top of page
312345.jpg

เฟดธันวา - ชี้ชะตาทองคำ..ดัชนีเชื่อมั่นหด


ทองคำมีสิทธิหลุด 1,220 ลงมาที่ 1,200 อีกครั้ง โดยจุดชี้ชะตาอยู่ที่ผลการประชุมเฟด 13-14 ธันวาคมว่าจะขึ้นหรือไม่ขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนผู้ซื้อทองคำเริ่มปรับลดลงเพราะมีความโน้มเอียงที่ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยส่งท้ายปีในรอบนี้มีสูง ศูนย์วิจัยทองคำระบุคนคิดซื้อทองน้อยลง ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำเดือนพฤศจิกายนหดเหลือ 61.90 จุดสะท้อนราคาทองมีโอกาสปรับตัวลดลง

เตือนผู้ลงทุนในทองคำทั้งตลาดซื้อขายล่วงหน้าและทองคำตู้แดงเริ่ม ระวังตัวกับสถานการณ์ราคาทองคำที่จะเริ่มมีความผันผวนและเป็นขาลงมากขึ้นนับจากนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่นับถอยหลังเข้าใกล้วันที่เป็นวันกำหนดทิศทางเศรษฐกิจโลกอีกวันหนึ่งนั้นคือ วันที่ 13-14 ธันวาคม 2559 ซึ่งเป็นวันประชุมครั้งสุดท้ายประจำปี 2559 ของคณะกรรมการนโยบายการเงินของอเมริกา หรือเฟด และนักวิเคราะห์ นักวิชาการ ต่างให้ความเห็นไปในทางเดียวกันว่า การประชุมสำคัญรอบนี้ มีความเป็นไปได้มากว่า น่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสักหนึ่งครั้ง หลังจากที่มีการขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี เมื่อเดือนธันวาคม 2558 แล้วไม่ได้ขึ้นอีกเลยในการประชุมตลอดปี 2559 ที่ผ่านมา ทั้งที่คาดหมายกันว่าจะขึ้นอย่างน้อย 2-4 ครั้งในปี 2559 นี้

ผลการประชุมเฟดรอบนี้จะเป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่มีผลต่อกรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำเป็นอย่างมาก โดยมีการประเมินกันว่าหากเฟดขึ้นดอกเบี้ย ย่อมส่งผลกดดันต่อราคาทองคำในตลาดโลกให้ปรับตัวลดลง และความไม่มั่นใจจากประเด็นการประชุมเฟดนี้เริ่มเป็นปัจจัยหลักกดดันส่งผลต่อราคาทองคำตั้งแต่หลังผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกาเสร็จสิ้นเมื่อ 8 พฤศจิกายนเป็นต้นมา โดยราคาทองคำที่ขึ้นไปสูงในช่วงระหว่างที่นับคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดี 1,338 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ปรับลดลงมาเป็นลำดับ จนมาทดสอบแนวรับ 1,225-1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ปิดที่ 1,227 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (15 พ.ย.59) ทั้งนี้หากแนวรับ 1,220 รับไม่อยู่อาจเห็นทองลงไปที่ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ก่อนการประชุมเฟดก็เป็นได้

หากย้อนไปดูเมื่อกลางปีที่ผ่านมา สภาวะความกดดันจากความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในช่วงนั้นนับว่าเป็นครั้งหนึ่งที่มีมากเป็นพิเศษก่อนที่จะมีการประชุม เฟดวันที่ 14 มิถุนายน 2559 ซึ่งปรากฏว่า ตั้งแต่ปลายเดือน พฤษภาคม 2559 ได้ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อ เจนเนต เยลเลน ประธานเฟดออกมาส่งสัญญาณก่อนการประชุมว่า มีแนวโน้มที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย ก็ทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงทันที หลังจากที่ลดลงมาต่อเนื่อง 8 วันติดต่อกันมาแล้ว สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนที่ 1,213.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์(สวนทางกับดาวโจนส์ที่ปรับตัวขึ้นแรงสุดในรอบ 2 เดือน 2.1% และเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวขึ้น 2.3% ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง)

