เอสซีจีเผยกำไรโตกว่า 24% อ้างเคมีภัณฑ์อยู่ในช่วงขาขึ้น ส่วนตลาดปูนซีเมนต์ในประเทศเติบโต 1-3% เตรียมเงินลงทุนกว่า 70,000 ล้านบาท เพื่อขยายกิจการเพิ่ม
นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เอสซีจี เปิดเผยว่า ผลประกอบในปี 2559 มีกำไร 56,084 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากปีก่อนมีกำไร 45,399 ล้านบาท จากธุรกิจเคมีภัณฑ์ที่มีกำไร 42,084 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48% จากปีก่อน เนื่องจากวัฏจักรขาขึ้นของธุรกิจเคมีภัณฑ์ และผลประกอบการของบริษัทร่วมที่ปรับตัวดีขึ้น และธุรกิจแพ็กเกจจิ้งมีกำไร 3,565 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน
"ทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลกปีนี้มีแนวโน้มปรับตัวขึ้น ส่งผลให้ราคาปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ปรับตัวขึ้นตามไปด้วย คาดทำให้ยอดขายทุกกลุ่มธุรกิจของเอสซีจีในปี 2560 เติบโต 5-10% ขณะที่คาดตลาดปูนซีเมนต์ในประเทศโต 1-3% ตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไทยปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะดีขึ้นจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นของภาคเอกชน และกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศการลงทุนภาครัฐที่มีต่อเนื่อง ส่งผลให้มีการใช้ปูนซิเมนต์และวัสดุก่อสร้างถึง 1 ล้านตัน หรือ 2.5% ของความต้องการใช้ทั้งประเทศที่ 40 ล้านตัน"
นายรุ่งโรจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปี 2560 เอสซีจียังเตรียมงบลงทุนประมาณ 60,000-70,000 ล้านบาท ซึ่งได้รวมงบเข้าซื้อกิจการ งบที่ใช้ลงทุนในโรงงานปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ ในประเทศเวียดนาม และการลงทุนขยายกิจการในประเทศไว้แล้ว นอกจากนี้ในเดือนเมษายนนี้บริษัทจะออกหุ้นกู้ 25,000 ล้านบาท เพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิมที่จะหมดอายุเพื่อนำเงินไปใช้ในการขยายกิจการเพิ่มเติม
Credit ภาพ: www.scg.co.th