top of page
312345.jpg

ตลาดประกันสุขภาพไฮเอนด์แข่งเดือด-คุ้มครอง 100 ล้าน


ตลาดประกันสุขภาพของธุรกิจประกันชีวิต มูลค่ากว่า 6 หมื่นล้านบาท ร้อนระอุรับกระแสผู้บริโภครักสุขภาพในปัจจุบัน แถมสวนภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ค่ายประกันชีวิตรายใหญ่ชื่อดัง ปิ๊งกลยุทธ์เน้นเจาะลูกค้ากระเป๋าหนัก โดยชูแผนประกันสุขภาพที่เป็นส่วนควบเพิ่มเติมของสัญญากรมธรรม์ประกันชีวิตหลัก รับวงเงินประกันสูงสุด 100 ล้านบาท

นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต กล่าวถึงสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ “อีลิท เฮลท์” สำหรับผู้มีอายุ 18-80 ปี ซึ่งเปิดตัวเมื่อกลางปี 2561 พบว่าลูกค้าให้การตอบรับค่อนข้างดี ลูกค้าส่วนใหญ่เลือกซื้อทุนประกันที่ประมาณ 20 ล้านบาท สอดคล้องกับผลสำรวจของบริษัท โดยมีทุนประกันให้เลือกสูงสุดที่ 100 ล้านบาท

เหตุที่ประกันสุขภาพทั้งที่เป็นส่วนของสัญญาเพิ่มในกรมธรรม์ประกันชีวิตหลักและประกันสุขภาพเดี่ยวในอุตสาหกรรมมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะคนไทยในยุคปัจจุบันตระหนักและใส่ใจเรื่องการรักษาสุขภาพมากขึ้น ขณะที่ภาครัฐให้การสนับสนุนภาคธุรกิจให้ลูกค้าสามารถนำเบี้ยประกันสุขภาพไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด ไม่เกิน 15,000 บาท จึงทำให้ตลาดประกันสุขภาพโดยรวมเติบโตทุกเซกเมนต์

แผนประกันสุขภาพเพิ่มเติม “อีลิท เฮลท์” คุ้มครองทั้งผู้ป่วยใน (IPD) และผู้ป่วยนอก (OPD) คุ้มครองหลากหลาย ทั้งค่าตรวจสุขภาพประจำปี ค่าฉีดวัคซีน ค่ารักษาทางทันตกรรม ค่ารักษาทางสายตา ค่าคลอดบุตรและบริการแพทย์ทางเลือก คุ้มครองทุกที่ ทุกเวลา 24 ชั่วโมงและทั่วโลก ซึ่งผู้เอาประกันสามารถเลือกความคุ้มครองได้จาก 4 พื้นที่ คือ 1. เฉพาะประเทศไทย 2. เฉพาะ 29 ประเทศในทวีปเอเชีย 3. ทั่วโลก ยกเว้นสหรัฐอเมริการและเกาะรอบนอกของสหรัฐอเมริกา และ 4. ทั่วโลก

ล่าสุด บริษัทเปิดโครงการ “Extra Care Plus” เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มพนักงานบริษัท (มนุษย์เงินเดือน) หรือผู้ที่มีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลโดยเฉพาะ จุดเด่น คือ ลูกค้าจะได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่าย โดยเป็นการท็อปอัพ จากสวัสดิการหรือประกันสุขภาพที่มีอยู่ ซึ่งปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า

ดังนั้น บริษัทจึงเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ “MTL Extra Care Plus : ชีวิต Top Up” ขึ้น เพื่อตอกย้ำความแรงและความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมเผยแพร่ผ่านหลากหลายช่องทาง เช่น เว็บไซต์ www.muangthai.co.th, YouTube, Facebook, Instagram และ Line Official เป็นต้น

ภาพยนตร์โฆษณาชุด “ชีวิต Top Up” บอกเล่าเรื่องราว “สุขนิยม” ของมนุษย์เงินเดือนในยุคปัจจุบันนี้ ที่ทุกคนต่างก็ชื่นชอบอะไรที่ “Extra” สามารถ Top up เพิ่มเติมความสุขให้กับชีวิตได้ ทั้งการเพิ่มเปอร์เซ็นต์ส่วนลดตอนซื้อสินค้า เพิ่มความอร่อย การเพิ่มความสะดวกสบาย เพิ่มความเร็วอินเทอร์เน็ต เพิ่มสิทธิประโยชน์ต่างๆ รอบๆตัว หลังเหนื่อยล้าจากการทำงานกันได้ทั้งนั้น แต่มีอีกด้านหนึ่งของชีวิตที่เหล่าบรรดามนุษย์ออฟฟิศกลับไม่ทันคิด ว่าสามารถเพิ่มให้ตัวเองได้ง่ายๆ นั่นคือเมื่อยามเจ็บป่วยแต่สวัสดิการที่มีอยู่กลับไม่พอต่อการรักษา มารู้ตัวก็ตอนที่มีค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินที่ต้องจ่ายเองมากองอยู่ตรงหน้าแล้ว

ดังนั้น แผนประกันสุขภาพ “Extra Care Plus” จึงเป็นตัวช่วยที่จะมา Top up สวัสดิการสุขภาพที่อาจจะมีอยู่แล้วแต่ก็มักจะไม่พอ เพื่อเพิ่มความสุขให้ชีวิตได้ด้วยการคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินจากสวัสดิการสุขภาพที่มีอยู่”

