top of page
312345.jpg

มองทองคำเป็นขาขึ้น เชื่อในปีนี้มีโอกาสแตะ 1,900 เหรียญ


Interview : นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ

ประธานกรรมการฝ่ายบริหาร

กลุ่มบริษัท แม่ทองสุก MTS Gold และ MTS Gold Futures


ปัจจัยพื้นฐานจากยอดคนว่างงานในอเมริกามากเกินคาด เงินดอลลาร์อ่อนค่า และอัตราดอกเบี้ยเป็นขาลง รวมถึงปัจจัยทางเทคนิคที่ทองคำขยับจาก 1,700 เหรียญ มายืนเหนือ 1,800 เหรียญ ทำให้ภาพของทองคำเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน เชื่อในปีนี้ทองคำมีโอกาสแตะ 1,900 เหรียญได้ แนะนักลงทุนที่ตกรถเที่ยวนี้จับจังหวะเข้าออกดีๆ มีสิทธิ์ทำกำไรได้เหลือเฟือ โดยตั้งธงว่าแนวรับที่สำคัญอยู่ที่ 1,800 เหรียญ ควรเข้าซื้อมากกว่าขาย และยึดหลักว่าทองคำเป็นขาขึ้นแน่นอน ส่วนนักลงทุน Gold Futures อย่าสวนกระแส ต้องรีบปิดสถานะ short มาเป็น long เพื่อทำกำไรในช่วงขาขึ้น มั่นใจ...ปัจจัยลบที่มีผลต่อราคาทองคำโดยเฉพาะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed ไม่น่าจะเกิดในภาวะเช่นนี้


สถานการณ์โควิดที่ระบาดหนักมีผลกระทบกับการซื้อขายทองคำในตลาดทอง Futures หรือตามร้านห้างต่างๆ

กระทบ ถ้าเป็นทองรูปพรรณถูกกระทบประมาณครึ่งนึงหรือ 50% เป็นอย่างน้อย โดยเฉพาะถ้าอยู่ตามห้างกระทบ 80% แต่ถ้าอยู่นอกห้างกระทบไม่น้อยกว่า 50% ทองในอีกรูปแบบนึงอย่างที่เราทราบกันคือการลงทุนไม่ว่าจะเป็นลักษณะ Gold Spot หรือ Gold Futures กระทบบ้างแต่ไม่มากประมาณ 20% เริ่มปรับลดลงมาบ้าง


ยังมีการเทรดทางออนไลน์ จากทางบ้าน ที่ทำงาน กันได้ใช่ไหม

ใช่ เป็นความสะดวกของโลกยุคใหม่ การซื้อขายทางออนไลน์ไม่จำเป็นต้องเดินทางมาพบกัน ในยุคโควิดแบบนี้ การลงทุนในทองคำในขณะนี้ถือว่าน่าสนใจโดยเฉพาะ 2 เดือนที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นเมษายนถึงปัจจุบัน ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างน่าสนใจ ในช่วงไตรมาสแรกทองคำมีแรงกดดันมาจากโควิดและการกระตุ้นเศรษฐกิจของไบเดน มีแรงกดดันสูงมาก ทองคำร่วงมาตลอดจาก 1,900 เหรียญต้นๆ ลงมาถึง 1,678 แต่ตอนนี้เป็นช่วงฟื้นกลับของราคาทองคำโดยเฉพาะสองสัปดาห์ที่แล้วที่ราคาดีดขึ้นมาตลอด


ขึ้นมาด้วยอานิสงส์จากตัวเลขการจ้างงานในสหรัฐอเมริกาที่คนว่างงานสูงเกินคาด

โดยภาพรวมอานิสงส์จากภาพใหญ่ที่ไบเดนอัดฉีดเงิน QE 1.9 ล้านล้านเหรียญ ซึ่งอัดฉีดมาตั้งแต่ประมาณกลางเดือนมีนาคม เริ่มมาออกผลเมษายนและมีความชัดเจนมากขึ้น ตัวเลขเศรษฐกิจในสหรัฐดูเหมือนดีขึ้น ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ในช่วง 7-8 สัปดาห์ ค่อยๆ ขยับตัวลดลงจากระดับ Index ประมาณ 92 ต้นๆ ลงมาเหลือประมาณ 90.8 และอย่างที่เราทราบกันว่าตัวเลขการจ้างงานแย่กว่าที่คาดกัน เขาคิดว่าการจ้างงานจะกลับมา 500,000 ตำแหน่ง แต่ออกมาแค่ 200,000 กว่าตำแหน่ง ทำให้ดอลลาร์ร่วงหนักและทำให้ทองคำขึ้นไปอีกประมาณเกือบ 20 เหรียญ


