Interview: คุณไพบูลย์ วงศ์โชติสถิต
นายกสมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทย
ปี 62 ยอดส่งออกผลไม้ไทยทะลุหลักแสนล้านบาท 80% เป็นการส่งออกไปจีน ผลผลิตปีนี้ทั้งทุเรียน มังคุด ลำไย เพิ่ม 18-20% แต่คาดส่งออกปีนี้สะดุดเล็กน้อยจากเหตุเศรษฐกิจจีนเติบโตลดลง สำทับด้วยด้วยไวรัสอู่ฮั่นที่แพร่ระบาด หวังวิกฤตไวรัสอู่ฮั่นคลี่คลายใน 2-3 เดือนก่อนถึงฤดูทุเรียน-เงาะเข้าตลาด ผู้ส่งออกไทยเตรียมขยับเหมาสวนแข่งกับพ่อค้าจากจีนที่ซื้อตรงจากสวนมากขึ้น แจงชาวสวนตั้งท่า ตั้งราคาขายทุเรียนโลละ 150-160 บาท ผู้ส่งออกเตือน...ภาวะเช่นนี้แม้คนจีนยังซื้อทุเรียนจากไทย แต่จะซื้อในปริมาณที่น้อยลงและซื้อในราคาที่ถูกลง ถ้าตั้งราคาสูงเกินระวังจะขายไม่ออก
จากการระบาดของไวรัสอู่ฮั่นอาจกระทบการนำเข้าผลไม้จากไทย ถึงตรงนี้กำลังใจยังดีอยู่ไหม
คิดว่าชาวสวนคงจะตกใจกลัวขายของไม่ได้ แต่พวกส่งออกยังเฉยๆ ยังไม่ตกใจมาก
ยังทำใจดีสู้เสือ
ไม่ใช่ เรามองว่าสถานการณ์ค่อนข้างชัดเจนที่มีปัญหาตอนนี้เพราะเขาปิดด่านตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. ถึง 3 ก.พ.แล้วยืดมาวันที่ 10 ทำให้สินค้าเข้าไปไม่ได้ พอเข้าไม่ได้ก็ไม่มีการสั่งซื้อ ก็ชะงักไป คนตกใจว่ามาจากไวรัสหรือเปล่า ส่วนนึงก็ยอมรับแต่ไม่ทั้งหมด พอเปิดด่านก็คลี่คลายได้ส่วนนึง แต่เชื่อว่าคำสั่งซื้อคงเข้ามาน้อยมาก ช่วงนี้หวังว่าจะคลี่คลาย
ตอนนี้ผลไม้ไทยที่ได้รับผลกระทบ มีกล้วยใช่ไหม
มีทุเรียนใต้ ขนุนจากระยอง มะพร้าวจากราชบุรี กล้วยไข่จากจันทบุรี
ผลไม้ส่งออกไปจีนมากๆ คืออะไร
ก็จะมีกลุ่มนี้ ทุเรียน มังคุด มะพร้าว ลำไย กล้วยไข่ ส่วนลิ้นจี่มีแต่ไม่มาก
จริงๆเริ่มเดือนไหนที่คอขาดบาดตาย ถ้ายังไม่มีออร์เดอร์
พฤษภาคม เมษายนขึ้นไป
มีล้งมาซื้อเหมาตอนนี้ไหม
ตอนนี้ยังมีมาเหมาอยู่ แต่ชาวสวนยังไม่ขาย อย่างทุเรียนให้กิโลละ 150 บาท ยังซื้อยากตอนนี้
เท่าไหร่ถึงปล่อยได้
กิโลละ 160-170 บาท แต่ยังไม่มีคำสั่งซื้อเลยยังไม่กล้าเหมา แต่คิดว่าคงไม่นานไม่กี่วันก็น่าจะเริ่มเหมากันใหม่
ผู้ค้าส่งออกเริ่มไปเหมากันหรือยัง
