นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท MTS Gold แม่ทองสุก อ่านสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน กระทุ้งราคาทองคำปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง ภาพรวมราคาทองคำยังเป็นแนวโน้มขาขึ้นหลังผ่านแนวต้านสำคัญที่ 1,975 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนักลงทุนเกาะติดภาวะสงครามและควรแบ่งขายทองคำบางส่วนเพื่อทำกำไรช่วงทองคำยังเหนือ 30,000 บาท/บาททองคำ จากนั้นรอจังหวะราคาย่อตัวต่ำกว่า 29,000 บาท/บาททองคำ หรือ 1,940 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในการทยอยเก็บทองอีกรอบ ส่วนนักลงทุนที่เก็งพลาด-ขาดทุน โดยเฉพาะเป็นนักลงทุนถือสถานะ Short มาก่อนหน้านี้อย่าฝืนสู้กับภาวะตลาดเด็ดขาด ต้องตัดใจยอมขาดทุนและรอลุ้นรอบใหม่
ช่วงนี้ราคาทองคำขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เรียกว่าในช่วงนี้ เป็นทั้งวิกฤตและเป็นโอกาสดีกว่า เพราะสภาวะแบบนี้ที่มีการกระชากขึ้นและลง
ต้องบอกว่าเหนือความคาดหมาย เหตุผลที่เหนือความคาดหมายเพราะแรกๆ ถ้าถามส่วนตัวคิดว่าสงครามน่าจะจบเร็วและไม่น่าจะยืดเยื้อเพราะระหว่างรัสเซียกับยูเครนกำลังต่างกันเยอะ แต่ปรากฏว่าดูเหมือนจะยืดเยื้อนิดๆ เลยทำให้ราคาทองขึ้นต่อ
ประเด็นที่ทำให้สำนักหลายสำนักเริ่มกังวลโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาวการณ์เก็งกำไรในตลาด Commodity Market ก็จะสูงขึ้น จึงทำให้ราคาทองปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน ฉะนั้นจะเห็นได้ว่าเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 4 มีนาคมนั้นราคาทองทรงๆ และดีดขึ้นทั้งๆ ที่ตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ของสหรัฐอเมริกาออกมาดี
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาออกมาดี แสดงว่าต้องขึ้นดอกเบี้ยแน่ๆ แต่กลายเป็นว่าตลาดไม่กลัวเรื่องขึ้นดอกเบี้ย ราคาทองคำลุยขึ้นเพราะคนแห่ซื้อทองกัน
ใช่ ภาวะสงครามก็เป็นภาวะตัวหนึ่งที่กระตุ้นราคาทองคำ เพื่อเป็น safe haven
ราคาทองคำจากนี้จะเป็นอย่างไร
ภาพรวมทองยังเป็นแนวโน้มขาขึ้น มีปัจจัยบวกมาจากเรื่องสงคราม ฟันธงว่ายังขึ้นต่อ แต่ว่านักลงทุนยังต้องระมัดระวังเพราะราคาขึ้นมาเยอะ โอกาสที่จะไปต่อยังมีแต่จะมีภาวะแกว่งบ้าง โดยแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 1,975 เหรียญ ซึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ 4 มีนาคมอยู่ที่ 1,960 เหรียญ ตรงนี้เป็นประเด็นที่นักลงทุนน่าจะขายทำกำไรบ้างบางส่วน เพื่อที่จะมาดูสภาวะสงคราม และในช่วงจากนี้คือวันที่ 15 มีนาคม จะมีการประชุมของเฟด ตรงนี้จะเป็นประเด็นทั้งบวกและลบ เพราะก่อนหน้านี้ทุกคนมองว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเยอะคือ 0.5% แต่ตอนนี้หลายคนมองว่า สงสัยจะขึ้นอย่างนั้นไม่ไหวแล้ว ก็เป็นประเด็นที่ต้องติดตามใกล้ชิด