ดังนั้นนับจากนี้จนถึงการประชุมเฟดส่งท้ายปี 13-14 ธันวาคม จึงส่งผลกดดันราคาทำคำมากเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจอเมริกา(15 พย.59) ออกมาอยู่ในเกณฑ์ดีได้แก่ ยอดค้าปลีก, ดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์ก และดัชนีราคาผู้ผลิต และการผลิตภาคอุตสาหกรรม ก็น่าจะหนุนให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยได้

ที่สำคัญคือ มีรายงานจาก ศูนย์วิจัยทองคำ ว่า กองทุนทองคำ SPDR ถือครองทองคำลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดย ณ 31ตุลาคม อยู่ที่ 942.59 ตัน ลดลง 5.36 ตันจากสิ้นเดือนกันยายน และนับเป็นการลดลงจากระดับสูงสุดของเดือนที่ 970.17 ตัน (ณ วันที่ 20 ตุลาคม) และลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนที่ 980.34 ตัน ณ วันที่ 5 สิงหาคม และขายออกมาอีกในต้อนเดือนพฤศจิกายน 2559

ล่าสุด 15 พฤศจิกายน 2559 มีรายงานว่า SPDR เทขายทองคำออกมาอีก 1.48 ตัน ทำให้ทองคำที่ถือครองทองคำอยู่ที่ระดับ 927.45 ตัน น้อยกว่าเมื่อ 31 ตุลาคม 2559

ขณะที่ปัจจัยบวกที่หนุนราคาทองคำในช่วงต่อจากนี้คือ การคาดการณ์ที่ว่า อุปสงค์หรือความต้องการทองคำจะมีมากขึ้นจากที่ประเทศอินเดียที่เข้าสู่เทศกาล Dhanteras และ Diwali ในกลุ่มผู้นับถือศาสนาฮินดู แต่ก็ไม่สามารถเป็นแรงหนุนส่งได้มากนัก

ดร. พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในเดือนพฤศจิกายน 2559 อยู่ที่ระดับ 60.24 จุด โดยลดลงมาเล็กน้อยจากเดือนก่อน 1.16 จุด หรือลดลง 2.68 % จากระดับ 61.90 จุด กลุ่มตัวอย่างเชื่อว่าราคาทองจะปรับตัวลดลง หลังจากที่เดือนตุลาคม ราคาทองคำในประเทศมีการปรับตัวลดลงต่ำกว่า 22,000 บาท ขณะที่ทิศทางดอกเบี้ยของ FED ยังคงเป็นปัจจัยที่สร้างแรงกดดันให้กับราคาทองคำ แม้ว่าความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งผลการเลือกตั้งของประธานาธิบดีของสหรัฐ จะเป็นปัจจัยที่หนุนราคาทองคำ

บทสรุปความคิดเห็นผู้ค้าทองคำ (Gold Trader Consensus) จากผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ ผู้ค้าส่งทองคำ และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 9ตัวอย่าง พบว่ากลุ่มผู้ค้ารายใหญ่คาดว่า ราคาทองคำในเดือนพฤศจิกายน จะปรับตัวลดลงหรือใกล้เคียงกับเดือนก่อน แต่มีเพียง 2 รายที่คาดว่าจะปรับตัวขึ้น โดยมีกรอบราคาอยู่ที่ 1,200-1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านราคาทองคำในประเทศ (ความบริสุทธิ์ 96.5%) กลุ่มตัวอย่างให้กรอบราคาอยู่ที่ 20,000 – 22,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ

ทั้งนี้ ยังคงมุมมองแนวโน้มที่เงินบาทจะมีทิศทางอ่อนค่าจากการขายทำกำไรในตลาดหุ้นและย้ายเงินลงทุนกลับเข้าถือเงินดอลลาร์สหรัฐฯในไตรมาส 4 ตามแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่เด่นชัดมากขึ้น

67 views
bottom of page