คงจะเริ่มเร็วๆ นี้ เราต้องมีของในมือไม่อย่างนั้นเราเปิดล้งไม่ได้
เป็นความเสี่ยงหรือไม่ถ้าต้องไปเหมาก่อน
เป็นความเสี่ยง แต่ก็ต้องทำ
จะบอกกับชาวสวนยังไงว่าอย่ากลัว
จริงๆแล้วเขาวิตกกันไปเอง เพราะเราเคยเจอวิกฤตซาร์สมาก่อนเมื่อปี 2003 วิกฤตซาร์สช่วงเดือนนี้ส่งผล 9 เดือนถึงจะปราบหมด แต่มีผลไม้ขายไม่ได้ประมาณ 2 เดือน ตั้งแต่ 2003 ตอนนี้ 17 ปี วงการแพทย์พัฒนาไปไกลมาก เชื่อว่าน่าจะจบก่อน 7-8 เดือนแน่นอน ปัญหาผลไม้ไม่น่าเกิน 1 เดือน พอผลไม้ออกเยอะเดือนมีนาคม-เมษายน สถานการณ์น่าจะคืนปกติ ปัญหาที่ห่วงคือกำลังซื้อจากจีนจะลดลง แต่ไม่รุนแรงมาก ลดก็ลด ของขายได้อยู่ แต่ราคาอาจจะถูกลงมาหน่อย
ห้องเย็นต่างๆ พอไหมที่จะเก็บของ
เป็นของสด เก็บไม่ได้ ซื้อมาส่งออกทันที
อย่างปีที่ผ่านมาส่งออกผลไม้ไทย โดยเฉพาะ 4-5 ตัวที่เป็นพระเอก ยอดส่งออกเป็นมูลค่าประมาณเท่าไหร่
ประมาณแสนล้านบาท เมื่อประมาณปี 2003 ส่งออกปีละหมื่นล้าน ตอนนี้เราส่งเพิ่มได้ 10 เท่า
ปีนี้เจอภัยแล้งผลผลิตจะลดลงไปไหม
ภาพรวมผลไม้ผลผลิตเพิ่มมาประมาณ 20% ที่เป็นภาคตะวันออก ทุเรียน มังคุด ลำไย เพิ่ม 18-20%
เป็นเพราะอะไร
อากาศดี อากาศเหมาะสม อีกอย่างที่กังวลว่าน้ำจะไม่พอ ส่วนมากสวนทุเรียน มังคุด เตรียมน้ำไว้แล้ว เขามีการขุดบ่อ สระ ขุดบาดาล รับน้ำไว้เต็มที่ ตอนนี้น้ำยังพออยู่
ผลไม้ไทยที่ส่งไปจีน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด
ส่งไปจีนตอนนี้ 80% ขึ้นไป เราพึ่งพาจีนมากเกินไป พอมีปัญหาเราก็เหนื่อย
คิดว่ากำลังซื้อจากจีนปีนี้ดีหรือตก
คิดว่ากำลังซื้อเขาลดเพราะเขามีปัญหาภายในของเขา ทั้งปัญหาเศรษฐกิจและมาถึงไวรัสอู่ฮั่นด้วย ทำให้เขาทำงานไม่ได้ 2 เดือน นักท่องเที่ยวก็น้อยลง คิดว่าเศรษฐกิจของเขาคงไม่ดีเท่าไหร่ กำลังซื้อเขาลดลง แปลว่าคำสั่งซื้อมีได้แต่ซื้อในราคาถูกลง
สมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทยและสมาชิกวางแผนจะแก้ไขสถานการณ์อย่างไร
ก็ต้องซื้อในราคาถูกลงมาบ้าง ในราคาที่ชาวสวนรับได้ ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าเขาจะยอมกันหรือเปล่า ชาวสวนตั้งเป้าทุเรียนกิโลละ 150 บาทขั้นต่ำ คือคนซื้ออยากซื้อถูก คนสวนอยากขายแพง แต่ปัญหาปลายทางจะรับราคาได้หรือเปล่า
