top of page
379208.jpg

เปิดตัวหุ้นกู้ Crowdfunding ช่วย SME-นักลงทุนรายย่อย...'อินเวสทรี' โต้โผใหญ่ตลาดหุ้นกู้



Crowdfunding แหล่งระดมทุนรูปแบบใหม่ของ SME คนตัวเล็ก ออกเป็นหุ้นกู้ให้นักลงทุนรายย่อยเข้ามาลงทุน ผลตอบแทนเฉลี่ย 10-14% ต่อปี แต่นักลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงสูงที่มาคู่กัน ตัวกลางระดมทุน Crowdfunding ที่ถูกกฎหมายต้องมีใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. ขณะนี้ตลาดหุ้นกู้ Crowdfunding ของไทยมียอดรวม 570 ล้านบาทจากบริษัทที่ออกหุ้นกู้ 75 ราย โดยบริษัทตัวกลางรายใหญ่คือ อินเวสทรี ที่ดูแลการออกหุ้นกู้ให้ SME รวม 22 ราย หรือ 30% ของหุ้นกู้ Crowdfunding ทั้งหมด CEO ของอินเวสทรี แจง...Crowdfunding เป็นการช่วยให้ธุรกิจ SME ไทยเดินหน้าได้ต่อ หลักการการเป็นตัวกลางออกหุ้นกู้ของอินเวสทรีคือเป็นธุรกิจ SME ที่ยังมีโอกาสไปได้ต่อ มีคู่ค้าที่ดี แม้จะไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันก็ตาม พร้อมแนะนักลงทุนรายย่อยที่สนใจลงทุนในหุ้นกู้ Crowdfunding ว่าต้องเฉลี่ยการลงทุน ไม่เทหนักตักลงในหุ้นกู้ตัวใดตัวเดียว ศึกษารายละเอียดกิจการของบริษัทที่ออกหุ้นกู้ ที่สำคัญคือต้องลงทุนในหุ้นกู้ที่บริหารโดยตัวกลางที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต.เท่านั้น


Interview : คุณณัทสุดา พุกกะณะสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเวสทรี (ไทยแลนด์) จำกัด



ช่วยอธิบายเรื่องคราวด์ฟันดิง

คำว่า คราวด์ฟันดิง มาจากศัพท์ภาษาอังกฤษ คราวด์คือฝูงชน ส่วนฟันดิง คือระดมทุน ดังนั้นก็หมายความว่าการระดมทุน ผู้ช่วยโครงการ กิจกรรม ธุรกิจ จากฝูงชน สำหรับเมืองไทย จะมีใบอนุญาตออกมาจากก.ล.ต. เรียกว่าหุ้นกู้ คราวด์ฟันดิง จริงๆ แล้วก็คือการที่เอสเอ็มอีสามารถที่จะออกหุ้นกู้มาระดมทุนจากนักลงทุนผ่านแพลตฟอร์ม ทีนี้สิ่งสำคัญก็คือแพลตฟอร์มทำหน้าที่เป็นผู้วิเคราะห์เอสเอ็มอี เป็นผู้ที่ดูแลการลงนามสัญญา และเป็นผู้ที่ดูแลการติดตามชำระเงิน


ตอนนี้เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายแล้ว

ใช่ อยากจะบอกว่าหุ้นกู้คราวด์ฟันดิง อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยก.ล.ต. ดังนั้น ตอนนี้ในเมืองไทยก็มีผู้เล่นหลายรายแล้ว จะมีคนที่ออกหุ้นอย่างเดียวบ้าง มีคนออกหุ้นกู้อย่างเดียวบ้าง อย่างเราเองได้ใบอนุญาตหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงจาก ก.ล.ต. เพราะฉะนั้น เวลานักลงทุนสนใจลงทุนหุ้นกู้คราวด์ฟันดิง ควรจะดูว่าบริษัทนั้นอยู่ในรายชื่อที่ได้รับใบอนุญาตหรือยัง ขั้นตอนการอนุมัติก็ไม่ง่าย คือเหมือนเขาจะเป็นบริษัทหลักทรัพย์ในการที่จะได้ใบอนุญาตใบหนึ่งมา


