top of page
379208.jpg

กระเบื้องจีนตีตลาดไทยกระจุย ผู้ประกอบการเร่งปรับตัวหนีตาย


ผู้ประกอบการสินค้ากระเบื้องเผยหลังยกเลิกมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด ส่งผลให้สินค้าจีนทะลักเข้ามารุนแรงและดุเดือด สินค้านำเข้าจากจีนมีส่วนแบ่งสูงถึง 50% แต่ละค่ายเร่งปรับแผนหนีตาย

รายงานข่าวแจ้งว่า สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ และบริษัท ทีทีเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมกันเปิดงานสถาปนิก '61 ระหว่างวันที่ 1-6 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งจัดงานครั้งที่ 32 มี 850 บริษัท ได้เข้าร่วมงาน ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

นายศุภแมน มรรคา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีทีเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า การจัดงานครั้งนี้ มีสินค้าแบรนด์ชั้นนำของไทยและบริษัทต่างประเทศเข้าร่วมงานมากขึ้นกว่า 35% จากปีก่อนที่มีประมาณ 28% ประเทศที่เข้ามามีทั้งจากทวีปเอเชีย ยุโรป อเมริกา อาทิ จีน ไต้หวัน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย ออสเตรเลีย เวียดนาม และสาธารณรัฐเช็ก รวมถึง IMAG บริษัทชั้นนำจากประเทศเยอรมนี ผู้จัดงานแสดงสินค้าด้านการก่อสร้างมาแล้วทั่วโลก ที่นำเอาเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ก่อสร้างระดับสูงมาให้ชม การจัดงานครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นยอดขายต่อเนื่องไปถึงสิ้นปีประมาณ 10,000 ล้านบาท คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 4 แสนคน ส่วนสินค้าจากจีนเข้ามาแรง เข้ามากันมากกว่า 10-20% สินค้าจากจีนได้เปรียบกว่าคู่แข่ง เพราะรัฐบาลมีการสนับสนุนทางการเงิน ในการช่วยเหลือผู้ผลิตในการเข้าไปทำตลาดยังต่างประเทศ โดยเฉพาะสินค้ากระเบื้องจากจีนเข้ามาตีตลาดในไทย

กระเบื้องราคาถูกจากจีนเข้ามา ขณะนี้มีการยกระดับการทำตลาดมาสู่ระดับพรีเมียมมากขึ้น

นายสมบูรณ์ อุรานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหโมเสคอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลได้ยกเลิกมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้ากระเบื้องปูพื้น และติดผนัง ที่มีแหล่งกำเนิดจากสาธารณรัฐประชาชนจีนแล้วนั้น ส่งผลให้สินค้าจากจีนเข้ามาทำตลาดเป็นจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมา สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ทำหนังสือไปถึงรัฐบาลว่า ผู้ประกอบการไทยได้รับผลกระทบต่ออุตสาหกรรมในประเทศ แต่ปรากฏว่า ผู้ประกอบการรวมตัวกันไม่ถึง 50% จึงไม่เป็นเอกฉันท์ เรื่องดังกล่าวจึงตกไป ต้องยอมรับว่า ผลจากการยกเลิกมาตรการดังกล่าวทำให้สินค้ากระเบื้องจากจีนเข้ามารุนแรง และดุเดือด ซึ่งสินค้าจีนมีส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มสินค้าแมส สูงถึง 50% สำหรับมูลค่าตลาดกระเบื้องในปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 33,000 ล้านบาท หรือประมาณ 220 ล้านตารางเมตร โดยแยกเป็นสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ 25% ในจำนวนดังกล่าวกว่า 75% เป็นสินค้าจากประเทศจีน

นางสาวปรวรรณ มหัทธนะสุข ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท วิลเลรอย แอนด์ บอค (ประเทศไทย) จำกัด ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แบรนด์สุขภัณฑ์หรูจากประเทศเยอรมนี กล่าวว่า แผนธุรกิจในปีนี้ บริษัทกำลังพิจารณาการลงทุนคลังสินค้า (เวย์เฮาส์) ที่อยู่ใกล้กับโรงงานที่จังหวัดสระบุรี เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ รวมถึงการลงทุนเปิด 2 โชว์รูมในพื้นที่ รามอินทรา และบริเวณงามวงศ์วาน จากปัจจุบันที่มีอยู่ 6 โชว์รูม เพื่อให้สามารถเสนอสินค้าให้กับผู้บริโภคได้ ปีนี้ บริษัทต้องการเป็นผู้นำด้านสินค้าสำหรับห้องน้ำในตลาดบนในประเทศไทย โดยจะเจาะตลาดในกลุ่มงานโครงการระดับบนอย่างต่อเนื่อง พร้อมขยายช่องทางจัดจำหน่ายให้มากขึ้น โดยเราวางรายได้หลักเป็นสินค้ากลุ่มเซรามิก ทั้งในส่วนของสุขภัณฑ์ และอ่างล้างหน้า ประมาณ 90% ส่วนที่เหลือจะเป็นกลุ่มสินค้าคู่เคียง เช่น อ่างอาบน้ำ เฟอร์นิเจอร์ ก๊อกน้ำ และอุปกรณ์ต่างๆ

นายประกรณ์ เมฆจำเริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เฌอร่า จำกัด (มหาชน) ภายใต้แบรนด์ เฌอร่า (SHERA) และกระเบื้องหลังคาตราห้าห่วง (HaHuang) ให้ความเห็นว่า งานสถาปนิก’ 61 นับเป็นงานแสดงเทคโนโลยีก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน บริษัทได้เปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ไม้ และ ผลิตภัณฑ์หลังคา ได้แก่ ไม้เฌอร่า ชายน์ไลท์ (SHERA Shine Light) ในประเภทไม้ฝา ไม้ระแนง และไม้รั้ว ที่พิเศษด้วยการเคลือบเงาเพิ่มความแวววาว สวยงาม และสีที่คงทน ให้ไม้ไฉไลยาวนานไม่เปลี่ยนแปลง และหลังคาเฌอร่าซีดาร์ เชค สีเมโทร เกรย์ หลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ในสไตล์ธรรมชาติ เสมือนหลังคาไม้สนซีดาร์ แต่มีอายุการใช้งานยาวนาน และดูแลรักษาง่ายกว่า โดยเฉดสีใหม่อย่างสีเทาเมโทรเกรย์ สะท้อนความสุขุม เสน่ห์

503 views
bottom of page