บิตคอยน์ข้ามเส้น 9,000 ดอลลาร์ เป็น New High ครั้งแรกของปีนี้แบบ flash hike แล้วถอยกลับ ส่งสัญญาณว่า จะมีอีกหลายนิวไฮจนกว่าจะถึงการทำ halving เดือน พ.ค.
เมื่อกลางเดือน ม.ค. ก่อน ราคาบิตคอยน์ทะยานขึ้นไปแตะ 9,166 ดอลลาร์ สร้างความตื่นใจกันไปทั่ว เพราะเป็นการทะลุเส้น 9,000 ดอลลาร์ที่เป็นแนวต้านแรกของปี 2020
บรรดานักวิเคราะห์พากันวิเคราะห์ทั้งเชิงบวกและเชิงลบว่ามันจะข้ามเส้น 10,000 หรืออาจะถึง 14,000 ได้ในราวกลางปี
เหมือนกับปีที่แล้วที่ขึ้นไปถึง 13,000 ดอลลาร์เมื่อเดือนมิถุนายน และขึ้นๆ ลงๆ จนถึงสิ้นปี 2019 ที่ 6,900 ดอลลาร์
เมื่อขึ้นปี 2020 ราคาค่อยๆไต่ขึ้นมา จาก 8,700 ดอลลาร์ พรวดพราดทะลุ 9,000 หรือเพิ่มขึ้นมาถึง 34%
คนไทยที่ซื้อบิตคอยน์เก็บไว้เมื่อสิ้นปี ตอนนี้จะมีกำไรคอยน์ละ 68,000 บาท แต่ถ้ายังเก็บต่อ เหตุจากราคาผ่านเส้น 9,000 ได้ชั่วครู่แล้วถอยกลับ จากการเทขายทำกำไรและมานิ่งที่ 8,841 ภายในเวลา 24 ชั่วโมง
เมื่อขายไม่ทันราคาพีค ก็ต้องรอขึ้นรอบใหม่ ซึ่งเชื่อว่าจะมีการทำนิวไฮกันอีกหลายครั้งในปีนี้
เหตุผลที่สนับสนุนแนวโน้มนี้ก็คือ ความผันผวนของสถานการณ์โลกและค่าดอลลาร์ ทำให้นักลงทุนต้องหันเข้าหาแหล่งพักพิงที่ปลอดภัย
นอกจากทองคำแล้ว แหล่งปลอดภัยของเงินตราอีกแหล่งก็คือเงินคริปโต ที่กลายเป็น digital gold ไปแล้วในยามนี้
อีกปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้บิตคอยน์พุ่งทะลุเพดาน 10,000 ในปีนี้ก็คือ การทำ halving ที่เกิดขึ้นทุกๆ 4 ปี
ปีนี้ การทำ halving จะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคม
การทำฮาล์ฟวิ่งบิตคอยน์นั้น ผู้สร้างบิตคอยน์ Satoshi Nakamoto มีจุดประสงค์ที่จะให้การถือครองบิตคอยน์เป็นไปแบบกระจายมากกว่ากระจุก
การที่ต้อง “ลดครึ่ง” จำนวนบิตคอยน์เกิดใหม่นั้น เกิดจากการที่ นากาโมโต้ได้เขียนโค้ดให้นักขุดบิตคอยน์ช่วยกันถอดสมการและปิดบล็อกเก็บข้อมูลธุรกรรม จากนั้นเอาไปต่อเป็นห่วงโซ่กับบล็อกอื่น ๆ เมื่อปิดบล็อกได้สมบูรณ์แล้ว ก็จะมีบิตคอยน์เกิดใหม่ขึ้นมาทุก ๆ 10 นาที
ช่วงต้นๆที่สร้างบิตคอยน์ในปี 2009 บิตคอยน์ที่เกิดใหม่ทุกๆ 10 นาทีต่อบล็อกมีถึง 50BTC ต่อบล็อก
จน 4 ปีต่อมาจึงถูก halving ลดครึ่งเหลือ 25BTC ต่อบล็อก
ปี 2016 ถูกลดครึ่งจำนวนคอยน์เกิดใหม่เหลือ 12.5 BTC
ปี 2020 จึงน่าจะเเหลือ 6.25 BTC ต่อบล็อก
วัฏจักรของการฮาล์ฟวิ่งบิตคอยน์ จะไปสิ้นสุดที่ปี 2040 นั่นหมายถึงบิตคอยน์ถูกขุดขึ้นมาจนหมดสิ้นแล้ว
สำหรับการลดครึ่งครั้งนี้จะตรงกับวันที่ 22 พฤษภาคมนี้
การลดครึ่งก็คือการจำกัดจำนวนคอยน์เกิดใหม่ ทำให้เกิดแรงกระตุ้นราคา จนมีแนวโน้มว่าจะพุ่งไปถึง 13,000-14,000 ดอลลาร์
บางสำนักวิเคราะห์แนวโน้มราคาบิตคอยน์ถึงกับชี้ว่า น่าจะถึง 20,000 หรือ 40,000 ดอลลาร์ แต่อีกด้าน กลุ่มมองโลกแง่ร้าย บอกว่าเมื่อมีแรงส่ง ก็มีต้องมีแรงฉุด
ราคา Bitcoin ที่มีวี่แววว่าจะพุ่งขึ้นแบบทะลุทะลวงแนวต้านเป็นช่วงๆนั้นมีสิทธิจะถูกทุบได้เช่นกัน เพราะมีพวกที่รอขาย จ้องหาโอกาสอยู่ ขึ้นอยู่กับว่า จะพอใจราคาไหน และมีจังหวะขายได้เมื่อใดเท่านั้น