ถ้ามีการเจรจากัน และประธานาธิบดียูเครนประกาศยอมแพ้ ราคาทองจะเป็นอย่างไร
น่าจะร่วงลงมาก่อน อย่างที่บอกว่าในช่วงแบบนี้น่าจะขายทำกำไรออกไปก่อน เพราะสภาพตลาดยังไม่แน่นอน
ตอนนี้ไม่แนะนำให้เข้าไปซื้อเพิ่ม
ควรจะเข้าเมื่อราคาย่อมากกว่า เพราะเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 4 มีนาคม ราคาทองดีดขึ้นมาประมาณ 25 เหรียญ ถือว่าเยอะ ฉะนั้นถ้าจะเข้าเก็งกำไรควรรอจังหวะที่ราคาลงกว่านี้จะดีกว่า
ช่วงหลายวันก่อนที่ราคาทองขยับขึ้น ชะตากรรมของนักลงทุนในทองคำฟิวเจอร์เป็นอย่างไร
มี 2 ประเภท คือมีทั้งคนกำไรและขาดทุน ฟังดูอาจแปลก คือมีนักลงทุนบางประเภทที่ชอบคิดทวนกระแส คือคิดว่าขึ้นมาเยอะแล้ว คงไม่ขึ้นอีก ก็มี ซึ่งนักลงทุนประเภทนี้จะขาดทุน ถ้าขาดทุนแล้วจะต้องตัดขาดทุนให้เป็น เพราะเราไม่รู้ว่าการขึ้นจะขึ้นไปมากน้อยแค่ไหน แต่ว่านักลงทุนที่กำไรอย่างนี้ก็ง่าย ก็แค่ขายทำกำไรในจังหวะต่างๆที่ดีดขึ้นมา ฉะนั้นต้องห่วงมากสำหรับนักลงทุนที่ติดสถานะ Short ที่ ไม่ควรที่จะรอเฉลี่ยต้นทุน หรือพูดง่ายๆ ว่าจะต้องปิดสถานะขาดทุนให้ได้ อย่าไปสู้กับตลาด เพราะตลาดทองไม่เหมือนกับตลาดหุ้นที่อาจจะขึ้นได้อีกเยอะแล้วเวลาเขาลงจะปรับตัวได้แรง และส่วนใหญ่จะพบว่านักลงทุนเวลาขาดทุนมักจะทนไม่ไหว แล้วจะไปขาดทุนตอน Short พอดีทุกครั้ง
ฉะนั้นในเชิงการลงทุนต้องมีกลยุทธ์ และมีการบริหารความเสี่ยงให้ดี ถึงจุดหนึ่งที่เราแพ้ อาจจะต้องหยุดก่อน เพราะตอนขึ้นมันไม่ใช่ว่าทุกคนจะกำไร ก็อาจจะมีทั้งครึ่งหนึ่งกำไรและครึ่งหนึ่งขาดทุน
คนที่มีทองแท่งและรูปพรรณตอนนี้ ควรทำอย่างไร
ให้ขาย เพราะทองคำทะลุ 3 หมื่นบาทต่อน้ำหนักทองคำหนึ่งบาทไปแล้ว ณ จุดนี้ ควรขายทำกำไรมากกว่า และรอจังหวะย่อลงมาที่บริเวณ 29,000 บาทปลายๆ ค่อยๆ ซื้อก็ยังทัน คือถ้ามีของแนะนำให้ทำกำไร วิธีการคือแบ่งขายบางส่วน แต่ถ้าไม่มีของเลยให้รอจังหวะย่อแล้วค่อยเข้าบริเวณแนวรับที่ดีน่าจะเป็นบริเวณ 1,940 ดอลลาร์จะเป็นแนวรับระยะสั้น
เท่าที่จำได้ ตอนเกิดโควิดใหม่ๆ ราคาทองขึ้นไปถึง 3 หมื่นบาทต่อน้ำหนักทองคำหนึ่งบาท คนแห่นำทองไปขายกันคึกคัก มาตอนนี้ราคาทองก็ขึ้นสูงเหมือนกัน แต่ดูบรรยากาศทำไมเงียบเหงา
