Interview : คุณสนั่น อังอุบลกุล
ประธานกรรมการหอการค้าไทย
นายกสมาคมหอการค้าไทย-เวียดนาม
‘สนั่น อังอุบลกุล’ นำทัพหอการค้าไทยช่วยไทยฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ ตั้งธง 99 วันหลังรับตำแหน่ง ประสานเครือข่ายภาครัฐ-ธุรกิจ-ประชาชน รุก 3 เรื่องสำคัญ เร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ประชาชนได้มากที่สุดโดยเร็ว เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วยกลยุทธ์ดิจิทัล ทรานฟอร์เมชัน ช่วยผู้ประกอบการ SME เข้าถึงแหล่งทุน และแก้กฎระเบียบให้ผู้ประกอบการทำธุรกิจได้สะดวกรวดเร็วขึ้น มีประสิทธิภาพ และลดต้นทุน ยืนยันนาทีนี้แบงก์มีเงินล้นเซฟ แต่ไม่กล้าปล่อย กลัวเป็น NPL ทางหอการค้าไทยพร้อมช่วยปลดล็อก คัดเลือก SME ชั้นดี การันตีคุณภาพ เพื่อให้แบงก์มั่นใจปล่อยกู้ ช่วยให้ฟันเฟืองธุรกิจหมุนและเดินหน้าต่อไปได้
มารับตำแหน่งประธานกรรมการหอการค้าไทยช้าไปหรือไม่ ในความเป็นจริงน่าจะมารับตำแหน่งนี้นานแล้ว
ก็คงถึงเวลาแล้ว ด้วยความไว้วางใจจากผู้ใหญ่ในหอการค้าและสภาหอการค้าไทย ถือว่าเป็นเกียรติ จริงๆ หอการค้าไทยก็คือสมาชิกที่กรุงเทพฯ ที่รวมกันเข้าก็เป็นหอการค้าไทย แต่สภาหอการค้าไทยก็คือ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย หอการค้าทุกจังหวัด ทั้งหมด 77 จังหวัด แล้วก็มีหอการค้าต่างประเทศที่อยู่ในประเทศไทยอีก 40 รายด้วยกัน นอกจากนั้น ยังมีสมาคมการค้าอีก 130 สมาคมด้วยกันที่เป็นสมาชิกของเรา
นอกจากนั้นแล้ว ยังมี YEC (Young Entrepreneur Chamber ก็คือ ผู้นำรุ่นใหม่ซึ่งเป็นทายาทของสมาชิกของหอการค้า และอีกสมาชิกหนึ่งก็คือมีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
วาระประธานกรรมการหอการค้าไทยมีกี่ปี
2 ปี และสามารถอยู่ได้ 2 วาระ
วางแผนงานไว้อย่างไร
เราจะต้องมีการประชุมร่วมหารือกับผู้บริหารชุดใหม่ ซึ่งตอนนี้ยังเร็วเกินไป ฉะนั้นที่เราบอกว่า เราจะรับตำแหน่งแล้วคงจะต้องทำงานทันที ก็คือประสานงานต่อจากประธาน กลินท์ สารสิน เป็นต้น ทีนี้เราก็เลยบอกว่าก่อนที่เราจะมีการทำเวิร์กช็อปเพื่อกำหนดดูว่าวิสัยทัศน์ใน 2-4 ปี ข้างหน้า จะมีการปรับเปลี่ยนอะไรบ้าง เราจะไม่รอ
ดังนั้นในช่วงสั้นๆ เราเลยบอกว่า ใน 99 วันแรกนับตั้งแต่วันรับตำแหน่งไปจนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 จะเห็นว่าหอการค้าจะทำอะไรบ้างให้กับทางสังคมและให้กับประเทศชาติ ซึ่งวันนี้เราก็เห็นว่าเศรษฐกิจของไทยฟื้นช้ามาก เรื่องต่อมาคือเรื่องความเชื่อมั่นในการลงทุนของภาคธุรกิจทั้งในและนอกประเทศก็ถดถอยลง การจ้างแรงงานก็มีปัญหา มีการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม เรื่องต่อมา เราก็เห็นว่าการป้องกันและการลดผู้ติดเชื้อ รวมถึงวัคซีนที่ฉีดให้ถึงคนไทยที่อยู่ในเมืองไทยยังช้าเกินไป จะทำอย่างไรให้เร็วกว่านี้ ขณะเดียวกัน จะกระจายการฉีดวัคซีนให้ทั่วถึงมากที่สุด สรุป 3 เรื่องนี้
