top of page
358556.jpg

'ทองคำ' ติดลมบนขาขึ้นทุกห้วงเวลา...เงินบาทอ่อนช่วยหนุนอีกแรง


Interview: นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ

ประธานกรรมการฝ่ายบริหารกลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก


ท่ามกลางข่าวลบรุมเร้า ทองคำ ‘Safe Haven’ ราคาพุ่งพรวดๆ ทำสถิติสูงสุดในรอบ 7 ปี ทั้ง SPDR และแบงก์ชาติ แทบทุกประเทศซื้อทองคำต่อเนื่องทุกวัน วันละ 1-3 ตัน หมอกฤชรัตน์ฟันธง! ทองคำเป็นขาขึ้นทั้งระยะสั้น-กลาง-ยาว ไปอย่างน้อยถึงสิ้นปี ระยะสั้น แนวต้านอยู่ที่ 1,650 เหรียญ แนวรับ 1,620 เหรียญ แจง..ราคาทองคำในไทยถูกดันจาก 2 สาเหตุคือ ราคาทองคำในตลาดโลกปรับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และเงินบาทที่อ่อนค่าลงมาอย่างมาก แนะ...นักลงทุนทยอยซื้อเข้าพอร์ต ฉวยจังหวะ Take Profit เป็นรอบๆ ส่วน TFEX ที่ขยายเวลาซื้อขายถึงตี 3 ช่วยนักลงไทยซื้อ-ขายทำกำไรได้ทันท่วงที เน้นสภาวะเช่นนี้นักลงทุนทองคำต้องมีกำไรสถานเดียว ใครขาดทุนหมายถึงจับทิศทางลงทุนผิด ต้องเร่งปรับพอร์ตด่วน


ราคาทองคำขึ้นล่าสุดนี้ ใช่ของจริงหรือไม่


ของจริงแน่นอน แต่ว่าสิ่งที่สะท้อนให้เห็นก็คือสภาวะที่ราคาทองคำเป็น Safe Haven ในสภาวะอะไรก็แล้วแต่ ต้นปีเริ่มมาก็กลัวสงครามสหรัฐอเมริกากับอิหร่าน ราคาทองคำก็ดีดขึ้นมาเลย 1,610 เหรียญ หลังจากนั้นพอดูสงครามไม่มีอะไรก็ร่วงกลับมาที่เก่า 1,550 เหรียญ ตกลงมาทีเดียว 50-60 เหรียญ พอเรื่องโควิด-19 มา ก็ค่อยๆขยับตัวกลับขึ้นมา ซึ่งในช่วง 2 สัปดาห์ที่เริ่มมีการระบาดกันเยอะ แล้วเริ่มมีคนเสียชีวิตมาก ดูท่าทางจะกระทบกับเศรษฐกิจโดยองค์รวมทั้งโลกและประเทศไทยด้วย ก็เลยทำให้ราคาทองคำกลับขึ้นมา ซึ่งขณะนี้ต้องบอกว่าเป็นราคาทองคำที่สูงที่สุดในรอบ 7 ปี ตั้งแต่ปี 2013 ถ้าเราจำกันได้สูงสุดตอนนั้นคือ 2011 เท่ากับ 1,925 เหรียญโดยประมาณ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ 1,643 เหรียญ ฉะนั้นถือว่าสูงสุดในรอบ 7 ปี


อีกประเด็นที่น่าสนใจนอกจากทองคำของตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นแล้ว เรื่องเงินบาทที่กลับมาอ่อนค่าอย่างรวดเร็วในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยอ่อนลงมาถึง 70 สตางค์ ตรงนี้ก็เป็นอีกตัวหนึ่งที่ทำให้ราคาทองคำในไทยพุ่งขึ้นด้วย เรียกว่างวดนี้ทองของไทยได้อานิสงส์ 2 เด้ง คือทองในตลาดโลกขึ้น และบาทอ่อน ถ้ายังจำกันได้ดี หากทองในตลาดโลกขึ้น หมายความว่าเงินบาทจะต้องแข็ง แต่นี่เงินบาทอ่อนค่าไปด้วย ก็เลยทำให้ราคาทองคำตอนนี้พุ่งขึ้นมาทะลุ 24,000 บาทต่อน้ำหนักทองคำหนึ่งบาทขึ้นเร็วกว่าที่คาด และก็จะบวกลบอยู่แถวๆนี้


