แม้ว่าในภาพใหญ่จะพบว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมาทิศทางของตลาดหุ้นโลกโดยเฉลี่ย สะท้อนจากดัชนี MSCI ACWI มีการปรับตัวลดลงราว 0.01% WoW แต่ถ้าไปพิจารณาเป็นรายภูมิภาคจะพบว่ามีเพียงตลาดหุ้นเอเชียเท่านั้นปรับตัวลดลง โดยที่ดัชนี MSCI Asia ex Japan ปรับตัวลง 1.10 % WoW ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคสำคัญอื่นๆกลับมีทิศทางของการปรับตัวขึ้นสวนทาง โดยตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 0.12 % WoW, ตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้น 0.35 % WoW และตลาดหุ้นญี่ปุ่น ดัชนี TOPIX ปรับตัวขึ้น 1.28 % WoW ขณะที่ตลาดหุ้นไทยดูแย่กว่า หรือ Underperform เมื่อเทียบกับทั้งในส่วนของตลาดหุ้นโลกและตลาดหุ้นภูมิภาค คือดัชนี SET Index ในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลง 1.17 % WoW
ทั้งนี้นอกจากแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่องของตลาดหุ้นหลักๆทั้งในส่วนของตลาดหุ้นสหรัฐ, ยุโรป และญี่ปุ่น ที่สะท้อนออกมาจากการที่ในทางเทคนิคล่าสุดดัชนีของตลาดหุ้นทั้ง 3 ยังคงแกว่งตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย EMA ทุกเส้นอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับตลาดหุ้นเอเชีย, อาเซียน และไทย ที่ล่าสุดยังคงอยู่ในทิศทางขาลงต่อเนื่อง หลังจากที่ดัชนี MSCI Asia ex Japan, FTSE Asean 40 และ SET Index ยังคงแกว่งตัวต่ำเส้นค่าเฉลี่ย EMA ทุกเส้นอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังคงได้รับการสนับสนุนจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนในสหรัฐที่เพิ่มขึ้นด้วย โดยที่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ผลสำรวจจาก AAII ระบุว่าสัดส่วนนักลงทุนที่มองว่าตลาดหุ้นสหรัฐในระยะ 6 เดือนข้างหน้ายังคงเป็นขาขึ้น หรือ Bullish ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.8% WoW มาอยู่ที่ระดับ 44.8% สูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 38.5% สวนทางกับสัดส่วนนักลงทุนที่มองว่าตลาดหุ้นสหรัฐในระยะ 6 เดือนข้างหน้าเป็นขาลง หรือ Bearish ที่ปรับตัวลดลง 5.0% WoW มาอยู่ที่ระดับ 21.7% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 30.5%
ดูเหมือนว่าเมื่อพิจารณาในเชิงของ Momentum Effect ก็จะพบว่าทิศทางดังกล่าวน่าจะยังคงอยู่ต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพราะเมื่อพิจารณาจาก Relative Strength Index เมื่อเทียบกับ World Equity Index ในสัปดาห์ที่ผ่านมา จะพบว่าตลาดหุ้นสหรัฐ, ยุโรป และญี่ปุ่นยังคง Outperform อยู่ราว 0.13% WoW, 0.36% WoW และ 1.29% WoW ตามลำดับ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชีย และไทยยังคงอยู่ในสถานะ Underperform ต่อเนื่องราว 1.09% WoW และ 1.16% WoW ตามลำดับ
นอกจากนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี VIX Index US ปรับตัวลดลง 11.17% WoW มาอยู่ที่ 12.94 และดัชนี VIX EU ลดลง 10.82% WoW มาอยู่ที่ 13.20