ปีที่แล้วเท่าไหร่
ซื้อกันที่กิโลละ 150-160 บาท ทำให้ของในประเทศแพงด้วย
กำลังจะบอกชาวสวนว่าอย่าเล่นตัว
อย่าเรียกราคาสูงมาก เดี๋ยวจะขายไม่ได้ ถ้าผู้ส่งออกทุกคนขาดทุนก็ไม่อยากส่ง เราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น
คนในประเทศบอกว่าดีเหมือนกัน จะได้กินทุเรียนราคาถูก
ก็ช่วงนี้เดือนนี้เดือนเดียว ก็ยังไม่ถูก ผมซื้ออยู่ประมาณกิโลละ 130 บาทซื้อตลาดมาแกะเนื้อ
เวลานี้จีนเข้ามาซื้อโดยตรงเองไหม
เยอะมาก คือเมื่อก่อนการค้าเป็นลักษณะพ่อค้าซื้อจากชาวสวน ตอนส่งออกไปก็ต้องผ่านคนกลางอีกรอบที่ตลาดกลาง ก็ส่งไปที่ปลายทางเมืองต่างๆ ตอนนี้คนจีนเข้ามาซื้อเอง ตัดคนกลาง แล้วตั้งล้งเองด้วย ไปซื้อตรงจากคนสวน แบบนี้จะเยอะ เป็นผลดีทำให้คนสวนได้ราคา แต่ปัญหาคือคนจีนมาซื้อไม่มีความรู้ทำให้ได้ของมีคุณภาพต่ำ ไม่รู้จักทุเรียนดีพอ ซื้อทุเรียนอ่อนบ้างแล้วบอกใช้ได้แล้ว เขาอยากได้ของก็ซื้อทุเรียนอ่อนไปแล้ว พยายามทำให้แก่ด้วยการจุ่มสี ขมิ้น น้ำยา ทำให้สีมันเหลืองเหมือนแก่ แบบนี้จะเยอะ
แล้วคู่แข่งจะฉวยจังหวะอะไรได้บ้าง ตอนนี้คู่แข่งน่ากลัวไหม เวียดนาม อินโดนีเซีย
อินโดนิเซียคิดว่าไม่ส่ง เขาผลิตทุเรียนได้มากกว่าไทย 3 เท่า แต่ปัญหาคือไม่เพียงพอการบริโภคในประเทศ เขาเลยไม่ส่งออก ส่วนเวียดนามส่งแน่นอน แต่คิดว่ารัฐบาลไทยสร้างโอกาสโดยการไม่แบนชาวจีนเข้ามาในประเทศไทย อันนี้ช่วยได้เยอะ คนจีนพยายามตอบแทนไทยด้วยการช่วยซื้อมากกว่าเวียดนาม อันนี้เป็นนิสัยเขาเลย อย่างประเทศไหนที่แบนจีน สังเกตอย่างฟิลิปปินส์รับรองปีนี้จะต้องโดนแบนกล้วยหอมเข้าจีนไม่ได้ ประเทศไหนแสดงท่าทางรังเกียจจีนเขาจะตอบโต้ทันทีปีนี้ อย่างเวียดนามปิดด่าน ของเวียดนามจะเข้าจีนยากขึ้น อัตราต่อรองจะยากขึ้น แม้แต่มังคุดจากอินโดนีเซียกำลังเจรจากันอยู่ว่าจะเข้าจีนได้ก็ต้องมีปัญหา จีนอาจจะแบนอีกรอบนึง อย่างทุเรียนจากมาเลเซียตกลงกันว่าจะส่งคิดว่าน่าจะมีปัญหา อาจจะให้เหมือนเดิม ส่งได้แค่แช่แข็งอย่างเดียว ฝากบอกชาวสวนด้วยว่าไม่ต้องตกใจมาก ยังเหมือนเดิม
Comentários