“เอ็กซ์ตร้า แคร์ พลัส” มีจุดเด่นที่ความคุ้มครองที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในกลุ่มมนุษย์เงินเดือนโดยลูกค้าจะได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่าย โดยเป็นการท็อปอัพจากสวัสดิการหรือประกันสุขภาพที่มีอยู่ จึงช่วยให้เบี้ยประกันภัยถูกกว่าความคุ้มครองสุขภาพทั่วไป เพราะจ่ายเบี้ยเริ่มต้นเพียงหลักร้อยแต่ได้ความคุ้มครองสูงถึงหลักแสน เลือกค่าห้องได้สูงสุด 8,000 บาท/วันโดยลูกค้าสามารถเลือกความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลได้สูงสุดถึง 4 แสนบาท/ครั้ง มีให้เลือกมาก 6 แผน ลูกค้าไม่ต้องสำรองจ่ายเมื่อเข้ารับการรักษากับสถานพยาบาลในเครือข่ายกว่า 400 แห่งทั่วประเทศ พร้อมนำเบี้ยประกันภัยไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้ด้วย

นางแซลลี่ โอฮาร่า ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต กล่าวถึงแผนประกันสุขภาพตัวใหม่ล่าสุด “Flexi Health” สามารถตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการ สำหรับชีวิตทุกช่วงวัยเพื่อทางเลือกและสุขภาพที่ดีกว่าเดิม ลูกค้าสามารถเลือกความคุ้มครองที่เหมาะสมด้วยแผนประกันสุขภาพแบบเลือกได้ตามใจชอบ และแบบสำเร็จรูป พร้อมเลือกซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมได้ทั้งผู้ป่วยใน หรือ/และผู้ป่วยนอก โดยมอบความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสูงสุดถึง 100 ล้านบาท

ม.ล.จิรเศรษฐ ศุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต (BLA) กล่าวถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นไฮไลท์ล่าสุดประจำปีนี้ “บีแอลเอ เพรสทีจ เฮลธ์” แผนประกันสุขภาพเหนือระดับ ที่คิดรอบคอบเพื่อคนพิเศษเป็นสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพที่เหมาะสำหรับกลุ่มคนที่ต้องการคุ้มครองด้านสุขภาพอย่างรอบด้าน ต้องการสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันความเสี่ยงเรื่องค่ารักษาพยาบาลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะแบบประกันสุขภาพ “บีแอลเอ เพรสทีจ เฮลธ์”ให้ความคุ้มครองจ่ายค่ารักษาตามจริงสูงสุดถึง 100 ล้านบาท ตอบรับเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่พัฒนามากขึ้น

เขากล่าวว่าปัจจุบัน เครื่องมือการรักษาที่นำสมัยและแม่นยำต่อการรักษา แต่ก็อาจจะตามมาด้วยค่ารักษาที่สูงขึ้น และยังครอบคลุมค่ารักษาทั้งในฐานะผู้ป่วยใน ผู้ป่วยนอก หรือผู้ป่วยฉุกเฉิน รวมถึงการรักษาด้วยแพทย์ทางเลือก เช่น การฝังเข็ม ธรรมชาติบำบัด การจัดกระดูก กระดูกและกล้ามเนื้อบำบัดและกายภาพบำบัด ครอบคลุมค่ารักษาต่อเนื่องหลังจากออกจากโรงพยาบาล ฯลฯ คุ้มครองค่าห้องโรงพยาบาลสูงสุดวันละ 25,000 บาท ซึ่งถือเป็นจุดแข็งและจุดเด่นของแผนประกันสุขภาพสำหรับลูกค้าไฮเอนด์ทุกช่วงอายุที่เหนือระดับกว่าคู่แข่ง 2 รายที่มีแผนประกันในลักษณะเดียวกันที่ออกมาก่อนหน้านี้แน่นอน

การรักษาพยาบาลจะครอบคลุมค่ารักษาทั่วโลก จนถึงอายุ 99 ปี โดยผู้เอาประกันสามารถเลือกพื้นที่ความคุ้มครองได้ตามต้องการ เช่น ในประเทศไทย ในทวีปเอเชีย ทั่วโลก (ยกเว้น สหรัฐอเมริกา) และคุ้มครองทั่วโลก เพียงแต่ในสหรัฐนั้น ค่ารักษาพยาบาลจะค่อนข้างแพง ดังนั้น เบี้ยประกันย่อมแพงกว่าพื้นที่โซนอื่นโดยมีแผนประกันให้เลือก 3 แบบ คือ ทุนประกัน 50, 80 และ 100 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้เอาประกัน

นอกจากนี้ แผนประกัน “บีแอลเอ เพรสทีจ เฮลธ์” ยังมาพร้อมกับบริการเสริมพิเศษ BLA EveryCare ที่ช่วยดูแลผู้เอาประกันทุกช่วงเวลา ทั้งก่อนเจ็บป่วย ระหว่างเจ็บป่วย หรือหลังการเจ็บป่วย โดยมี BLA Assistance Line 0 2777 8989 ผู้ช่วยส่วนตัวที่พร้อมดูแลเป็นพิเศษแบบครบวงจรทุกช่วงเวลา โดยผู้เอาประกันสามารถโทร. 0 2777 8989 เพื่อขอรับบริการต่างๆ ได้ 24 ชั่วโมงทั่วโลก เช่น บริการคำแนะนำด้านการแพทย์เบื้องต้นทางโทรศัพท์ บริการส่งผู้ป่วยเข้ารักษาในโรงพยาบาล การให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานพยาบาลการสำรองจ่ายค่ารักษาทางการแพทย์ตามความคุ้มครองเมื่ออยู่ต่างประเทศ หรือบริการรถยนต์ รับ-ส่งภายหลังการเข้ารักษาตัว เป็นต้น

22 views
bottom of page