มองจากนี้ต่อไป


คิดว่าตอนนี้ที่ราคาทองคำออกมาแบบนี้ มันจะขึ้นเป็นช่วงๆ ไม่ถึงกลับขึ้นเหมือนตอนมีข่าวจะเกิดสงครามที่พุ่งปรู๊ดขึ้นมาทีเดียว แต่ว่ามีบางช่วงที่ต้องยอมรับว่าราคาพุ่งเร็วทีเดียวประมาณ 20-30 เหรียญในวันเดียว ถามว่าโดยองค์รวมทองคำก็ยังเป็นทิศทางขาขึ้นทั้งในระยะสั้น กลางและยาว เรียกว่าเป็นสภาวะที่ปัจจัยแวดล้อมเป็นบวกกับทองคำ และในส่วนของโควิด-19 น่าจะใช้เวลากว่าจะควบคุมได้ คำถามก็คือว่าถ้าควบคุมโควิด-19 ได้ ราคาทองคำจะร่วงลงมาหรือไม่ ส่วนตัวยังคิดว่าตรงนี้จะเป็นผลกระทบจากเศรษฐกิจระยะยาวและระยะปานกลางที่ทำให้ทองคำเป็น Safe Haven ในสภาวะที่เศรษฐกิจเริ่มอ่อนแอลง นักลงทุนส่วนหนึ่งก็หันกลับมาลงทุนในทองคำ


อย่าง SPDR ที่เป็นกองทุนทองคำ ที่เคยขายๆ ในช่วงก่อนก็ซื้อกลับมาอย่างเดียว และก็ซื้อทองคำเข้าเก็บตลอด ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ รวมทั้งธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ด้วยที่เริ่มซื้อทอง ฉะนั้นการขึ้นครั้งนี้ ก็ยังเชื่อว่าเป็นของจริง เพียงแต่ว่าจะขึ้นต่อได้มากน้อยแค่ไหน ขึ้นไปถึง 1,700 เหรียญไหม ตรงนี้คงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูอย่างใกล้ชิด


SPDR ที่เป็นกองทุนทองคำ ส่งสัญญาณอะไรที่ทำให้มองทิศทางทองคำได้ชัดเจน


สัญญาณคือการที่เขาซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง ก็ต้องบอกว่าซื้อไม่ได้หนักมาก แต่ซื้อต่อเนื่องแทบจะทุกๆ วัน ซื้อครั้งละ 1-3 ตัน ก็เป็นสัญญาณ หนึ่งที่นักลงทุนระยะกลางกับยาวหรือนักลงทุนในระดับโลกเข้าซื้อทองคำในฐานะ Safe Haven ฉะนั้นทองคำก็ยังน่าสนใจในสภาวะที่ตลาดหุ้นทั้งหลายเริ่มออกอาการเป๋ หุ้นไทยก็เป๋ รอบตัวก็แย่หมด เพราะการระบาดของโรคเริ่มกระทบกับเศรษฐกิจประเทศต่างๆ


นักลงทุนทองคำต้องวางตัวอย่างไร


ตอนนี้ก็เป็นลักษณะของ Take Profit เพราะต้องถือว่าทองคำเป็นขาขึ้นจริงๆ ฉะนั้นต้องบอกว่าเป็นโอกาสดีในการ Take Profit คือทำกำไรแล้วเข้าๆ ออกๆ ในระยะสั้นๆ แนวต้านทองคำจะอยู่ที่ 1,650 เหรียญ แล้วมีแนวรับที่ 1,620 เหรียญ และตอนนี้มีเฉลี่ยอยู่แถว 1,645 เหรียญ


การที่ TFEX มีการขยายเวลาซื้อขายทองคำ จะช่วยได้มากไหม


ก็น่าจะเป็นจังหวะที่ดีมากๆ การที่ TFEX ขยายวันที่ 24 กุมภาพันธ์ จาก 5 ทุ่มครึ่งไปถึงตีสาม โบรกเกอร์ต่างๆ ทั้งเอ็มทีเอสโกลด์เราก็มีความพร้อม ตอนนี้ในเรื่องการขยาย ต้องบอกว่าเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนโดยตรง เพราะนักลงทุนสามารถทำกำไรและเข้าซื้อขายบริหารความเสี่ยงหรือบริหารพอร์ตการลงทุนได้ดีมากขึ้น แล้วในส่วนของตลาดบ้านเราก็ต้องยอมรับว่านักลงทุนเริ่มเข้าใจมากขึ้น วันหนึ่งซื้อขายประมาณ 1.5-3 หมื่นสัญญา หมายความว่ามีปริมาณการซื้อขายคิดเป็นทองคำประมาณ 5-10 ตันต่อวัน


คิดว่าจะเพิ่มวอลุ่มเทรดได้มากไหม


เชื่อว่าโดยองค์รวมจะดีต่อตลาดอยู่แล้ว เพราะสามารถบริหารความเสี่ยงได้ครบ ถามว่าจะเพิ่มได้มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละวันมีข่าวหรือว่ามีประเด็นอะไรในช่วงคืนนั้นหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่นในช่วงที่เศรษฐกิจปกติ แล้วก็ไปอิงกับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา โดยส่วนใหญ่ตัวเลขหลายๆ ตัวบางทีออกในช่วงกลางคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตัดสินใจของเฟดในการลดดอกเบี้ย จะตัดสินใจกันในช่วงตี 1 บ้านเรา ดังนั้นถ้าเราเปิดถึงตี 3 ก็จะเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนโดยองค์รวมทีเดียว