การลงทุนในหุ้นกู้คราวด์ฟันดิง น่าสนใจแค่ไหน ดีกว่าการลงทุนอย่างอื่น

หุ้นกู้โดยธรรมชาติออกโดยบริษัทใหญ่ ส่วนหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงออกโดยเอสเอ็มอี ฉะนั้นสิ่งที่พิเศษคือ หนึ่งนักลงทุนได้มีโอกาสที่จะลงทุนในเอสเอ็มอีที่เป็นกระดูกสันหลังของทุกประเทศ สองหุ้นกู้ที่ออกโดยเอสเอ็มอีนับว่าเป็นหุ้นกู้ที่มีความเสี่ยง ผลตอบแทนจะสูงเพื่อให้คุ้มกับความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องรับ ตัวอย่างของอินเวสทรีเอง หุ้นกู้ที่เราช่วยออกจะมีอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นต่อปี 6-26% ถ้าหากนักลงทุนเข้ามาลงทุนในทุกตัวที่เราออก ลงทีละนิดทีละหน่อยทุกตัว ผลตอบแทนเฉลี่ยที่นักลงทุนได้รับคือประมาณ 10% เกือบ 14% ต่อปี ซึ่งถ้าเอา 14% ต่อปีไปเปรียบเทียบกับการลงทุนอื่นๆ ในปัจจุบัน ก็เชื่อว่าจะเป็นผลตอบแทนที่สูง คือเงินฝากคุณได้ดอกเบี้ย 25 สตางค์ แต่ถ้าคุณลงทุนในหุ้นกู้ Triple D ลบ ในตลาดตอนนี้ก็อาจจะได้ 4.7% ต่อปี เรากำลังบอกว่าคุณสามารถลงทุนในเอสเอ็มอีรายเล็ก แต่ว่าคุณได้ผลตอบแทน 14% ต่อปี คือให้ผลตอบแทนสูง

จริงๆ แล้ว มันเป็นอะไรที่ใหม่ หุ้นกู้จะเป็นอะไรที่ใหม่สำหรับเอสเอ็มอี ฉะนั้นอย่างที่บอก สำหรับนักลงทุนในหุ้นกู้ ในหุ้น การลงทุนในทองคำ และสนใจที่จะลงทุนในเอสเอ็มอี คราวด์ฟันดิงเป็นอีกทางหนึ่งที่อยากจะให้เข้ามาศึกษา


ปัจจุบันมีเอสเอ็มอีเข้ามาให้เลือกที่จะลงทุนมากขนาดไหน

ตอนนี้เป็นความภูมิใจอย่างหนึ่งของอินเวสทรี ก.ล.ต.ให้ข่าวว่าตอนนี้ตลาดหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงทั้งหมดตอนนี้ 570 ล้านบาทโดยรวมที่มีหุ้นกู้ออกมา จำนวนผู้ออกหุ้นกู้หรือนิติบุคคลที่ไม่ใช่บริษัทมหาชนมีทั้งหมด 75 ราย อินเวสทรีช่วยไปแล้ว 22 ราย ฉะนั้นจริงๆ แล้วเรามีผู้ออกหุ้นกู้หรือบริษัทเอสเอ็มอีให้เลือกอยู่ 22 บริษัท ซึ่งนับเป็น 30% ของมาร์เก็ตแชร์ของหุ้นกู้

สิ่งสำคัญที่เราภูมิใจมากก็คือคนที่มาออกหุ้นกู้กับอินเวสทรี มาจากหลายอุตสาหกรรม ยกตัวอย่างเช่นบริษัทที่รับเช็ดกระจกตึกสูงตามพระรามสี่ เขามีสัญญาระยะยาวกับบริษัทใหญ่ แต่เขาเป็นรายเล็ก เขาต้องจ้างพนักงานรายวัน แต่รับสัญญารายปี เขาก็เอาอินวอยซ์มาเป็นหลักฐานมาออกหุ้นกู้ หรือว่าเรามีบริษัทที่เป็นซัพพลายเออร์เซ็นทรัลฟู้ดเป็นต้น เขาก็มีใบอินวอยซ์จากเซ็นทรัลฟู้ด เขาก็สามารถเอาใบอินวอยซ์มาออกหุ้นกู้กับเรา คืออินเวสทรีเราเน้นช่วยเอสเอ็มอีที่หนึ่งยังไปได้ สองไม่มีหลักค้ำประกัน สามมีคู่ค้าที่ดี ตรงนี้เป็นอะไรที่นักลงทุนชอบ เพราะเป็นการลงทุนระยะสั้น ได้ดอกเบี้ยสูง แต่ว่าไม่ใช่จะไม่มีหุ้นกู้ระยะยาว ซึ่งหุ้นกู้ระยะยาวของเราคือ 12 เดือน ด้วยเหตุว่าโควิดสำหรับเอสเอ็มอีจะมีความไม่แน่นอนสูง ฉะนั้น เราก็จะจำกัดว่าเราออกได้ไกลสุด 12 เดือน พูดง่ายๆ เวลามาลงทุนหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงกับอินเวสทรี คุณสามารถเลือกลงทุนในเอสเอ็มอีที่หลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี กระจายความเสี่ยงได้ดี


