top of page
312345.jpg

หุ้นแบงก์ไทยยังไปต่อ


บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) หรือ MST ประเมิน หุ้นแบงก์ของไทยยังไปได้ NIM ฟื้นตัว ต้นทุนสินเชื่อลด หนุนกำไรต่อหุ้นครึ่งปีหลังเติบโต หุ้นเด่น KBANK, KTB และ KKP ขณะที่ SCB อาจเด่นขึ้นหลังผลประกอบการ Q2 ทำตลาดคลายกังวล

แม้ภาพรวมระดับมหภาคจะยังคงผันผวน แต่ บล.เมย์แบงก์(ประเทศไทย) ยังคงแสดงมุมมองเชิงบวกและคาดกำไรจะเติบโต 16% ในปี 2565 โดยย้ำว่า แบงก์ใหญ่น่าจะได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ซึ่งหุ้นเด่น ได้แก่ KBANK, KTB และ KKP ขณะที่ประมาณการกำไรสุทธิของ KKP และ KTB มีอัพไซด์เนื่องจากกำไรในครึ่งปีแรกแตะระดับ 60% ของประมาณการทั้งปี ส่วน SCB น่าจะดีดแรงในระยะอันใกล้เนื่องจากผลประกอบการไตรมาส 2 ออกมาดี ช่วยตลาดคลายกังวล SCB มี valuation น่าสนใจบน PE ปี 2565 ที่ 8 เท่า ใกล้เคียงกับ PE ของ KBANK หลังจากที่ราคาหุ้นร่วง 24% YTD

ทั้งนี้ จะเห็นว่า กำไรของกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้น 22% YoY (-2% QoQ) เป็น 4.35 หมื่นล้านบาท เนื่องจากต้นทุนสินเชื่อที่ลดลงในไตรมาส 2/2565 โดย KKP และ KTB เติบโตอย่างน่าประทับใจที่ 50% และ 39% ตามลำดับ โดยสินเชื่อของ KKP โตแกร่ง ขณะที่ KTB ต้นทุนสินเชื่อลดลง PPoP ของทั้งกลุ่มแบงก์ทรงตัว ในขณะที่ KKP และ SCB มีการเติบโต 9% และ 8% จากการเติบโตของ NII ที่แข็งแกร่ง สินเชื่อเติบโต 5.5% และ 1.2% อัตราส่วน NPL ลดลง 4bps QoQ มาอยู่ที่ 3.96% นำโดย SCB, KTB และ TTB โดยต้นทุนสินเชื่อลดลงเหลือ 1.3% ในไตรมาส 2/65 จาก 1.6% ในไตรมาส 2/2564

ธนาคารจะได้รับอานิสงส์จากผลตอบแทนจากสินเชื่อและการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถชดเชยต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นจากค่าธรรมเนียม FIDF ที่สูงขึ้นได้ จะเห็นอัพไซด์ต่อสมมติฐาน NIM ของในปี 2566 โดยเฉพาะธนาคารขนาดใหญ่ เมื่อมองไปถึงปี 2566 การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะนำไปสู่รายได้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนความสามารถของลูกค้าในการชำระหนี้ ส่งผลให้คาดว่าสินเชื่อเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้จะมีปริมาณน้อยลงและ NIM จะเพิ่มขึ้นในปีหน้า

มองเห็นโอกาสเข้าซื้อหุ้น SCB หลังประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2565

“เป็นโอกาสในการเข้าซื้อหุ้น SCB หลังจากรายงานกำไรสุทธิ ไตรมาส 2/2565 ที่ 1.0 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% โดยไม่มีผลขาดทุนจากการลงทุนอย่างที่ตลาดกังวล ราคาหุ้นร่วง 24% YTD จากความกลัวของตลาดว่าจะขาดทุนจาก mark-to-market จากการลงทุน SCB10x ในทางตรงกันข้าม SCB มีกำไรจาก mark-to-market 2.7 พันล้านบาทในไตรมาส 2/2565 โดย SCB เผยว่าได้จำกัดการลงทุนในเงินร่วมลงทุนที่ 110 ล้านดอลลาร์ เราคาดว่าต้นทุนสินเชื่อจะลดลงในครึ่งปีหลังเนื่องจากมีการตั้งสำรองเพิ่มเติม 2.5 พันล้านบาท ใน 2Q65 การเก็บเงินสดในไตรมาส 2/2565 แตะระดับสูงสุดตั้งแต่เกิดโรคระบาดในปี 2563”

13 views
bottom of page