หลังจากที่ ธนาคารกรุงเทพ ส่งรายงาน ความร่วมมือทางธุรกิจ กับบริษัทประกันชีวิตเอไอเอ เมื่อวันพฤหัสที่ 12 ตุลาคม 2560 ก่อนวันหยุดยาว ส่งผลให้เปิดตลาดเช้าวันจันทร์ที่ 16 ตุลาคม 2560 ราคาหุ้นแบงก์กรุงเทพกลายเป็นที่สนใจของนักลงทุนมากที่สุดมีการซื้อขายกันเป็นอันดับ 1 โดยราคาได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น จาก 189 บาท (12 ต.ค.) เป็น 194 บาท (16 ต.ค.) หรือ 2.6% และมีส่วนทำให้ SET Index ของวันที่ 16 เป็นบวกขึ้นมาทดสอบแนวต้าน 1,727-1,730 ด้วย
ทั้งนี้ ธนาคารกรุงเทพ หรือ BBL ระบุในรายงานที่ส่งให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ได้ร่วมมือกับ เอไอเอ
ในการให้บริการแบงก์แอสชัวรันส์ในระยะยาว 15 ปี
รายงานระบุว่า ธนาคารกรุงเทพ สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตหลากหลายประเภทของเอไอเอ ให้แก่ลูกค้าในประเทศไทยผ่านเครือข่ายสาขาและจุดให้บริการอื่นๆ ของธนาคารจำนวนหลายล้านรายทั่วประเทศ ซึ่งเป็นฐานลูกค้าบุคคลที่กว้างขวางลำดับต้น ๆ ในประเทศไทย ผ่านช่องทางการให้บริการต่าง ๆ ของธนาคาร รวมถึงเครือข่ายสาขาประมาณ 1,200 สาขาทั่วประเทศ และช่องทางบริการอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ
นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ลูกค้าของธนาคารในปัจจุบันมีความต้องการผลิตภัณฑ์และบริการประกันชีวิตในรูปแบบต่างๆ มากขึ้น โดยธนาคารและเอไอเอจะผสานความเชี่ยวชาญทางการเงินเพื่อช่วยให้ลูกค้าของธนาคารสามารถเลือกแผนบริหารการเงินที่เหมาะสมสำหรับทุกช่วงชีวิต ซึ่งความร่วมมือกับเอไอเอจะทำให้ธนาคารสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและการออมที่หลากหลายยิ่งขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
ขณะที่ นาย อึง เค็ง ฮุย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า การเป็นพันธมิตรกับธนาคารกรุงเทพในครั้งนี้ จะช่วยให้ขยายฐานของบริษัทปถึงลูกค้าของธนาคารกรุเทพได้มากขึ้น
ในการทำข้อตกลงความร่วมมือกับเอไอเอในครั้งนี้ ธนาคารกรุงเทพมีบริษัท Citigroup Global Markets Asia เป็นบริษัทที่ปรึกษา ส่วนเอไอเอมีบริษัท Evercore Partners International LLP เป็นบริษัทที่ปรึกษา
นั่นทำให้ นักลงทุนพากันใช้เป็นเหตุผลปัจจัยบวกและดันหุ้นขึ้นไปได้ เพราะมองว่า เป็นการจับมือครั้งใหญ่ของธนาคารขนาดยักษ์ของไทย กับบริษัทประกันชีวิตระดับใหญ่ของวงการ จะช่วยกันต่อยอดธุรกิจ จึงวิ่งเข้าใส่กันยกใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีหลายโบรกเกอร์ ให้คำแนะนำแบบบวกสุดๆ จากดีลนี้ว่า จะทำให้ราคาหุ้นแบงก์กรุงเทพปรับขึ้นโดยมีเป้าหมายถึง 222 บาทต่อหุ้น
ขณะเดียวกันก็ตกใจขายหุ้น บริษัทกรุงเทพประกันชีวิต BLA กันยกใหญ่ เพราะคิดว่า การที่แบงก์แม่กรุงเทพ หันไปจับมือกับ บริษัทประกันต่างสายเลือดอย่างเอไอเอ จะทำให้ BLA ได้รับผลกระทบอย่างหนักหนาสาหัส โดยราคาหุ้นวันที่ 16 ตุลาคม 2560 ปรับตัวลดลงจาก 43.75 บาท (12 ตุลา) ลงมาที่ 40.75 บาท หรือลดลง 6.86% และยังคงถูกขายในวันต่อมาจนหลุด 40 บาท มาซื้อขายกันแถวๆ 38 บาท หรือลดลงราว 6% ในวันที่ 17 ตุลาคม
ทั้งนี้มีอีกฝ่ายหนึ่งประเมินว่า นักลงทุนดีใจ กับข่าวดีกรณีการจับมือระหว่างธนาคารกรุงเทพกับ เอไอเอ มากเกินความจริง และตกใจไปกับความเสียหายที่ บริษัทกรุงเทพประกันชีวิตจะได้รับมากเกินเหตุไปหน่อย
ทั้งนี้เพราะ ผ่านมา การให้บริการขายประกันผ่านธนาคาร หรือ แบงก์แอสชัวรันส์ ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จคึกคักน่าตื่นเต้น เพียงแต่เป็นบริการเสริมส่วนหนึ่งที่ธนาคารเคาน์เตอร์ธนาคาร จะต้องขายผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นนอกจากทำหน้าที่รับฝากเงิน โดยสัดส่วนรายได้ในส่วนแบงก์แอสชัวรันส์ ของธนาคารกรุงเทพเองก็ไม่ได้มีมากเมื่อเทียบกับรายได้จากส่วนอื่น คือไม่ถึง 2% ในจำนวนนี้ราว 1% ที่เป็นรายได้แบงก์แอสชัวรันส์ที่มาจากธุรกิจประกันชีวิต ส่วนที่เป็นธุรกิจประกันภัยอีกไม่ถึง 1%
ดังนั้น การจับมือกับเอไอเอ เองที่แม้คุยว่าเป็นยักษ์ใหญ่จะเพิ่มศักยภาพรายได้ก็ จึงไม่น่าจะหวือหวาอะไรมาก สำหรับรายได้ส่วนนี้ โดยเฉพาะเมื่อในส่วนของธุรกิจประกันชีวิตเอง เอไอเอก็เสียรังวัด เสียส่วนแบ่งการตลาดให้กับธุรกิจประกันชีวิตรายอื่นที่กำลังมาแรงไปไม่น้อย ความใหญ่ของเอไอเอ ไม่ได้น่ากลัวสำหรับบริษัทประกันชีวิตรายอื่นๆเหมือนในอดีตแล้ว การตีค่าให้ราคาหุ้นแบงก์กรุงเทพมีเป้าไปถึง 222 บาทจากดีลนี้จึงโอเวอร์ไปหน่อย
ขณะเดียวกันก่อนมาจับมือธนาคารกรุงเทพ AIA ก็ขายประกันชีวิตผ่านธนาคารอื่นอีก 4 แห่ง ได้แก่ Citibank, LHBANK, TISCO และ BAY อยู่แล้ว
บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง เป็นโบรกเกอร์หนึ่งที่ไม่ได้ให้เป้าหมายราคาหุ้นแบงก์กรุงเทพ ที่จะได้รับผลบวกจากเอไอเอ อย่างที่ฮือฮากันเท่าไร โดยให้ราคาพื้นฐานที่เหมาะสมอยู่ที่ 170 บาท(BV ปี 2561 ที่ 0.78 เท่า ROE เท่ากับ 9.5%) โดยให้ความเห็นว่า ดีลจับมือ AIA จะดันรายได้ค่าธรรมเนียมอย่างไร รายละเอียดยังไม่เปิดเผย แต่เชื่อว่าจะช่วย เพิ่มรายได้จากช่องทาง แบงก์แอสชัวรันส์จากที่เคยทำได้ในปีที่ผ่านมา 1,000 ล้านบาท ขึ้นมาซึ่งจะเป็นเท่าไหร่ต้องรอข้อมูลมากกว่าวันนี้
บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง ระบุด้วยว่า ด้าน เอไอเอระบุว่าข้อตกลงดังกล่าวไม่รวมถึงผลิตภัณฑ์ เพื่อการออมทรัพย์และประกันชีวิตที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อบางประเภท ซึ่งอาจ หมายความว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้ จะเป็นผลิตภัณฑ์หลักของ BLA ในสาขาของ BBL ซึ่งหมายความว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์หลักของ BLA ในพอร์ทของ BBL
นอกจาก BBL ระบุว่าผลิตภัณฑ์ของ AIA จะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า หรืออาจจะช้ากว่านั้น เพราะธนาคารยังคงต้องปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมและ ฝึกอบรมพนักงาน
“คาดว่าจะเริ่มทำรายได้ในไตรมาส 3/60 เป็นต้นไป คงคำแนะนำถือ BBL เพราะคาดงบไตรมาส 3/2560 อ่อนตัว เนื่องจากการขยายตัว ของสินเชื่ออ่อนตัว ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิที่ลดลง และต้นทุนสินเชื่อที่สูงขึ้น โดยยังคงประมาณการของ BBL ไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งต้องรอรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับข้อตกลงนี้ เนื่องจากผลกำไรที่เพิ่มขึ้นมีแนวโน้มว่าจะมีจำนวนน้อยในตอนแรก ซึ่งดีลดังกล่าวนี้ ไม่น่าจะดันราคาหุ้นให้วิ่งได้”