ไม่ถึงกับเงียบ มีการเทขายเยอะ แต่ปัจจุบันยุคมันเปลี่ยนกลายเป็นออนไลน์ จริงๆ แล้วการซื้อขาย ต้องบอกว่าใกล้เคียงเดิมหรือลดจากเดิมไม่มาก เนื่องจากทุกระบบตอนนี้เข้าสู่ระบบออนไลน์สักประมาณ 60-70% ยังไม่ 100% คนไทยยังนิยมโทรศัพท์สั่งซื้อบ้าง แต่การจะมาต่อคิวขาย ต่อคิวที่หน้าร้านทองตอนนี้ยังมี แต่มีเฉพาะบางร้าน ไม่ได้มีทุกร้านเท่านั้นเอง
ตอนนี้นิยมซื้อขายออนไลน์ คือฝากทองไว้
ใช่ เพราะยุคใหม่ก็จะสามารถออมทองได้ อย่าง MTS Gold แม่ทองสุกของเรานั้นลูกค้าสามารถออมทองในรูปของดอลลาร์ อยู่ในแอปฯ ที่เราเรียกว่าเป๋าตังค์ที่ทุกคนรู้จักดี เราก็เห็นว่ามีความนิยมมาก มีผู้ที่สมัครออนไลน์ตอนนี้หลักเหยียบแสนรายแล้ว แต่ก็ยังเป็นนักลงทุนรายย่อยอยู่
ถึงตอนนี้ ทุกคนที่ลงทุนใน MTS Gold แม่ทองสุกน่าจะได้กำไรหมดแล้ว
ส่วนใหญ่จะกำไรแล้ว กำไรทุกท่าน ก็มีการตัดสินใจขายเยอะเพราะตอนนี้ทุกคนกำไร แรงเทขายเข้ามาในตลาดจึงค่อนข้างสูง
ร้านทองต่างๆรับซื้อกันไหวหรือไม่
ยังรับไหว เพียงแต่ความลื่นไหลไม่เยอะนัก เนื่องจากสายการบินตอนนี้มีปัญหา ทั้งการบินไทยไม่ค่อยได้บิน บินวันเว้นสามวัน การบินที่จะไปยุโรปก็จะมีปัญหา ต่างจากสมัยก่อนที่บินทุกวัน สมัยโควิดบินได้อาทิตย์ละครั้ง ตอนนี้ก็ค่อนข้างฝืดเคืองนิดหนึ่ง แต่สภาพคล่องยังปกติดี
การคว่ำบาตรรัวเซีย กระทบกับการค้าทองระหว่างประเทศหรือการบริหารพอร์ตหรือไม่
ไม่กระทบ เพราะเป็นสินทรัพย์ที่เรียกว่า Safe Haven ก็ไม่ค่อยกระทบใดๆ
ล่าสุดเกิดอะไรขึ้นกับห้างทองใหญ่ของไทยรายหนึ่งที่ประกาศปิดระบบซื้อขายทองคำผ่านแอปฯ ของเขา
ส่วนตัวไม่ทราบ แต่คิดว่าการที่จะเปิดซื้อขายในวันเสาร์และอาทิตย์ในขณะที่ตลาดโลกปิดตรงนี้ คิดว่าเป็นความเสี่ยงอย่างยิ่ง ก็ต้องดูว่าเขาบริหารตรงนี้อย่างไร เพราะถ้ายังเปิดแอปฯ วันเสาร์และอาทิตย์ อย่างนี้อยู่ก็จะเหนื่อย เพราะไม่รู้ว่าความเสี่ยงจะเป็นอย่างไร
กรณีร้านทองปิดระบบซื้อขายผ่านแอปฯ ตรงนี้คือเขาเดินแผนผิดหรือไม่
คงไม่ เพราะโดยภาพรวมส่วนตัวคิดว่าเกิดจากการที่เขาเปิดแอปฯ ในวันเสาร์และอาทิตย์ที่ตลาดไม่มีสภาพคล่องหรือตลาดจริงๆเสาร์และอาทิตย์เขาหยุดหมด ดังนั้นการที่จะเปิดซื้อขายส่วนใหญ่เราจะซื้อขายเฉพาะรายย่อยเท่านั้นเอง รายย่อยในที่นี้คือซื้อหน้าร้านตามปกติ แต่ถ้าไปรับรายใหญ่ๆ เข้ามา ก็จะเหนื่อยหน่อย แต่ในรายละเอียดไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร
ฝากอะไรถึงนักลงทุนในทองคำในสถานการณ์ช่วงนี้
สำหรับการลงทุนทองคำตอนนี้ ส่วนตัวถือว่าเป็นทั้งโอกาสที่ดีและเป็นวิกฤตสำหรับคนที่เก็งผิดทาง อยากให้นักลงทุนบริหารความเสี่ยงให้ดีและกระจายพอร์ตการลงทุนมาในทองซึ่งตอนนี้ถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนที่สุด แต่การลงทุนตรงนี้ก็ต้องยอมรับว่ามีความเสี่ยงและมีความเคลื่อนไหวขิงราคาที่รุนแรง
Comments