top of page
312345.jpg

กลับมาเก็งกำไรด้วยความระมัดระวัง


ห้ามหลุด 1,560 จุด ! ก่อนอื่นต้องเรียนว่าจากแผนการลงทุนในเชิง Tactical ที่เราวางกันไว้ โดยให้ 1,575 จุดเป็นจุดหมุนสำคัญในการยืนยันการแกว่งตัวขึ้นต่อของ SET นั้น การที่ SET จะปรับตัวขึ้นมาปิดเหนือ 1,575 จุดได้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้การยืนยันการแกว่งขึ้นต่อของ SET ยังสมบรูณ์แล้ว และการเพิ่มน้ำหนักของการลงทุนระยะกลางจาก 50% เป็น 75% สามารถตัดสินใจได้เลย

ขณะที่ในกรณีของนักลงทุนระยะสั้นรายสัปดาห์ (Weekly) หรือรายเดือน (Monthly) จากการพิจารณาในเชิง Tactical ในภาพรวม “นายหมูบิน” มองว่าน่าจะเริ่มกลับมามอง หรือ Bet ในฝั่งของ “การเก็งกำไร” โดยมีบริเวณ 1,560 จุดเป็นจุดหมุน หรือ Cut Loss ได้ เนื่องจาก “นายหมูบิน” มองว่าในรายสัปดาห์ (Weekly) ถ้า SET ยังคงไม่กลับลงมาปิดต่ำกว่า 1,560 จุดอีกครั้ง แนวโน้มของ SET ในระยะดังกล่าวจะเป็นในรูปแบบของการแกว่งขึ้น หรือ Sideway Up ได้ เนื่องจากเมื่อพิจารณาในเชิง Tactical จะพบว่าทั้ง Moving Average และ Indicators ระยะสั้น กลับมามีสัญญาณที่สนับสนุนการแกว่งขึ้นของ SET แล้ว อย่างไรก็ดี บนความเชื่อมั่นดังกล่าว ความเสี่ยงก็เป็นประเด็นที่น่าจะพิจารณาด้วย เพราะเราต้องยอมรับว่าแนวโน้มของ SET ในระยะไม่เกิน 1 เดือนนี้ยังคงเปราะบางมาก ดังนั้นนักลงทุนต้องมีวินัยอย่างมากต่อจุดหมุนบริเวณ 1,560 จุดด้วย เพราะแม้ว่าแนวโน้มของ SET จะมี Moving Average และ Indicators ระยะสั้น เป็นปัจจัยบวกในเชิง Tactical แต่ประเด็นความเสี่ยงของ SET ก็ยังคงมี และจะเป็นตัวจำกัดกรอบ หรือ Upside Potential ของ SET ด้วย คือการที่การเคลื่อนไหวของนักลงทุนต่างชาติที่ยังคงเป็นลบ หรือ Pessimism และ Relative Strength ของ SET สะท้อนว่ายังมีแนวโน้มที่จะ Underperform ทั้งตลาดหุ้นสหรัฐ และภูมิภาคต่อไป

ทั้งนี้ในเชิง Downside Risk ถ้า SET หมุนตัวลงมาต่ำกว่า 1,560 จุดอีกครั้ง จะทำให้รูปแบบ “Ascending Triangle” ล้มเหลวทันที จะส่งผลให้ SET เข้าสู่แนวโน้มการพักตัวในรายสัปดาห์ หรือ Weekly อีกครั้ง โดยที่ในกรณีดังกล่าว SET มีโอกาสถอยลงไปที่แนวรับ 1,530 จุด (+/-) เร็วมาก

