ชี้จุดเปลี่ยนธุรกิจรับสร้างบ้านยุคดิจิทัล ดึงเทคโนโลยี นวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ อ้างเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการ เชื่อบ้านโมดูลาร์ มาแรง
นายวิทวัส รุ่งเรืองผล อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์ และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวในงานสัมมนา ”12 ปีธุรกิจรับสร้างบ้านกับความท้าทายในยุคดิจิทัล” จัดโดยสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ว่า ธุรกิจรับสร้างบ้าน เป็นธุรกิจบริการ ต้องใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าและบริการ โดยทิศทางวัสดุก่อสร้างในยุคดิจิทัล จะมีลักษณะคล้ายกับโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ผู้ประกอบการในธุรกิจรับสร้างบ้าน จะเปลี่ยนบทบาทจากการก่อสร้างเป็นการประกอบวัสดุสำเร็จจากโรงงาน และบ้านโมดูลาร์ จะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ เทรนด์ที่จะเกิดขึ้น อาจจะมีนวัตกรรมมาแทนแรงงาน อาทิ ใช้หุ่นยนต์โรยตัวทาสีผนัง ใช้เครื่องบินติดกล้องวิทยุ (โดรน) ก่ออิฐบล็อก เป็นต้น
นายพิชิต อรุณพัลลภ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวว่า การหาแนวทางรับมือความเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลที่จะเกิดขึ้นในธุรกิจรับสร้างบ้าน แม้ว่าธุรกิจรับสร้างบ้านอาจจะเป็นอุตสาหกรรมที่เห็นความเปลี่ยนแปลงช้าสุด เมื่อเปรียบเทียบกับธุรกิจการเงินและสินค้าอุปโภคและบริโภคที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดในขณะนี้ การเปลี่ยนแปลงธุรกิจรับสร้างบ้านในยุคดิจิทัล อาจจะทำได้ในบางขั้นตอนโดยเฉพาะในขั้นตอนการออกแบบ เนื่องจากในธุรกิจรับสร้างบ้านและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังต้องใช้แรงงานเป็นจำนวนมาก จึงอาจจะไม่ทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด และมองว่าข้อดีของนวัตกรรมหรือการใช้เทคโนโลยีในธุรกิจรับสร้างบ้าน จะช่วยลดขั้นตอนการทำงานและสามารถควบคุมคุณภาพวัสดุได้ดีขึ้น
นายผไท ผดุงถิ่น ที่ปรึกษาสมาคมไทยแลนด์เทคสตาร์ทอัพ กล่าวว่า ในยุคบิ๊กดาต้า ในธุรกิจรับสร้างบ้านก็จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะการรวบรวมข้อมูลของผู้ประกอบการและวัสดุต่างๆ เห็นได้จากในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมามีผู้ใช้ซอฟต์แวร์ในธุรกิจรับสร้างบ้านประมาณ 15,000 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2558