ลักษณะเช่นนี้จะเป็นอีกนานไหม หรือแค่ชั่วคราว

ปัจจัยด้านพื้นฐานเป็นผลบวกต่อราคาทองคำ คือ QE 1.9 ล้านล้าน นำมาสู่การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ ปัจจัยที่ 2 คือเริ่มมีภาวะเงินเฟ้อเกิดขึ้น จะเห็นได้ว่าในช่วง 3-4 สัปดาห์นี้สินค้าเกี่ยวกับโภคภัณฑ์เกือบทุกตัวราคาสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เหล็ก ทองแดง น้ำมัน น้ำตาล ทองคำก็เริ่มขึ้นตามมา ก็มาจากปัจจัยของเงินเฟ้อ สิ่งสำคัญที่สุดที่นักลงทุนกังวลและได้รับการยืนยันว่าไม่มีคือการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นเรื่องกังวลมาตลอดว่าถ้ามีเงินเฟ้อมากๆ ในช่วงไตรมาส 2 คาดว่าจะมีเงินเฟ้อเยอะในไตรมาสนี้ เพราะเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปีที่แล้วที่เป็นโควิดเขาเรียกว่าเป็นเหว คือภาวะที่เงินเฟ้อมา เศรษฐกิจฟื้นบ้าง แต่ดอกเบี้ยสหรัฐคิดว่ายังคงตัวอยู่ การที่ดอกเบี้ยคงตัวในระดับต่ำ 0-0.25 เป็นประเด็นพื้นฐานที่จะทำให้ราคาทองคำเป็นทิศทางขาขึ้นได้ในระยะยาว

กลับมาดูด้านปัจจัยทางเทคนิค ซึ่งบอกว่าราคาทองคำตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนสามารถยืนขึ้นมาเหนือ 1,700 เหรียญได้ แล้วมายืนบริเวณ 1,730 เป็นแนวต้านระยะสั้น แล้วมายืนเหนือ 1,750 เป็นแนวต้านระยะกลาง สิ่งสำคัญคือสองสัปดาห์ที่แล้ว ทองคำขึ้นมาทดสอบยืนเหนือ 1,800 เหรียญ เรียกว่าขึ้นมาแล้ว 130 เหรียญในช่วงเวลา 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา และผ่านมาที่ 1,830 เหรียญ สรุปคือ ปัจจัยด้านเทคนิคของราคาทองคำเป็นขาขึ้นโดยสมบูรณ์ทั้งระยะสั้น กลาง ยาว เรียกว่าเปลี่ยนแนวโน้มจากทิศทางขาลงในระยะ 2-3 เดือนก่อนกลับมาเป็นขาขึ้นใหม่ ภาพรวมตรงนี้จากที่เราจะเห็นราคาทองคำขึ้นยาวๆ น่าจะมีสูง


เที่ยวนี้คิดว่าขาขึ้นจะไปได้ไกลเท่าไหร่ นานไหม

ไกลสุดเท่าไหร่เราอย่าเพิ่งไปทำนายกัน แต่ผมคิดว่าโอกาสที่จะเห็น 1,900 เหรียญในปีนี้มีสูง แต่ไกลสุดๆ ราคาเป้าหมายที่คนอยากเห็นคือจุดสูงสุดเดิมเมื่อปีที่แล้วบริเวณ 2,050 เหรียญ แต่คิดว่ายังไกลเกินกว่าที่ฝัน เอาเป็นว่าถ้านักลงทุนมองให้ถูกทิศทาง แล้วลงทุนในแนวโน้มทิศทางขาขึ้น โดยมีราคาที่คาดมีในใจว่ามีโอกาสแตะ 1,900 เหรียญ ในช่วงนี้หากลยุทธ์หรือหาวิธีการลงทุนที่ถูกก็จะสามารถทำกำไรได้เหลือเฟือ


ถ้ามีเหตุพลิกล็อกหรือมีข่าวร้ายสำหรับทองคำ จะลงมาได้เท่าไหร่

ขึ้นกับข่าวร้ายที่กำลังจะเข้ามา ข่าวร้ายที่สุดที่ทองกลัวคือการขึ้นดอกเบี้ย แต่โดยภาพรวมโอกาสที่จะเห็นเฟดขึ้นดอกเบี้ยน่าจะน้อยมาก อย่าลืมว่าอยู่ๆ เยลเลนก็ออกมาพูดว่าถ้าร้อนแรงมากจะขึ้นดอกเบี้ย จริงๆ แล้วไม่น่าจะใช่ เฟดออกมายืนยันตลอดว่าในภาวะเศรษฐกิจยังฟื้นไม่ได้แข็งแรง โดยเฉพาะคนยังว่างงานอยู่เยอะ โอกาสที่จะขึ้นดอกเบี้ยมีต่ำมาก หมายความว่าตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ที่ออกมาที่อาจจะเป็นข่าวร้ายต่อราคาทองคำคือตัวเลขที่ดีๆ ของสหรัฐ และออกมาดีมากๆ น่าจะเป็นข่าวร้ายในช่วงระยะเวลาสั้นๆ

