top of page
312345.jpg

ธ.ก.ส.จัด 7.2 หมื่นล้าน - เข็นสินค้าเกษตรขึ้นห้าง


ธ.ก.ส.ตั้งเป้าผลักดันพร้อมพัฒนาเอสเอ็มอีเกษตร 7.2 หมื่นราย วงเงินกู้ 7.2 หมื่นล้าน ผลิตสินค้าคุณภาพ ร่วมมือกับเดอะมอลล์-ตลาดไท เพิ่มช่องการขายสู่คนเมือง หวังสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรอย่างยั่งยืน ให้การสนับสนุนตั้งแต่การผลิต การอบรมให้ความรู้ด้านการจัดการและการตลาด

นายอดุลย์ กาญจนวัฒน์ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) นางลักขณา นะวิโรจน์ รองประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด และ นายเกรแฮม แซนเดอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยแอ็กโกร เอ็กซเชนจ์ จำกัด (ตลาดไท) ร่วมลงนามในพิธีฯ เพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกันในการเชื่อมโยงผลผลิตของเกษตรกร เพิ่มช่องทางการจำหน่าย เป็นการพัฒนายกระดับการจัดการด้านการตลาดอย่างครบวงจร ทั้งในด้านวางแผนการผลิต การรวมกลุ่มอาชีพ การเพิ่มประสิทธิภาพ และพัฒนาคุณภาพผลผลิตอย่างเต็มศักยภาพ พัฒนาเกษตรกรไทยให้ยกระดับเป็นผู้ประกอบการภาคเกษตร (SMAEs) นำไปสู่การสร้างรายได้และความมั่นคงของอาชีพด้านการเกษตร ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกัน ณ ธ.ก.ส. อาคารสำนักงานใหญ่ บางเขน กรุงเทพฯ

นายอดุลย์ กาญจนวัฒน์ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ร่วมกับบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป และบริษัท ไทยแอ็กโกร เอ็กซเชนจ์ (ตลาดไท) เพื่อเชื่อมโยงผลผลิตของเกษตรกร เพิ่มช่องทางการจำหน่าย เป็นการพัฒนายกระดับการจัดการด้านการตลาดอย่างครบวงจร ทั้งในด้านวางแผนการผลิต การรวมกลุ่มอาชีพ การเพิ่มประสิทธิภาพ และพัฒนาคุณภาพผลผลิตอย่างเต็มศักยภาพ พัฒนาเกษตรกรไทยให้ยกระดับเป็นผู้ประกอบการภาคเกษตร (SMAEs) นำไปสู่การสร้างรายได้และความมั่นคงของอาชีพด้านการเกษตร

ทั้งนี้ ความร่วมมือในโครงการนี้ ธ.ก.ส.ได้จัดทำโครงการหนึ่งตำบลหนึ่ง SME เกษตร สนับสนุนเกษตรกรครบวงจรตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต การพัฒนาคุณภาพ การตลาดและด้านสินเชื่อ เพื่อให้ SMAEs มีความเข้มแข็งเป็นหัวขบวนในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจด้านการเกษตรของประเทศ โดยตั้งเป้าหมาย 72,000 ราย วงเงินสินเชื่อ 72,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีการสนับสนุนสินเชื่อและความรู้ให้เกษตรกรลูกค้าเพื่อผลิตสินค้าการเกษตรที่ดีมีคุณภาพพร้อมสนับสนุนช่องทางด้านการตลาด ขณะที่ความร่วมมือดังกล่าว จะเป็นการเชื่อมโยงผลผลิตในโครงการของเกษตรกรที่มีมาตรฐานและคุณภาพ ผ่านการคัดสรรออกวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ทำให้สินค้าคุณภาพจากเกษตรจำหน่ายถึงมือผู้บริโภคโดยตรงนับเป็นการขยายตลาดได้เป็นอย่างดี ส่วนทางด้านตลาดไท ถือว่าเป็นแหล่งกระจายสินค้าขนาดใหญ่ศูนย์รวมของผลผลิตการเกษตร เป็นช่องทางตลาดที่มีศักยภาพที่จะรองรับและกระจายผลผลิตของเกษตรกรได้เป็นอย่างดีเยี่ยมอีกช่องทางหนึ่ง สร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรที่ร่วมโครงการ ซึ่งความร่วมมือของ 3 หน่วยงานในครั้งนี้ นับเป็นการยกระดับผลผลิตของเกษตรกรด้วยการจัดมาตรฐานคุณภาพ และเพิ่มช่องทางการจำหน่าย พร้อมทั้งต่อยอดให้เกษตรกรผู้ร่วมโครงการ 1 ตำบล 1 SME เกษตร และโครงการชุมชนสามารถปรับเปลี่ยนการผลิตเพื่อสู้กับวิกฤตภัยแล้ง พัฒนาเกษตรกรและกลุ่มวิสาหกิจ ในด้านมาตรฐานและคุณภาพของสินค้าเกษตรสร้างรายได้และความมั่นคงให้เกษตรกรไทย

