ดร.วิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ แนะนักลงทุนจัดทองไว้ในพอร์ต เหตุข่าวร้ายต่อเศรษฐกิจโลกยังมีอยู่เยอะ ซึ่งทำให้ทองคำจะยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจ และแนวโน้มราคายังเป็นขาขึ้น อย่างไรก็ตาม หากใครถือทองไว้ที่ต้นทุน 1,600-1,700 ดอลลาร์ ควรแบ่งออกขายรับกำไรบางส่วน โดยเฉพาะเมื่อราคาขึ้นมาที่ 1,850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นจุดหมุนสำคัญ ส่วนใครที่จะซื้อให้ใจเย็นรอจังหวะย่อสู่แนวระดับ 1,820-1,800 และ 1,780 ถึงจะมีโอกาสชนะ
สัญญาณตลาดทองคำตอนนี้เป็นอย่างไร
เดือนที่แล้ว เรารู้สึกว่าราคาไม่น่าจะไปไหนได้แล้ว ปรากฏว่าช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์อย่างหนึ่ง คือทาง โจ ไบเดน ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาบอกว่าจะอัดฉีดเงินก้อนใหญ่ 2 ก้อน ประมาณ 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ กับอีก 1.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เรียกได้ว่าตั้งแต่ที่ โจ ไบเดน เข้ามาเป็นประธานาธิบดีก็มีการอัดฉีดด้วยเม็ดเงินที่ว่านี้เพื่อเยียวยาและเพื่อช่วยเหลือทางด้านเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาเอง 2 ชุด กล่าวคือชุดแรกตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งประมาณ 1.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ กับชุดที่สอง 2 อีกกว่าล้านล้านเหรียญสหรัฐ ก็เลยทำให้ราคาทองคำดูเหมือนจะแย่ ไปไหนไม่ค่อยได้ อยู่แถวๆ ต่ำสุดที่ประมาณ 1,680 เหรียญต่อออนซ์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 24,500 บาทต่อน้ำหนักทองคำหนึ่งบาท แต่พอต่ำสุดก็เริ่มมีการซื้อเก็งกำไรขึ้นมา โดยมายืนแถวๆ สัก 25,000 กว่าบาท
หลังจากนั้น พอเกิดเหตุการณ์ช่วงที่เรียกว่ามีข่าวกดดันราคาทองก็จะเป็นเรื่องของ Bond Yield ของสหรัฐอเมริกาเองที่ทางนักลงทุนมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาน่าจะดีขึ้น เพราะมีการระดมฉีดวัคซีนทั่วประเทศตามคำสัญญาของ โจ ไบเดน ที่บอกว่าจะระดมฉีดให้ได้ทั้งประเทศให้เกิดเป็นภูมิคุ้มกันหมู่ภายในวันชาติของเขา ก็ทำได้ดี ฉีดได้กว่า 100-160 ล้านโดส ก็เลยทำให้ภาพที่นักลงทุนมองคือพอมีภูมิคุ้มกันแล้วโรคโควิด-19 จะคลี่คลาย ก็ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจ้างงาน ที่จะทำให้อัตราการว่างงานลดน้อยลง เลยกดดันทำให้ราคาทองไม่ค่อยจะไปไหน เป็นผลบวกต่อดอลลาร์สหรัฐเสียมากกว่า
จนกระทั่งเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่มีเงินอัดฉีดออกมา ราคาทองก็ปรับตัวสูงขึ้น จริงๆ มีการปรับตัวสูงขึ้นเมื่อช่วงสงกรานต์เดือนเมษายนเป็นต้นมา คือยืนใกล้ๆ 26,000 บาทต้นๆ พอมีเหตุการณ์ก็มีเงินอัดฉีดเข้ามาจำนวนมากที่ทำให้มีความกังวลเรื่องสภาวะเงินเฟ้อ ก็เลยทำให้มีแรงซื้อเข้ามาที่สินทรัพย์เป็นที่เรียกว่าคานอำนาจกับเงินเฟ้อก็คือทองคำ จากประมาณตอนแรกวิ่งแถวๆ 1,760 เหรียญถึง 1,800 เหรียญ พอมีข่าวเรื่องการอัดฉีดเงินเข้ามาก็ผ่านไปถึง 1,800 เหรียญ และ 1,820 เหรียญ ขึ้นไปทดสอบระดับ 1,825 เหรียญภายในวันเดียว และถูกแรงขายกดดันลงมา มาปิดที่ 1,830 เหรียญ เพราะพอเข้า 1,850 เหรียญก็จะเป็นแนวต้านที่สำคัญแนวหนึ่ง แถวๆ นั้นจะทำให้มีแรงขายออกมาก่อน