เราก็บอกว่า ใน 99 วันแรก ชุดกรรมการบริหารชุดใหม่ จะทำ 3 เรื่องนี้ด้วยกัน ขอให้กรรมการและผู้ที่เกี่ยวข้องในหอการค้าและสภาหอการค้าทุกคนเดินไปในแนวทางเดียวกันว่า หอการค้าเราก็คือ เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงเครือข่ายภาครัฐและเอกชนกับประชาชนให้ทำงานร่วมกัน หมายความว่า เป็นการเชื่อมต่อทุกๆ จุดให้เห็นภาพเดียวกัน
ภาพที่เราอยากจะเห็น 99 วันแรก ก็จะมี 3 เรื่องด้วยกัน คือ 1. เร่งฉีดวัคซีนประชาชนให้เร็วที่สุด กระจายให้มากที่สุด จำนวนที่ฉีดมากที่สุด เรื่องที่ 2 คือเร่งที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยด้วยดิจิทัล ทรานฟอร์เมชัน เพื่อที่จะให้ผู้ประกอบการอย่างเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างไร ส่วนเรื่องที่ 3 จำเป็นต้องแก้ไขกฎระเบียบ เพื่อที่จะอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการให้ธุรกิจทุกอย่างมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น และมีประสิทธิภาพลดต้นทุนด้วย ก็คือ 3 เรื่องนี้ เราจะทำให้เกิดขึ้น
ในเวลา 99 วันเพียงพอที่จะทำทั้ง 3 เรื่องนี้
ใช่ อย่างเช่นเร่งฉีดวัคซีนเป็นต้น ทางรัฐบาลก็ตั้งธงแล้วว่าวันที่ 1 กรกฎาคมจะเปิดเมืองภูเก็ต ที่ภูเก็ตมีประชากรสัก 5 แสนคน เราก็จะต้องมีส่วนในการที่จะไปช่วยสร้างความมั่นใจให้กับชาวภูเก็ตว่า การฉีดวัคซีนมันไม่อันตราย ทำให้ทุกคนมีความเชื่อมั่นว่าถ้ามาภูเก็ต จะไม่มีปัญหา ส่วนการฉีดให้เร็วที่สุดเกิดขึ้นได้อย่างไรบ้าง ก็คือ 1. ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนภูเก็ต 2. ช่วยสนับสนุนหรือต่อยอดกับทางภาครัฐได้อย่างไรว่าวัคซีนที่ภาครัฐบอกว่าจะเทไปให้ที่ภูเก็ตได้เพียงพอ สถานที่ที่จะฉีดวัคซีนเป็นอย่างไรบ้าง แล้วก็สถานที่และคนที่จะทำหน้าที่ฉีดอย่างพยาบาลมีเพียงพอหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดที่เราต้องทำคือสร้างความร่วมมือกัน
ขณะเดียวกันในกรุงเทพฯ วัคซีนมีจำนวนหนึ่ง ซึ่งจะเห็นว่าเมื่อวันที่ 31 มีนาคม มีเกี่ยวกับพระสงฆ์รูปหนึ่งมรณภาพไปหลังฉีดวัคซีน คนก็เลยกังวลว่าควรจะฉีดหรือไม่ฉีด อะไรอย่างนี้เป็นต้น ถ้าทุกคนสามารถที่จะไปช่วยซัพพอร์ตในเรื่องเหล่านี้ ช่วยทำประชาสัมพันธ์ด้วย แล้วก็สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ขณะเดียวกันก็ต้องการให้ประชาชนลงทะเบียน เพื่อที่ทางรัฐไปเตรียมวัคซีนได้เพียงพอ ให้พอดีๆ เพราะวัคซีนเหล่านี้มีอายุการเก็บ แล้วถ้ากระจายออกไปแต่ละจังหวัดจะมีที่เก็บหรือไม่ บางคนบอกว่าเรามีตู้เย็นที่เก็บไอศกรีมอย่างนี้ ก็อาจนำมาช่วยเก็บทั่วประเทศเลย ช่วยลดภาระของภาครัฐและมีการกระจายวัคซีนออกไป ทางเอกชนก็มีระบบซัพพลายเชนที่เก่งอยู่แล้ว เราก็จะรวบรวมทางภาคเอกชนซึ่งมีความเชี่ยวชาญเหล่านี้ ทำงานร่วมกันกับภาครัฐ ตรงนี้ก็จะเห็นภาพ เห็นว่าแต่ละจุดรวมกัน ภาพที่เราเห็นก็จะเกิดความสำเร็จเป็นลักษณะนี้ และถ้าตราบใดที่เราสร้างความเชื่อมั่น ทุกคนฉีดวัคซีนแล้วปลอดภัย ก็จะเป็นกระแสขึ้นมา ทำให้ประชาชนคนไทยกล้าฉีดกัน ประเทศก็เปิดได้เร็วที่สุด อย่างนี้เป็นต้น
เป้าหมายที่ต้องการให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งทุน ต้องทำอะไรบ้าง
ถ้าพูดถึงการช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ตรงนี้เราต้องยอมรับว่าธนาคารแต่ละธนาคารมีเงินสดล้น ขณะเดียวกัน ผู้ที่เดือดร้อนอย่างกลุ่มเอสเอ็มอีทั้งหลายกลับเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน คือไปถึงแบงก์แล้วเขาบอกว่าไม่กล้าปล่อย ดังนั้น ถ้าเราไม่เข้าไปช่วย พวกเอสเอ็มอีก็คงทยอยกันปิด แล้วในที่สุดเศรษฐกิจของประเทศชาติที่มีเอสเอ็มอีจำนวนเยอะที่สุดกว่า 90% ก็จะมีปัญหา
ดังนั้นเราคงต้องนำร่องก่อน เพื่อความสบายใจของทางธนาคาร เพื่อความคล่องตัวของผู้ที่เดือดร้อน โดยคัดเอสเอ็มอีแสนกว่ารายซึ่งเป็นลูกค้าของทางพวกค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า พวกบริษัทห้างร้านอยู่แล้ว อย่างเช่นห้างร้านเหล่านี้สั่งออร์เดอร์ไปให้กลุ่มลูกค้าของเขา โดยสั่งจากพวกเอสเอ็มอีเป็นส่วนใหญ่ เอสเอ็มอีส่วนนี้ก็จะเอาออร์เดอร์ไปขึ้นเงินกับทางธนาคารโดยตรง ทางธนาคารก็จะสบายใจได้ว่า คนที่ซื้อมีเครดิต ยกตัวอย่างคือเอาเซ็นทรัล เอาแม็คโคร เอาเทสโก้ เอาบิ๊กซี อะไรอย่างนี้เป็นต้น เขาก็จะบอกเลย เพราะเทคโนโลยีเราเชื่อมโยงได้เร็วมาก เราก็จะบอกว่าตรงนี้เป็นออร์เดอร์ของเขา ฉะนั้นลูกค้าคนนี้ ยังเชื่อถือได้และยังอยู่ได้ ซึ่งเอสเอ็มอีก็จะมีเงินกู้ไว้ซื้อวัตถุดิบ มีเงินไปจ้างคนเพื่อที่จะมาส่งของ ส่งของเสร็จแล้ว ห้างร้านเหล่านี้ก็จะตกลงกับลูกค้าของเขาว่า ส่วนการชำระเงินไม่ชำระคืนให้คุณนะ จะชำระตรงไปที่ธนาคารเลย ตรงนี้ธนาคารก็สบายใจ เจ้าหน้าที่จะไปหาข้อมูลโดยใช้ดิจิทัล ทรานฟอร์เมชัน อย่างนี้ภายใน 10 นาทีก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะทำให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุนได้ และก็จะขยายผลเร็วในลักษณะนี้ ซึ่งตอนนี้เราเริ่มทำงานกันแล้ว ธนาคารก็บอกว่าวิธีนี้ดีมากเลย เขาเริ่มทำงานไปแล้วตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา