถ้าเราอิมพอร์ตอเมริกาเพิ่มขึ้นอเมริกาก็ได้ประโยชน์ ลดการขาดดุลการค้าลง แล้วเราสามารถส่งอาหารสัตว์กลับไปขายทั่วโลก อันนี้คือสิ่งที่บอกว่าการสร้างสมดุลจุดแข็งของเราบวกกับจุดแข็งของประเทศคู่ค้าเรา ไม่ใช่ทุกอย่างเราเป็นเพียงเบี้ยล่างเขาเหมือนที่เรากำลังเป็นอยู่วันนี้กับพวกทัวร์ศูนย์เหรียญ ผมคิดว่าผมให้ความหวังในแง่ข่าวดีว่าเราต้องเป็นตัวของตัวเอง จุดแข็งเราคืออะไร หาให้เจอ แล้วเราก็เดินหน้าต่อโดยที่มีความโปร่งใส มีผู้นำที่กล้าคิดกล้าทำแล้วก็กล้าผ่าตัดสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ก็ขออนุญาตให้ความหวังสั้นๆ เล็กๆ ผมคิดว่าอย่างตึก สตง.ก็น่าสนใจ ขุดให้เจอต้นเหตุแล้วก็ฟันแล้วก็ลงโทษให้ถึงที่สุด แล้วอย่าให้เกิดปัญหานี้ซ้ำเติม คนก็จะมีความหวัง ขอให้รัฐบาลกล้าคิดกล้าทำ กล้าผ่ากล้าตัด กล้าเดินหน้า แล้วก็อย่าเกรงใจเพื่อประเทศหนึ่งจนเกินไป เราเป็นเบี้ยล่างเขามานานแล้ว

 
 
 

Comments


bottom of page