ปัจจัยจากสหรัฐจำกัดการปรับตัวขึ้น ! : ทั้งนี้แม้ว่า SET จะสามารถขึ้นไปปิดเหนือ 1,575 จุด เพื่อยืนยันรูปแบบ “Ascending Triangle” ได้แล้ว แต่ “นายหมูบิน” ยังคงมองหมายการเหวี่ยงตัวขึ้นของ SET ในระยะสั้นไว้ไม่เกิน 1,590-1,600 จุดเท่านั้นในระยะไม่เกิน 1 เดือน เนื่องจากเมื่อพิจารณาจากปัจจัยในเชิงพื้นฐาน “นายหมูบิน” มองว่าปัจจัยลบจากการดำเนินการของเฟดในช่วงที่เหลือของปีจะเริ่มเข้ามากระทบกับตลาดหุ้นไทยในด้านลบมากขึ้นในระยะต่อไป โดยเฉพาะทิศทางของนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากถ้าพิจารณาจากการสำรวจของ Bloomberg Survey ล่าสุด จะพบว่าตลาดเชื่อไปแล้วว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งแน่นอนราว 0.25% ในการประชุม FOMC เดือน ก.ย.2560 รวมทั้งเชื่อว่าเฟดจะเริ่มลดงบดุล หรือ Balance Sheet ลงในไตรมาสที่ 4 นี้เลยด้วย โดยที่มีการประเมินกันว่าเฟดจะเริ่มด้วยการลดขนาดงบดุลราว 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน โดยแบ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาลราว 6 พันล้านดอลลาร์ต่อเดือน และ MBS ราว 5 พันล้านดอลลาร์ต่อเดือน ตัวเลขดังกล่าวเหมือนจะไม่มากนะครับ เมื่อเทียบกับขนาดงบดุลของเฟดที่ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ตัวเลขความสำคัญคงไม่ใช่ที่ตัวเลข แต่น่าจะเป็นท่าทีของเฟดที่ตั้งใจเข้าสู่ Exit Strategy อย่างจริงจัง ทิ้งทวนให้กับศาสตราจารย์ เยเลน ที่จะพ้นจากตำแหน่งประธานเฟดในช่วงปลายปีนี้มากกว่า

บนภาวะที่เสถียรภาพของประธานาธิบดีสหรัฐคนปัจจุบันดูเปราะบางอย่างมาก ทั้งหมดถือเป็นความเสี่ยงที่ต้องนำมาพิจารณา และระลึกถึงไว้เสมอสำหรับการลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนะครับ

ในส่วนของกลยุทธ์ สำหรับการลงทุนระยะสั้น (ไม่เกิน 1 สัปดาห์) : กรณีที่ SET ยังคงปิดเหนือกว่า 1,560 (+/-5) จุดได้ แนะนำ “อ่อนตัวซื้อเก็งกำไร” ในหุ้น PTTGC, KBANK, SCB, STEC, CK, SCC, LH, SIRI, INTUCH และ ADVANC ขณะที่กรณีตรงข้ามที่ SET กลับมาปิดต่ำกว่า 1,560 (+/-5) จุดอีกครั้ง แนะนำ กลับมา “ถือเงินสด” หรือ “Wait and See” สำหรับการลงทุนระยะกลาง (1-3 เดือน) ในลักษณะ Long-Only แนะนำ “เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นมาที่ระดับ 75% ของพอร์ต”

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณ และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจลงทุนด้วยครับ สำหรับการพูดคุยกันระหว่างสัปดาห์นอกจากทาง Facebook ที่ www.facebook.com/wealthhuntersclub และ e-mail ที่ moobin.stockmania@gmail.com แล้ว แฟนๆยังสามารถติดตามมุมมองเกี่ยวกับการลงทุนจาก “นายหมูบิน” ได้ทาง FM 101 ทุกวันอาทิตย์ในรายการ ”เซียนเศรษฐกิจ” เวลา 10.00-12.00 น.เช่นเดิมครับ

 

ภาพประกอบ : การวิเคราะห์ทิศทางตลาดหุ้นไทยในทางเทคนิครายวัน (Daily)

Source: Wealth Hunters Club

32 views
bottom of page