ดูแนวโน้มจะเป็นทางขึ้นมากกว่าลงใช่หรือไม่
ใช่ ถ้าเราดูที่พื้นฐานจะเห็นว่ามีเรื่องการอัดฉีดเงิน เรื่องของภาวะดอกเบี้ยในระดับต่ำที่ใกล้เคียงกับ 0% ซึ่งหลายๆ คนก็มองว่าถึงสิ้นปีถ้าเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาดีขึ้น จะมีการลดปริมาณการทำ QE ของเฟดหรือไม่ ปรากฏว่ามีการแถลงตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาออกมา ซึ่งอัตราการว่างงานเรียกว่าสูงเกินคาด คือมีคนว่างงานสูงเกินคาด แล้วอัตราการจ้างงานก็กลายเป็นว่าต่ำเกินคาดอีก ทำให้ Fund Flow ไหลกลับมาที่ทองคำค่อนข้างชัดเจนเลย เพราะทุกคนกังวลเรื่องของภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาว่า ถ้าอย่างนี้แสดงว่าตัว QE ก็ไม่น่าจะลดจำนวนแล้ว และอัตราดอกเบี้ยก็ไม่น่าเพิ่มได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้แล้ว เงินก็จะไหลออกกลับมาที่ทองคำอีกครั้งหนึ่ง
ถ้ามองไปที่ระยะกลางและยาว ยังมองว่าการอัดฉีดเงินเป็นจำนวนมากขนาดนี้ น่าจะมีผลต่อเงินเฟ้อ ซึ่งเงินเฟ้อกับทองคำมันค่อนข้างจะไปด้วยกัน ฉะนั้นถ้านักลงทุนที่ถือทองคำเอาไว้อยู่ก็คงจะเป็นเรื่องที่ดี และท่านที่ยังไม่มีทองคำ อยากจะมีทองคำก็อาจจะรอจังหวะ เพราะทองคำถึงแม้จะเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยแต่เขาก็จะมีช่วงเวลาที่เขาถูกเทขายออกมาพอสมควรเหมือนกัน เราค่อยกะเวลา กะจังหวะที่จะเข้าไปรับเพื่อเก็งกำไรในระยะที่ระดับกลางและระยะยาวเพิ่มต่อไป คืออย่าผลีผลาม
แนวต้านหลักน่าจะผ่านไปได้
แถว 1,850 เหรียญ ส่วนตัวมองว่ายังแข็งแรงอยู่ แต่คงมีความพยายามที่จะต้องกลับไปให้ได้อย่างน้อยๆ อีกสักครั้ง ด้วยความที่ตัวเลขเศรษฐกิจก็ไม่ดี โควิด-19 ก็ยังแย่อยู่ ทางฝั่งยุโรปก็แย่อยู่ อินเดียเองรวมถึงเอเชียก็ยังมีปัญหาอยู่ เรียกว่าข่าวร้ายต่อเศรษฐกิจโลกก็ยังมีเยอะอยู่ คิดว่าในช่วงนี้ทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจอยู่ ก็คงจะมีแรงซื้อเข้ามาบ้าง และจะเป็นจังหวะของนักลงทุนที่สามารถทำกำไรได้ สมมติว่าเราซื้อมาในช่วงต่ำๆ สัก 1,600-1,700 กว่าเหรียญ เมื่อขึ้นมาในระดับ 1,850 เหรียญ เราอาจจะแบ่งทำกำไรออกมาบ้าง เรียกว่าประกันความเสี่ยงของเรานิดนึง ถ้าเกิดว่าเขาขึ้นไปอีกก็ยังมีไม้ต่อๆ ไปที่เราจะไปทยอยขายได้ แต่ถ้าเกิดว่าท่านที่อยากจะซื้อก็รอกะจังหวะอีกทีหนึ่ง อาจจะดูแถว 1,820 เหรียญว่ารับอยู่หรือไม่ ประมาณสัก 26,700 บาทก็อาจจะทยอยเข้าซื้อเล็กๆ ถ้าหลุดลงมาก็วางแผนซื้อต่อแถว 1,780 เหรียญ หรือ 1,800 เหรียญอีกสักรอบ คืออย่าลงทุนเสียเต็มไม้ซะทีเดียว ค่อยๆ ทยอยซื้อทยอยขาย โอกาสที่จะเป็นผู้ชนะในตลาดการลงทุนทองก็จะง่ายขึ้น
Comments