แนวรับที่สำคัญในระยะสั้นหรือกลางจะอยู่ที่บริเวณ 1,790 เหรียญ ถ้าเราเห็นราคาย่อมาบริเวณ 1,800 เหรียญน่าจะเป็นจังหวะในการเข้าซื้อมากกว่าขาย


การเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำครั้งนี้ บรรดาขาใหญ่ของกองทุนทำอะไรบ้าง

พวกกองทุนใหญ่ที่สุดในโลก คือ SPDR เริ่มซื้อทองคำ แต่ยังไม่มาก แต่ถือว่าพลิกจากช่วงประมาณ 4 เดือนเศษๆ ที่ SPDR ขายทองคำมาตลอดกว่า 160 ตัน ช่วงสองสัปดาห์ที่แล้ว SPDR เริ่มมาซื้อบ้าง 2 short โดย short แรกประมาณ 2 ตัน short ที่ 2 ประมาณตันเศษๆ ยังซื้อไม่เยอะ เพราะ SPDR ขายออกมาเยอะมากในช่วง 5-6 เดือนที่ผ่านมา ถือว่าแรงซื้อกลับของกลุ่มนักลงทุนยังเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นเอง เพราะการเปลี่ยนเทรนด์จากขาลงเป็นขาขึ้นมันเพิ่งเปลี่ยนได้ 2-3 สัปดาห์นี้เอง โอกาสที่มีระยะทางวิ่งไกลยังมีอยู่สูง


พวกที่ถือทองคำแท่ง ทองคำจริงๆ ทองรูปพรรณในไทย ในสัปดาห์ที่ผ่านมาขนทองมาขายกันบ้างไหม

เริ่มมีแรงเทขายจากนักลงทุนคนไทยถ้าเทียบกับสมัย 3 ปีก่อน โควิดมีสภาวะแบบนี้แรงขายน่าจะมากกว่านี้เท่าตัว หมายความว่านักลงทุนไทยหรือนักลงทุนรอบๆ ตอนนี้ถือครองทองคำปริมาณไม่เยอะ เพราะขายออกมาก่อนหน้านี้และยังไม่ซื้อกลับเท่าไหร่ การซื้อกลับเข้ามาไม่มากเหมือนในอดีต ดังนั้นเราจะเห็นแรงขายเข้ามาในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว แต่ถ้าเทียบกับ 3 ปีที่แล้ว ผมว่าเทียบกันได้ครึ่งเดียว


เป็นเพราะกลัวโควิดหรือไม่คนเลยไปเข้าแถวขายน้อย

ใช่ น้อยลง ผมคิดว่าเรื่องโควิดเป็นปัญหารอง แต่เรื่องภาวะเศรษฐกิจที่คนต้องจับจ่ายใช้สอยอื่นๆ มีสูง ทำให้คนที่ตุนทองในอดีตอาจจะตุนได้น้อยลง หรือขายไปแล้วยังไม่ทันกลับมาซื้อในช่วงที่ราคาดีดกลับขึ้นมา ทำให้แรงขายตอนนี้ไม่มาก ประกอบกับการซื้อขายเดี๋ยวนี้เป็นออนไลน์ digital system ทำให้นักลงทุนไม่จำเป็นต้องหิ้วทองไปมา อย่าง MTS Gold แม่ทองสุก สามารถซื้อขายฝากทองก็ไม่ต้องมา เพราะช่วงโควิดจะมาก็ลำบาก ท่านซื้อขายเอาเงินกลับได้เลย


ช่วยแนะนำคนที่ตกรถไม่ทันหรือคนที่เก็งผิดทาง

สำหรับคนที่ตกรถและอยากลงทุนในทองคำ ให้หาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว แนวรับที่สำคัญ 1,800 เหรียญ ถ้ารับให้เร็วก็ 1,810 เหรียญบวกลบ หาจังหวะในการเข้าซื้อเพื่อลงทุนในแนวโน้มทิศทางขาขึ้น กลับกันสำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในทิศทางขาลงใน Gold Futures ที่คิดว่าทองจะลงเพราะขึ้นมาเยอะแล้ว คำแนะนำคือ ปิดสถานะ short เพราะการเล่นตรงกันข้ามกับแนวโน้มหลักผมคิดว่าท่านจะเสียเปรียบ ท่านต้องคำนึงถึงเรื่องการควบคุมความเสี่ยงให้ดี สรุปคนที่ถือ short position ควรลดสถานะ short หรือจาก short มาเป็น long มากกว่าเพื่อทำกำไรจากแนวโน้มทิศทางขาขึ้น

15 views
bottom of page