top of page
312345.jpg

ท่องคาถาขึ้นขายลงซื้อ - หมอกฤชรัตน์แนะ "ซื้อขายทองต้องไว"


ชี้ทองคำมีทิศทางขาขึ้นหลังเฟดมีมติคงดอกเบี้ย ต่อไป แนะกลยุทธ์ ให้รอจังหวะที่ราคาอ่อนตัวแล้วค่อยเข้าซื้อและทำกำไรในระยะสั้น ในกรอบ 1,320-1,355

นายแพทย์กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกลุ่มบริษัท แม่ทองสุก เอ็มทีเอส โกลด์ฟิวเจอร์ส กล่าวกับ “ดอกเบี้ยธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ทิศทางทองคำ ยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น โดยเฉพาะ เมื่อการประชุมเฟด ในวันที่ 20-21 กันยายนที่ผ่านมา มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้เช่นเดิมต่อไปก่อน ยิ่งทำให้ให้ราคาทองคำได้ปรับเพิ่มขึ้นตอบรับข่าวนั้น แต่อย่างไรก็ตามได้เกิดแรงขายทำกำไรเกิดขึ้นทันที เนื่องจากด้วยการปรับขึ้นราคาทองรับข่าวเป็นราคาที่ทำให้คนที่ซื้อล่วงหน้ามาแล้ว ขายทำกำไรกันออกมาก่อน จึงทำให้ทองมีการปรับลดลงไปได้ ดังนั้นจึงแนะนำนักลงทุนว่าอย่ารีบร้อน และอย่าตามเข้าไปซื้อทองคำในจังหวะที่ราคาปรับขึ้น

ทั้งนี้ตามแนวเทคนิคราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับสำคัญอยู่ที่ 1320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งจะเห็นว่าเมื่อมีแรงขายทำกำไรหลังปรับตัวขึ้นด้วยข่าวเฟดในรอบนี้ ก็ลงมาไม่หลุดแนวรับดังกล่าว ซึ่งหากมีการปรับขึ้น ก็จะมีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 1355 ดอลลาร์ต่อออนซ์

“การบริหารพอร์ตซื้อขายทองคำ ในช่วงจังหวะแบบนี้ที่จะเห็นว่า มีการปรับขึ้นเร็วลงเร็ว ผันผวนไปตามกระแสข่าว ซึ่งกลยุทธ์ขณะนี้เป็นกลยุทธ์ให้ซื้อแบบขึ้นลงตามทิศทางขาขึ้น แต่ให้รอจังหวะที่ราคาอ่อนตัวแล้วค่อยเข้าซื้อและทำกำไรในระยะสั้น ช่วงที่ขึ้นมาเช่นที่ 1341 ไม่ต้องรีบซื้อซึ่งความจริงเป็นจุดขายของหลายคนที่ซื้อมาก่อนหน้า

ยิ่งเป็นราคาทองไทยช่วงนี้ขึ้นไม่มากเพราะบาทแข็งค่า มีแนวรับที่ 22,750 บาท แนวต้าน 22,000 ทองไทยปรับขึ้นมาจากที่เฟดคงดอกเบี้ยแค่ 200 บาทเท่านั้น ซึ่งถ้าหาค่าเงินไม่เปลี่ยนแปลง ทองไทยน่าจะขึ้นได้เพราะข่าวเฟดอย่างน้อยก็ 300 บาท”

นายแพทย์กฤชรัตน์ ยังให้คำแนะนำเพิ่มเติม ด้วยว่า ในจังหวะเช่นนี้ นักลงทุนควรบริหารจัดการพอร์ตให้เหมาะสม โดยในภาพรวมขึ้นกับนักลงทุนว่ามีความเข้าใจการลงทุนในทองคำมากน้อยแค่ไหน ถ้าเข้าใจมาก ควรลงทุนประมาณ 50% ของพอร์ต ถ้าไม่ค่อยรู้ไม่ค่อยเข้าใจให้ลงแค่ 20-30% ของพอร์ตทั้งนี้เพราะ จังหวะเช่นนี้ เป็นจังหวะที่เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะสั้นและระยะกลางเท่านั้น การถือทองยาวๆ ให้ผลตอบแทนไม่ดีนัก การลงทุนต้องระยะสั่น เข้าเร็วออกเร็วจะดีกว่า

“ในสถานการณ์เช่นนี้ การถือทองยาวๆไปจะได้ผลตอบแทนไม่ดีเท่า การใช้จังหวะเล่นสั้น”

สำหรับกรณีของความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท และการเสียจังหวะการลงทุนในช่วงที่ทองคำในตลาดโลกราคาขึ้น แต่ปรากฏว่าค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงที่ทองคำในตลาดโลกขึ้น ทำให้นักลงทุนเสียโอกาส ซึ่งต่อจากนี้ไปนับว่าเป็นข่าวดี และเป็นโอกาสของนักลงทุนในทองคำ เนื่องจากกำลังจะมีสินค้าตัวใหม่ในตลาด TFEX คือให้สามารถ ซื้อทองคำในตลาดล่วงหน้า โดยโค้ชราคาซื้อขายเป็นดอลลาร์ ซึ่งเรียกชื่อว่า “ฟิวเจอร์ศ โกลด์ ดี”

“ประโยชน์ที่เห็นชัดเลยคือราคาในตลาดโลกขึ้น 20 ดอลลาร์ ถ้าค่าเงินไทยคงที่ จะขึ้นได้ถึง 300 บาท แต่ที่ผ่านมาขึ้นได้แค่ 200 บาท เพราะว่าเงินบาทแข็งค่าช่วงทองขึ้น ซึ่งปรากฎการณ์นี้เกิดตลอด ตัว ฟิวเจอร์สโกลด์ดี จึงตอบโจทย์ คือทำกำไรได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยทั้งขาขึ้นและขาลง

ที่ผ่านมา อัตราแลกเปลี่ยนทำให้ โกลด์ฟิวเจอร์ส ได้รับกระทบ ทำให้ช่วงที่ผ่านมาไม่ค่อยมีสภาพคล่อง ขณะที่ โกลด์ดี จะมีสภาพคล่องสูง เพราะซื้อขายได้ไม่อั้น โดยซื้อขายสถานะถือครองเป็นดอลลาร์ ซึ่งนักลงทุนจะไม่มีความเสี่ยงเรื่องค่าเงินเลย โกลด์ดีตอบปัญหาให้นักลงทุน 100%”

2 views
bottom of page