ดังนั้น ในทางเทคนิค “นายหมูบิน” ยังคงมองว่าตราบใดที่ดัชนี SET ยังคงไม่สามารถกลับไปยืนปิดเหนือบริเวณ EMA 200 วันที่ 1,730 จุดได้ ทิศทางของตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นยังคงเป็นการพักตัวลง โดยมีเป้าหมายระยะสั้นที่ 1,650 จุด
นักลงทุนไทยเริ่มกลัวความเสี่ยงมากขึ้น : ถ้าพิจารณาจากสถานการณ์ล่าสุดแล้ว ดูเหมือนว่าตลาดหุ้นเอเชียจะเป็นทางเลือกในการลงทุนที่เป็นรองตลาดตราสารหนี้ของโลกด้วยซ้ำ เพราะในภาวะที่ตลาดหุ้นเอเชียยังคงเป็นขาลง และปรับตัวลดลงต่อเนื่องในสัปดาห์ที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนรวม (Total Return Return) ตลาดพันธบัตรรัฐบาลต่างๆต่างของโลกกลับปรับตัวขึ้น โดยที่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ค่าดัชนีของพันธบัตรช่วงอายุ 1-3 ปีของสหรัฐปรับตัวขึ้น 0.02%, ยุโรปปรับตัวขึ้น 0.10% และไทยปรับตัวขึ้น 0.14%
อย่างไรก็ดีถ้าพิจารณาเฉพาะตลาดตราสารหนี้ของไทย จะพบว่าแรงซื้อส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มตราสารหนี้ระยะสั้นมากกว่า สะท้อนมาจากการที่ในสัปดาห์ที่ผ่านมาอัตราผลตอบแทน (Yield) ของพันธบัตรรัฐบาลไทย อายุ 2 ปี ลดลง 0.02% สวนทางกับพันธบัตรอายุ 10 ปี และ 30 ปีที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.01% ทั้งคู่ สะท้อนว่าระดับการยอมรับความเสี่ยง หรือ Risk Tolerant ของนักลงทุนปรับตัวลดลงชัดเจน
อย่างไรก็ดีประเด็นที่น่ากังวลกว่านั้นคือการที่นักลงทุนเริ่มมีความกังวลต่อความเสี่ยงของภาคธุรกิจมากขึ้น ซึ่งสะท้อนออกมาชัดเจนจากระดับ Credit Spread ของหุ้นกู้ภาคเอกชนในสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ระดับ Credit Spread ของหุ้นกู้ภาคเอกชนช่วงอายุน้อยกว่า 3 ปี ที่มีเครดิตระดับ AAA ปรับตัวลดลง 0.09 bps ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชนที่มีเครดิตระดับ AA, A และ BBB เพิ่มขึ้น 0.47, 0.60 และ 0.44 bps ตามลำดับ
ในส่วนของกลยุทธ์ สำหรับการลงทุนระยะสั้น (ไม่เกิน 1 สัปดาห์) ใช้โอกาสที่ SET ยังคงไม่กลับไปปิดเหนือ 1,750 (+/-5) จุดอีกครั้ง เป็นโอกาสในการ “เข้าซื้อสะสม” ในหุ้น PTTGC, PTTEP, BCP, EGCO, TISCO, SCC, HMPRO, AOT และ ADVANC อีกครั้ง สำหรับการลงทุนระยะกลาง (1-3 เดือน) ในลักษณะ Long-Only แนะนำ “คงสัดส่วนการลงทุนในหุ้นที่ระดับ 75% ของพอร์ต”
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณ และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจลงทุนด้วยครับ สำหรับการพูดคุยกันระหว่างสัปดาห์นอกจากทาง Facebook ที่ www.facebook.com/wealthhuntersclub และ e-mail ที่ moobin.stockmania@gmail.com แล้ว แฟนๆยังสามารถติดตามมุมมองเกี่ยวกับการลงทุนจาก “นายหมูบิน” ได้ในรายการ ”เซียนเศรษฐกิจ” ทาง FM 101 ทุกวันอาทิตย์ เวลา 10.00-12.00 น.เช่นเดิมครับ
ภาพประกอบ : การวิเคราะห์ทิศทางตลาดหุ้นไทยในทางเทคนิครายวัน (Daily)
Source: Wealth Hunters Club