นายพงษ์พันธ์ จันทร์ศุกกรี กรรมการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือแอตต้า กล่าวผ่านรายการ “เซียนเศรษฐกิจ” จัดโดยทีมข่าวหนังสือพิมพ์ “ดอกเบี้ยธุรกิจ” ถึงความคึกคักจากที่ประเทศรัสเซียได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ว่า มีความคึกคักมาก จากที่รัสเซียมีการจัดกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวกับฟุตบอลเพื่อต้อนรับการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก ขณะที่คนไทยเดินทางไปรัสเซียช่วงฟุตบอลโลก 2018 นี้ ถือว่าเป็นปกติในแต่ละปี คือมีคนไทยเดินทางไปรัสเซียกันเรื่อยๆ แต่ในอนาคตมองว่าจะมีการเติบโตสูงมาก
“แต่ละปีคนไทยที่เดินทางไปรัสเซียถือว่ายังมีจำนวนไม่มาก ขณะที่ประเทศรัสเซีย คนไทยเริ่มให้ความสนใจเดินทางไปมากขึ้นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ถ้าเทียบก็เป็นตัวเลขที่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด หากพิจารณาตัวเลขช่วงที่ผ่านมาแต่ละปีอยู่ที่กว่า 1 หมื่นคนถือว่าเติบโตเยอะ หากย้อนกลับไปสมัยก่อนตัวเลขคนไทยที่เดินทางไปรัสเซีย อยู่ที่ปีละประมาณ 3-4 พันคนเอง แต่ปัจจุบันทิศทางดีขึ้น และน่าจะอยู่ที่ปีละ 4-5 หมื่นคน โดยมองว่าจากนี้ตัวเลขน่าจะเติบโตขึ้นไปอยู่ที่หลักแสนคน ซึ่งปัจจัยบวกมาจากการเดินทางไปรัสเซียไม่ต้องใช้วีซ่า และขณะนี้มีการเปิดเมืองท่องเที่ยวใหม่ๆมากขึ้น”
นายพงษ์พันธ์กล่าวว่าที่ผ่านมาการเดินทางไปเที่ยวรัสเซีย ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะให้ความนิยมท่องเที่ยวแค่เมืองมอสโก กับเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เป็นหลัก แต่จากนี้สำหรับรัสเซียจะมีเมืองท่องเที่ยวใหม่ๆมากขึ้น อย่างเช่นตอนนี้มีเมือง Murmansk ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจไปดูแสงเหนือกันตอนนี้กำลังเป็นที่นิยม รวมถึงมีเมืองพักผ่อนรองรับนักท่องเที่ยว ฯลฯ ถือว่าขณะนี้มีออฟชั่นเที่ยวช่วงหน้าหนาวมากขึ้นสำหรับรัสเซีย
“ผมเพิ่งเดินทางไปที่ไซบีเรียโดยไปทัวร์แบบเอ็กซ์ตรีม ใช้เวลาหลายวัน และนั่งรถไปกว่า 5.3 พันกิโลเมตรจากกว่า 9 พันกิโลเมตร คือถ้าไปในลักษณะนักท่องเที่ยวจะใช้เงินกว่า 4 แสนบาทในการทัวร์ครั้งนี้ ตอนที่ไปอากาศดีไม่หนาวมาก และถ้าอยากไปช่วงไม่หนาวมากให้เดินทางไปในช่วงเดือนมิถุนายน-กันยายนของทุกปี”
ส่วนในเรื่องความปลอดภัยช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกที่รัสเซีย นายพงษ์พันธ์กล่าวว่ามีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินสูงมาก เนื่องจากแต่ละสถานที่ของรัสเซียจะมีตำรวจคอยดูแลความปลอดภัยเต็มเมือง ขณะที่ช่วงปกติก็ไม่ถือว่าอันตราย แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ท่องเที่ยวในเมืองใหญ่ๆอย่างมอสโก และเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กก็ต้องระวังด้วย เพราะอาจจะมีกลุ่มมิจฉาชีพล้วงกระเป๋าบ้าง แต่ช่วงก่อนฟุตบอลโลกจะเริ่มและหลังจะเห็นได้ชัดว่า รัสเซียจะมีการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดมาก
“สำหรับอาหารการกินที่รัสเซียนี้ คนไทยเราอาจจะทานยากหน่อย คืออาจจะจืดไปสำหรับคนไทย แต่ถ้าใครทานอาหารฝรั่งได้ก็สบายๆ โดยจะมีร้านอาหารพวกจอร์เจียค่อนข้างเยอะ รวมถึงอาหารอาหรับมีให้เลือกหลากหลาย ส่วนเรื่องภาษาเขาจะเป็นท้องถิ่น ทำให้ตรงนี้อาจจะเป็นปัญหาสำหรับคนไทยที่จะเดินทางไป โดยคนในเมืองมอสโกยังพอฟังภาษาอังกฤษได้ แต่เมืองอื่นๆ คงจะยากหน่อยในการสื่อภาษา โดยเฉพาะในต่างจังหวัดของรัสเซีย” นายพงษ์พันธ์กล่าวและพูดถึงสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนรัสเซียขณะนี้ดีขึ้น ที่ผ่านมารัสเซียได้ผ่านความยากลำบากมาค่อนข้างเยอะ เนื่องจากต้องเจอกับการคว่ำบาตร แซงชั่น ลอยตัวค่าเงิน ทำเอาสะบักสะบอม แต่ตอนนี้เริ่มเข้าที่หลังจากมาตรการลอยตัวค่าเงิน คนรัสเซียก็หันมาใช้ชีวิตอย่างมีสติมากขึ้น ประหยัดมากขึ้น
“ดีสำหรับคนไทย จากที่ลอยตัวค่าเงินทำให้เงินรูเบิลอ่อนตัวลงไป กลายเป็นว่าเมื่อก่อนคนไทยเดินทางไปรัสเซีย เราจะซื้อของ 1 รูเบิล เท่ากับ 1 บาทเลย แต่ตอนนี้ 10 รูเบิลเท่ากับ 5 บาท ทำให้รัสเซียเป็นสวรรค์ของนักช็อปไทยไปโดยปริยาย ส่วนใหญ่จะเป็นการซื้อสินค้าที่ระลึก เช่น ตุ๊กตาแม่ลูกดก ซื้อสินค้าแบรนด์เนม การเดินทางไปเที่ยวที่รัสเซีย หากต้องการสัมผัสความเป็นรัสเซียจะต้องใช้เวลาสัก 4 คืน 6 วัน แต่ถ้าต้องการสัมผัสถึงประวัติศาสตร์/ราชวงศ์ ก็น่าจะใช้เวลาสัก 7-8 คืน รัสเซียมีความน่าสนใจ 2 ด้าน คือด้านที่เป็นยุโรปกับด้านที่เป็นเอเชีย”