บล.ไอร่า ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยช่วงเวลาที่เหลือของเดือนกุมภาพันธ์ว่ายังมีแนวโน้มฟื้นตัว หลังดัชนีร่วงต่ำ 1,500 จุด มีระดับ P/E ใกล้เคียงค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่ 18 เท่า บวกเข้าฤดูกาลประกาศจ่ายปันผล แนะทยอยเก็บหุ้นที่ปันผลเกิน 5% หุ้นรับเหมาก่อสร้าง และ Health Care Play
ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า (AIRA) ยังคงประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ว่า ดัชนีมีโอกาสฟื้นตัว หลังจากดัชนีปรับตัวหลุด 1,500 จุด จากปัจจัยบวกกระแสเงินทุนส่วนเกิน ทั้งจาก Fed และ ECB ที่ยังคงส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายทางการเงินต่อเนื่อง รวมทั้งการประกาศผลประกอบการในไตรมาส 4/2562 ของหุ้นในกลุ่ม Real Sector ที่ทยอยออกมาจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ และเป็นช่วงที่เข้าสู่ฤดูกาลการจ่ายเงินปันผล ซึ่งคาดว่ามีโอกาสเห็นแรงเก็งกำไร และซื้อคืนหุ้นที่ราคาปรับตัวลงมาแรงก่อนหน้าจนทำให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ในระดับที่น่าสนใจ
จึงประเมินการเคลื่อนไหวของดัชนีโดยให้กรอบแนวรับแรก 1,500 จุด และแนวรับถัดไป 1,485 จุด ส่วนแนวต้านแรกที่ 1,543 และแนวต้านถัดไป 1,566 จุด
“ในเดือนมกราคมที่ผ่านตลาดหุ้นไทยตื่นตระหนกกับปัจจัยลบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา และประเด็นในประเทศจากการเบิกจ่ายงบประมาณที่ต้องล่าช้าออกไป ซึ่งกดดันตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงต่ำกว่า 1,500 จุด ซึ่งถือเป็นระดับใกล้เคียงค่าเฉลี่ยของ P/E ย้อนหลัง 5 ปี ที่ 18 เท่า”
ส่วนประเด็นที่ยังคงต้องน่าจับตามองในเดือนนี้ คือการประมูลคลื่น 5G, สถานการณ์การเมืองในประเทศ อาจส่งผลต่อการลงทุนและสร้างความผันผวนให้กับภาพรวมตลาด และแนวโน้มราคาน้ำมัน มีโอกาสปรับขึ้นหากกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันขยายระยะเวลาการลดการผลิตออกไปจากเดิมครบกำหนด มี.ค. 63
“ดังนั้นแนะนำกลยุทธ์ลงทุนโดยเน้นหุ้นกลุ่ม Dividend Play เช่น JASIF, TOP, ORI, SPALI, SCB, AP และ BTS ที่ราคาปรับตัวลงมาแรงแล้วอัตราการจ่ายเงินปันผลอยู่ในระดับสูงกว่า 5% คาดว่าจะมีแรงเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มดังกล่าวก่อนการประกาศจ่ายเงินปันผลในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. 63
รองลงมาหุ้นรับเหมาก่อสร้าง เช่น CK, STEC, UNIQ และ SEAFCO เพราะมองราคาหุ้นปรับตัวลงรับรู้ข่าวร้ายไปค่อนข้างมากแล้ว ขณะที่คาดการณ์งานโครงการใหม่ๆ จากภาครัฐที่จะเริ่มเข้าในช่วงครึ่งหลังของปี 63 จะหนุนราคาหุ้นรับเหมาก่อสร้างฟื้นตัวขึ้นได้
และสุดท้ายกลุ่ม Health Care Play เช่น BCH, CHG และ RJH ในฐานะ Defensive Stock จากรายได้ที่สม่ำเสมอ พร้อมประเด็นบวกจากการปรับขึ้นค่าเหมาจ่ายรายหัวประกันสังคม หนุนผลประกอบการปีนี้เติบโตโดดเด่น และทยอยสะสมหุ้นที่มีความน่าสนใจเฉพาะตัว ได้แก่ AOT, CBG, GPSC, SINGER, THG และ UNIQ”
Comments