top of page
327304.jpg

Downside ต่ำ แต่ Upside จำกัด


สั้นๆยังขึ้นต่อได้ !

ในภาพใหญ่ของตลาดหุ้นโลกดัชนี S&P500 ของสหรัฐ, Stoxx50 ของยุโรป, NIKKEI ของญี่ปุ่น และ FTFE Asean 40 ของอาเซียน ยังคงมีสัญญาณของการแกว่งตัวขึ้นในทางเทคนิคต่อเนื่อง หลังจากที่ดัชนีในกลุ่มดังกล่าวยังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย EMA ทุกเส้นอีกครั้ง และ Indicator สำคัญอย่าง RSI มีสัญญาณ Positive Convergence ชัดเจน ขณะที่สัญญาณในการพักตัวลง หรือ Reversal Signal ในระยะสั้นรายสัปดาห์จะยังคงไม่เกิดขึ้นจนกว่าดัชนีดังกล่าวจะกลับมาแกว่งตัวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย EMA 5 วัน หรือเกิด Dead Cross ขั้นที่ 1 ก่อนในเบื้องต้น

นอกจากนี้ ถ้าพิจารณาในเชิงของ Sentiment ประกอบ จะพบว่าการแกว่งตัวขึ้นของตลาดหุ้นโลกได้รับการสนับสนุนจากผลสำรวจความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อทิศทางของตลาดหุ้นสหรัฐในระยะ 6 เดือนข้างหน้าจาก AAII ที่ระบุว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมา 19-25 เม.ย.2561 สัดส่วนนักลงทุนที่ยังคงเชื่อว่าตลาดหุ้นสหรัฐยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น หรือ Bullish อยู่ที่ระดับ 36.9% เทียบกับสัดส่วนนักลงทุนที่เชื่อว่าตลาดหุ้นสหรัฐกำลังกลับสู่แนวโน้มขาลง หรือ Bearish ที่ระดับ 25.6% เทียบกับค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 30.5% สอดคล้องกับในเชิงของ Momentum ที่การพักตัวลงของตลาดหุ้นโลก หรือกลุ่มตลาดหุ้นดังกล่าวข้างต้น ยังคงมีความเป็นไปได้น้อยในระยะสั้น เนื่องจากล่าสุดดัชนี VIX Index ของสหรัฐ และ HIS VIX Index ของฮ่องกงยังคงมีอยู่ใน Momentum ของการปรับตัวลง สะท้อนออกมาจากการที่ดัชนีทั้ง 2 ตัว กลับมาเคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย EMA 75 วันอีกครั้ง และ Indicator สำคัญของดัชนีดังกล่าวอย่าง RSI ยังคงมีสัญญาณ Negative Convergence เช่นกัน

ขณะที่เมื่อพิจารณาในเชิงเปรียบเทียบทางเทคนิคผ่าน Comparison Index จะพบว่าเมื่อเปรียบเทียบดัชนี S&P500 ของสหรัฐในฐานะตัวแทน หรือ Proxy ของตลาดหุ้นโลกกับสินทรัพย์เสี่ยง หรือ Risky Asset โดยเฉพาะสินค้าโภคภัณฑ์ตัวสำคัญๆทั้งในส่วนของน้ำมัน, ทองคำ, ถั่วเหลือง และทองแดงพบว่าดัชนี S&P500 มีแนวโน้มของ Momentum ที่ดีกว่า หรือ Outperform ชัดเจน

ดังนั้น “นายหมูบิน” มองว่า ปัจจัยดังกล่าวข้างต้น จะมีน้ำหนักมากกว่าปัจจัยลบจากปัจจัยในเชิงฤดูกาล หรือ Seasonality บนความกังวลเกี่ยวกับประเด็น “Sell in May and Go Away” ซึ่งอาจจะส่งผลในเชิงจิตวิทยากับทิศทางของตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นๆบ้าง แต่ไม่มากนัก

ต่างชาติจะยังคงไม่กลับมา : นอกจากนี้เมื่อพิจารณาผ่านปัจจัยที่มาจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำอย่างตลาดพันธบัตรของสหรัฐ จะพบปัจจัยบวกต่อทิศทางของตลาดหุ้นโลก และสหรัฐเช่นกัน เนื่องจากล่าสุด ส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี และ 3 ปี หรือที่เรียกกันว่า Short-End Spread ซึ่งในทางสถิติมีความสัมพันธ์ที่เป็นลบ หรือ Negative Correlation กับตลาดหุ้น สนับสนุนทิศทางการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐในระยะสั้นๆนี้ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และสถานการณ์จะยังลงมีแนวโน้มเป็นไปในลักษณะนี้ต่อไปตราบใดที่ Short-End Spread ดังกล่าวของสหรัฐยังคงไม่กลับไปยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย EMA 75 วันที่ 0.42% อีกครั้ง (ล่าสุดอยู่ที่ 0.33%) โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจาก Fed Fund Futures ที่พบว่าโอกาสที่เฟดจะคงดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมครั้งต่อไป อยู่ที่ระดับ 99.3%

อย่างไรก็ดี จากการที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงอยู่ในทิศทางที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนจากการที่ดัชนี US Dollar Index กลับมาแกว่งตัวเหนือกว่าเส้นค่าเฉลี่ย EMA ทุกเส้นต่อเนื่อง โดยที่ตั้งแต่ 17 เม.ย.2561 ปรับตัวขึ้นมาแล้วถึง 3.2% เทียบกับค่าเงินเอเชียที่ดัชนี JP Morgan Asia Dollar Index ที่ปรับตัวลง 2.8% สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นอีกครั้งต่อสินทรัพย์สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เมื่อประกอบกับปัจจัยพื้นฐานที่อ่อนแอ จะส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติยังคงชะลอการกลับเข้ามาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยต่อไป และตลาดหุ้นไทยจะไม่สามารถกลับมาได้ประโยชน์จากการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นโลกมากนัก

ในส่วนของกลยุทธ์ สำหรับการลงทุนระยะสั้น (ไม่เกิน 1 สัปดาห์) ใช้โอกาสที่ SET ยังคงไม่กลับไปปิดเหนือ 1,850 (+/-5) จุดอีกครั้ง เป็นโอกาสในการ “เข้าซื้อสะสม” ในหุ้น PTTGC, PTTEP, BCP, EGCO,TISCO, SCC, SAWAD, HMPRO, AOT และ ADVANC อีกครั้ง สำหรับการลงทุนระยะกลาง (1-3 เดือน) ในลักษณะ Long-Only แนะนำ “คงสัดส่วนการลงทุนในหุ้นที่ระดับ 75% ของพอร์ต”

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณ และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจลงทุนด้วยครับ สำหรับการพูดคุยกันระหว่างสัปดาห์นอกจากทาง Facebook ที่ www.facebook.com/wealthhuntersclub และ e-mail ที่ moobin.stockmania@gmail.com แล้ว แฟนๆยังสามารถติดตามมุมมองเกี่ยวกับการลงทุนจาก “นายหมูบิน” ได้ทาง FM 101 ทุกวันอาทิตย์ในรายการ ”เซียนเศรษฐกิจ” เวลา 10.00-12.00 น. เช่นเดิมครับ

 

ภาพประกอบ : การวิเคราะห์ทิศทางตลาดหุ้นไทยในทางเทคนิครายวัน (Daily)

Source: Wealth Hunters Club

41 views
bottom of page