Uniqlo ไม่หวั่นภาษีสหรัฐฯ เล็งขยายตลาดอเมริกาต่อ
- Dokbia Online
- 2 days ago
- 1 min read

Fast Retailing บริษัทแม่ของ Uniqlo แบรนด์ดังสัญชาติญี่ปุ่น เปิดเผยว่าในปีบัญชี 2025 Uniqlo สามารถทุบสถิติสร้างยอดขายในประเทศญี่ปุ่นได้ 1 ล้านล้านเยนเป็นครั้งแรก โดยได้อานิสงส์จากกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในขณะที่ผลการดำเนินงานในต่างประเทศ อาทิ อเมริกาเหนือ, ยุโรป, เกาหลีใต้และอาเซียน ต่างก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้ของ Fast Retailing โตขึ้นถึง 10% สร้างความเชื่อมั่นให้กับบริษัท โดยในปีบัญชี 2026 Fast Retailing ตั้งเป้ารายได้ที่ 3.75 ล้านล้านเยน (10.3% YoY) และมีกำไรจากการดำเนินงาน 6.1 แสนล้านเยน (8.1% YoY)
สำหรับตลาดอเมริกาเหนือ บริษัทพบความท้าทายอย่างมากในการเจาะตลาดค้าปลีก ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาเปิดสาขา Uniqlo ในปี 2005 ทั้งจากการแข่งขันที่สูงในตลาดค้าปลีก , จำนวนสาขาที่น้อยเป็นอุปสรรคต่อการขยายฐานลูกค้า, การสร้างการรับรู้แบรนด์ และการปรับสไตล์ให้เข้ากับชาวอเมริกาที่นิยมเสื้อผ้าที่แสดงของถึงตัวตน ทำให้บริษัทเรียนรู้ว่าไม่สามารถใช้สูตร “Made For All” ของ Uniqlo ที่ประสบความสำเร็จในเอเชียมาใช้กับตลาดอเมริกาได้
ทั้งนี้ Fast Retailing ได้พยายามปรับตัวและแก้จุดอ่อนแต่ละข้อจนสามารถเติบโตในอเมริกาได้อย่างต่อเนื่อง โดยในปีบัญชี 2025 กำไรจากธุรกิจของ Fast Retailing ในอเมริกาเหนือโตขึ้นถึง 31.5% แม้ว่าการขึ้นภาษีนำเข้าสหรัฐฯจะเริ่มส่งผลกระทบต่อต้นทุนของบริษัทในช่วงเดือนมิ.ย.- ส.ค. แต่บริษัทรับมือด้วยการทบทวนราคาสินค้า, การปรับการลดราคา และการบริหารต้นทุนมากขึ้น พร้อมทั้งตั้งเป้าว่าในปี 2570 สาขาอเมริกาเหนือจะสร้างสามารถยอดขายได้ถึง 3 แสนล้านเยน ให้กับบริษัท แม้จะต้องเผชิญกับการขึ้นภาษีนำเข้าก็ตาม
แม้ว่าผลประกอบการในต่างประเทศจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยอดขายของ Fast Retailing ในประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดสำคัญกลับตกลงเนื่องจากกำลังซื้อในประเทศที่หดตัว แม้ว่าบริษัทจะพยายามปรับสินค้าให้เข้ากับฤดูกาลและความต้องการของลูกค้าชาวจีน แต่ก็ยังไม่สามารถกระตุ้นยอดขายในประเทศได้ ทำให้บริษัทเล็งขยายตลาดในอเมริกาเหนือและยุโรปเพื่อชดเชยกับรายได้ที่หายไปในช่วงที่ตลาดจีนซบเซา โดยรายได้ของ Fast Retailing ในอเมริกาเหนือและยุโรปมีอัตราเติบโตสูงถึง 24.5% และ 33.6% ตามลำดับ
ทั้งนี้ Tadashi Yanai ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Fast Retailing ตั้งเป้ายกระดับให้บริษัทเป็นผู้ผลิตเสื้อผ้าชั้นนำระดับโลกที่มียอดขาย 10 ล้านล้านเยนต่อปี โดยบริษัทจะเล็งขยายตลาดอเมริกา ยุโรป และเอเชียให้มากขึ้น แม้ว่าจะบริษัทจะเผชิญอุปสรรคจากยอดขายในจีนที่ลดลงและผลกระทบของภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ต่อต้นทุนบริษัท
ที่มาข้อมูล : The Japan Times, Nikkei Asia, CNBC
Comments