อนันดาฯ เผยปี 63 บุ๊คกำไรจากธุรกิจหลักกว่า 975 ล้านบาทปี 64 ตั้งเป้ายอดโอน 16,008 ล้านบาท

อนันดาฯ เผยปี 63 บุ๊คกำไรจากธุรกิจหลักกว่า 975 ล้านบาท

ปี 64 ตั้งเป้ายอดโอน 16,008 ล้านบาท ยอดขาย 18,570 ล้านบาท

พร้อมเปิด 5 โครงการใหม่

บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ผู้นำแห่งวงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับคนเมือง ครองตำแหน่งผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า เผยยอดขายปี 2563 สูงกว่าเป้าหมาย 4% อยู่ที่ 17,495 ล้านบาท โดยมาจากยอดขายของโครงการพร้อมอยู่ที่ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องจากลูกค้า โดยบริษัทฯ มีแบ็คล็อค ณ สิ้นปี 2563 กว่า 18,316 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตของยอดโอนของบริษัทฯ ในระยะ 3 ปี ขณะที่ในปี 2564 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดโอนกว่า 16,008 ล้านบาท ยอดขาย 18,570 ล้านบาท พร้อมเตรียมเปิดโครงการใหม่ 5 โครงการในทำเลศักยภาพ มูลค่าโครงการกว่า 24,422 ล้านบาท

ดร. ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ผลการดำเนินงานในปี 2563 บริษัทฯ สามารถทำยอดขายใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้ และลูกค้ายังมีการโอนต่อเนื่องจากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ แม้ว่ามีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ และประชาชนในวงกว้าง ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มีนโยบายในการลดสัดส่วนธุรกิจซึ่งไม่ใช่ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจให้บริการก่อสร้าง และมุ่งเน้นธุรกิจหลักเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน พร้อมทั้งลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร จำนวน 1,782 ล้านบาท ลดลงถึง 27% จากปีก่อน

ที่ผ่านมาในปี 2563 บริษัทฯ มียอดโอนทั้งหมด 18,345 ล้านบาท และมีสัดส่วนยอดโอนจากลูกค้าชาวต่างประเทศใกล้เคียงจากปีก่อนที่ระดับ 21% รวมถึงลูกค้าที่ใช้เงินสดในการโอนกรรมสิทธิ์ถึง 38% ขณะที่มียอดขายรวม 17,495 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเป้าหมาย 4% ที่ระดับ 16,800 ล้านบาท จากโครงการพร้อมอยู่ที่ความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์มีอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงที่มีสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็ตาม

และในปี 2564 นี้ถือเป็นอีกปีที่ต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลา เพื่อรองรับสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงรับมือกับความเสี่ยง และความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยที่วัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 จะเป็นความหวังและแรงผลักดันของมวลมนุษยชาติ ทำให้การท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวและกำลังซื้อจากลูกค้าชาวต่างชาติโดยเฉพาะลูกค้าชาวจีนที่มีความต้องการซื้อสูง ที่เรียกได้ว่าเป็น Mega Trend ของทั่วโลก จะเป็นตัวช่วยให้แนวโน้มและความมั่นใจกลับมาดีขึ้น และเชื่อว่าเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลงทุกอย่างก็จะกลับสู่ภาวะปกติ คนยังต้องใช้ชีวิตอยู่ในเมือง และเมืองก็ยังต้องไปต่อ

สำหรับแผนธุรกิจในปี 2564 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายยอดโอน 16,008 ล้านบาท และยอดขาย 18,570 ล้านบาท พร้อมเตรียมเปิด 5 โครงการใหม่ มูลค่าโครงการรวมกว่า 24,422 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพ ใกล้รถไฟฟ้า ได้แก่ ทำเลทองหล่อ สุรวงศ์ สะพานควาย สุขุมวิท 38 และลำสาลี พร้อมแนวคิดใหม่ ดีไซน์การออกแบบใหม่ เพื่อตอบโจทย์วิถีการใช้ชีวิตแบบใหม่

โดยในเดือนมกราคม 2564 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการออกหุ้นกู้มูลค่ารวม 2,328 ล้านบาท เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการชำระหนี้และขยายธุรกิจ ส่งผลให้ ณ สิ้นเดือนมกราคม 2564 บริษัทฯ ยังคงรักษาเงินสดรวมโครงการร่วมทุนกว่า 13,000 ล้านบาท ทั้งยังได้รับการสนับสนุนที่แข็งแกร่งและต่อเนื่องจากสถาบันการเงินชั้นนำ และมีทางเลือกในการจัดหาแหล่งเงินทุนที่หลากหลายสามารถเลือกใช้ได้ตามสถานการณ์ และมีเป้าหมายในการรักษาอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนไว้ภายใต้เป้าหมายระยะยาวที่ 1:1