โบรกเกอร์จะคอยดูแลอย่างไรให้นักลงทุน


ในส่วนของโบรกเกอร์เอ็มทีเอสโกลด์ เราเป็นผู้ให้บริการรายใหญ่ที่สุดของตลาด เราได้เตรียมทีมมาร์เก็ตติ้งที่จะมาดูแลจนถึงตี 3 ส่วนใหญ่แล้วก็จะเน้นในเรื่องของการซื้อขายผ่านระบบออนไลน์เป็นหลัก ในส่วนของมาร์เก็ตติ้งที่ดูแลเรื่อง Liquidity แน่นอนว่าจะเข้าไปประจำการจนถึงตี 3


โบรกเกอร์มีความพร้อมขนาดไหน


โบรกเกอร์ในส่วนทองคำมีความพร้อม 100% แต่ว่าโบรกเกอร์ทั่วไปยังไม่แน่นอน เพราะถ้าฝั่งทองคำเป็นฝั่งที่พวกเราดูแลตลาดของทองคำอยู่แล้ว ฉะนั้นพวกโบรกเกอร์ทองคำก็จะมีความพร้อมกันทุกๆ คนที่จะถึงตี 3


ปีที่แล้วผู้เทรดทองคำของไทย ทั้งในส่วน TFEX ด้วย ส่วนใหญ่ขาดทุนหรือกำไร


ต้องเข้าใจว่าโดยส่วนใหญ่จะต้องกำไร เพราะปี 2562 ทองคำให้ผลตอบแทนดี มีบางช่วงขึ้นไปถึง 20% ทีเดียว แล้วไปปิดตลาดในช่วงปลายปีให้ผลตอบแทนประมาณ 15% ฉะนั้นในองค์รวมเชื่อว่านักลงทุนในตลาด TFEX น่าจะกำไร


ช่วงนี้ที่ราคาทองคำขึ้นมามาก นักลงทุนที่ตั้งรับไม่ทันมีหรือไม่

ก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน เพราะทองคำจากต้นปีที่ 1,518 เหรียญ ตอนนี้ขึ้นมาแล้วประมาณ 120 เหรียญหรือประมาณ 7% เศษๆ แล้วจากที่ต้นปีเราจะเห็นราคาแกว่งมาก ขึ้นลงๆ อย่างรวดเร็วตั้งแต่ต้นปีที่มีความกังวลเรื่องสงครามอิหร่านแล้วราคาแกว่งมาก และช่วงที่มีโควิด-19 ตลาดก็เป็นลักษณะค่อยๆ ขึ้นและก็ซึมซับข่าว ฉะนั้นนักลงทุนและส่วนตัวเชื่อว่าที่ขึ้นเร็วอีกส่วนเพราะค่าเงินบาทที่อ่อนมาก อ่อนเร็ว ทำให้ราคาทองพุ่ง นักลงทุนไทยในช่วงที่ผ่านมาต้องบอกว่าส่วนใหญ่ขายอย่างเดียว นักลงทุนที่อยู่ในตลาด TFEX แน่นอนว่าจะมีทั้งซื้อและขายสลับกันไป มีทั้งขาดทุนและกำไร แต่ส่วนใหญ่จะกำไรเพราะเป็นขาขึ้น


ในส่วนร้านค้าทองคำ

ตอนนี้ไม่ได้ขาย รับซื้ออย่างเดียว เรียกว่าในช่วง 6 สัปดาห์นี้เราส่งออกทองคำไปเยอะมาก ก็อาจจะเป็นอีกตัวหนึ่งที่จะมาพยุงเศรษฐกิจของไทยได้บ้าง เพราะส่งออกเยอะ และในช่วง ที่ผ่านมามีแรงเทขายจากนักลงทุนทองคำเยอะมาก ส่งออกก็เยอะ อาทิตย์หนึ่งประมาณ 4 ตัน ก็ถือว่าจากนี้ยังเป็นช่วงนาทีทองที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะมันขึ้นมาเยอะแล้ว และยังเชื่อว่ามีโอกาสปรับขึ้นจนถึงสิ้นปีนี้ด้วยซ้ำไป ซึ่งการลงทุนเป็นเรื่องจังหวะและโอกาส นักลงทุนไม่ต้องรีบร้อน มีความเข้าใจในการลงทุน แล้วก็บริหารความเสี่ยงตามไป ในสภาวะที่ขึ้นก็มีบางคนขาดทุนก็มีเพราะว่าไปช็อตแล้วก็ไม่คิดว่ามันจะขึ้นขนาดนี้ แล้วก็ไม่ได้ไปปิดความเสี่ยง ก็เลยมีบางส่วนขาดทุน


คำแนะนำก็คือว่าถ้าเกิดผิดทางจำเป็นจะต้องมีปรับพอร์ต อย่าปล่อยให้ภาวะขาดทุนไปเยอะๆ เพราะจะลำบาก

18 views

Comments


bottom of page