ถ้าเป็นนักลงทุนหน้าใหม่เลย อยากจะเข้าไป ต้องทำอย่างไรบ้าง

วิธีการสมัครคือเข้ามาที่เว็บไซต์เรา www.investree.co.th สมัครคล้ายกับสมัครบัญชีหลักทรัพย์ คือต้องมีบัตรประชาชน ถ่ายรูปมาให้เราดู แต่สิ่งที่สำคัญสำหรับนักลงทุนก็คือ อยากให้ศึกษาวิธีการลงทุน ความเสี่ยงที่มากับการลงทุนในหุ้นกู้ที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน หุ้นกู้เอสเอ็มอี เรามีแหล่งข้อมูลเยอะมากให้ศึกษาในเว็บไซต์ของเรา เราอยากให้ทุกคนอ่าน แต่จริงๆ ขอเน้นว่า อินเวสทรีเปิดทางให้นักลงทุนรายย่อยมีโอกาสลงทุนได้เหมือนนักลงทุนรายใหญ่ ถ้าคุณเข้าใจความเสี่ยง คุณเข้ามาสมัครแล้วคุณสอบผ่าน คุณรับความเสี่ยงได้ เราเปิดทางให้นักลงทุนทุกระดับลงทุน การลงทุนขั้นต่ำเราเริ่มต้นที่ 5,000 บาท คราวด์ฟันดิงโดยการสร้างของมันเป็นการให้รายย่อยลงทุน ไม่ใช่รายใหญ่ และเราใช้แพลตฟอร์ม ดังนั้น ค่าใช้จ่ายที่เราจะช่วยนักลงทุนให้เข้าถึงแหล่งการลงทุนมันต่ำ วิสัยทัศน์ของเราคืออยากให้นักลงทุนรายย่อยมีโอกาสที่จะลงทุน


เข้าไปซื้อแล้วต้องถือยาวไป 12 เดือน หรือจะมีตลาดรอง

เรื่องตลาดรอง ของหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงยังเป็นเรื่องที่ลำบาก คำว่าตลาดรองก็คือ หนึ่งต้องมีการตีราคาหุ้นกู้ตัวนั้นได้ ฉะนั้น อยากจะให้นักลงทุนคิดไว้เลยว่าหุ้นกู้คราวด์ฟันดิง ไม่มีตลาดรอง เพราะถ้าจะไปขายต่อคุณจะตีราคาอย่างไร ตรงนี้คือตีราคายาก แม้แต่หุ้นกู้รายใหญ่ถึงจะมีราคาให้ดู แต่ถามว่ามีสภาพคล่องไหม จากประสบการณ์ส่วนตัวเองในการทำธนาคารวาณิชมานี้ สภาพคล่องหุ้นกู้รายใหญ่ก็ไม่มีเหมือนกัน คือมีราคาแต่ไม่มีคนซื้อ ยิ่งหุ้นกู้เอสเอ็มอีที่ไม่มีสภาพคล่องก็ยิ่งยาก


คนที่จะเข้าไปลงทุนใน 22 บริษัทที่อินเวสทรีมีสินค้าอยู่ สามารถช้อปได้เลยใช่หรือไม่ ทางอินเวสทรีมีบทวิเคราะห์ให้นักลงทุนดูหรือไม่ว่าควรจะเข้าไปซื้อตัวไหนอย่างไร

มีตอนนี้เนื่องจากว่าของเราขายหมดไปพอสมควร นักลงทุนที่เข้ามาเป็นสมาชิกแอกทีฟพอสมควร แต่ถ้าเรามีหุ้นกู้ประกาศขาย สมาชิกจะได้รับอีเมลจากเรา พอได้รับอีเมลก็เข้ามาดู เวลาดูเราจะมีคำอธิบายว่าใครที่ออกหุ้นกู้ ทำธุรกิจอะไร เขาเป็นคู่ค้ากับใคร เขาเป็นบริษัทใหญ่ขนาดไหน จากนั้นคุณก็เริ่มลงทุนได้เลย อาจจะเริ่มลงทุนในบริษัทหรืออุตสาหกรรมที่คุ้นเคย แต่สิ่งสำคัญที่จะบอกนักลงทุนคือให้กระจายการลงทุน ไม่ใช่ว่าลงทุนในหุ้นกู้ที่ได้ดอกเบี้ย 20% อย่างเดียว คุณควรจะลงในแทบทุกตัวที่เราออก เพราะดอกเบี้ย 8% 9% 12% 15% ไม่เท่ากัน ต้องเฉลี่ย ง่ายๆ คือให้คิดเหมือนแบงก์ เวลาแบงก์เอาเงินฝากเราไปปล่อยสินเชื่อ แบงก์ก็ไม่ได้กระจุกที่ตัวใดตัวหนึ่ง พูดง่ายๆ คือตัวสองตัวมีปัญหา กับอีก 8 หุ้นไม่มีปัญหา คุณก็ยังได้เงินต้นแถมกำไรคืน ข้อสำคัญคือศึกษาสิ่งที่เราให้ และกระจายความเสี่ยง

67 views

Comments


bottom of page