ด้าน นางลักขณา นะวิโรจน์ รองประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป กล่าวว่า ปัจจุบันเดอะมอลล์ กรุ๊ป ประกอบไปด้วย กูร์เมต์ มาร์เก็ต จำนวน 9 สาขา และ โฮม เฟรช มาร์ท จำนวน 4 สาขา นอกจากนี้ ด้วยกลุ่มลูกค้าและช่องทางการตลาดที่มีชื่อเสียงได้รับการยอมรับในการจำหน่ายสินค้าระดับคุณภาพเป็นที่ยอมรับ เดอะมอลล์ กรุ๊ป จะร่วมพัฒนายกระดับการจัดการด้านการตลาดอย่างครบวงจรกับ ธ.ก.ส. และ ตลาดไทให้บรรลุเป้าหมายของโครงการอันจะมีส่วนช่วยผลักดันในการพัฒนาสินค้าเกษตรเพื่อให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดี อย่างมั่นคงและยั่งยืน

ส่วน นายเกรแฮม แซนเดอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยแอ็กโกร เอ็กซเชนจ์ (ตลาดไท) กล่าวว่า ตลาดไทกำลังพิจารณาสิ่งที่อาจจะทำได้เพื่อสนับสนุนให้โครงการบรรลุเป้าหมาย ซึ่งมีหลายวิธีการ เช่น สนับสนุนให้มีการกำหนดมาตรฐานขนาด (Standard Size) ของผลผลิตให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน การพัฒนาผลผลิตคุณภาพ (Premium Grade) ที่สามารถตรวจข้อมูลย้อนกลับได้ว่าเป็นผลผลิตของใคร การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ และการประสานงานกับผู้ค้าเพื่อรับซื้อผลผลิตที่มีคุณภาพ สร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อเป็นการร่วมกันพัฒนาระบบการสร้างแรงขับเคลื่อน เพื่อให้เกษตรกรสามารถผลิต และดำเนินการได้ตามมาตรฐาน นอกจากนี้อีกทางหนึ่งที่กำลังพิจารณา คือ การสนับสนุนในเรื่องการจัดสถานที่จำหน่ายสำหรับผลผลิตคุณภาพ (Premium Grade) เพื่อเป็นช่องทางของผลผลิตคุณภาพ และเป็นสถานที่พบกันระหว่างผู้ซื้อผู้ขาย ที่ต้องการสินค้าเกษตรคุณภาพ

ทั้งนี้ ความร่วมมือดังกล่าวเป็นการ เชื่อมโยงผลผลิตเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. คือ ข้าว A-Rice จำนวน 250 ตัน กล้วยหอมทอง จำนวน 3,000 ตัน และผักอีก 2 ชนิด มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการประมาณ 200 คน ขยายตลาดผ่านช่องทางจำหน่ายของบริษัท เดอะมอลล์กรุ๊ป และตลาดไท ซึ่งเป็นการบูรณาการโครงการหนึ่งตำบลหนึ่ง SME เกษตร และโครงการชุมชนปรับเปลี่ยนการผลิตสู้วิกฤตภัยแล้ง โดยมุ่งเน้นให้เกษตรกรรวมตัวกันในรูปของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน เพื่อสร้างขีดความสามารถและพลังในการทำงาน รวมทั้งการช่วยเหลือเกื้อกูลกันของเกษตรกร มีการอบรมความรู้ ด้านห่วงโซ่อุปทานการผลิต ตั้งแต่การปลูก การดูแลรักษา การเก็บเกี่ยว การจัดขนาดมาตรฐานผลผลิต การจัดการผลผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน เช่น จำหน่ายในตลาดล่าง/แปรรูป การตลาด การจัดทำบัญชี การทดลองทำจริง การศึกษาดูงานเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนวางแผนการผลิตร่วมกันตั้งแต่เริ่มลงมือผลิตจนถึงการจำหน่าย โดยมีการติดตามประเมินความก้าวหน้าตามแผนการผลิต ปัญหาอุปสรรค การพัฒนาความรู้ การร่วมกันแก้ไขปัญหาตลอดจนการวางแผนการเก็บเกี่ยว การขนส่งและการจำหน่าย เมื่อเกษตรกรกลุ่มนี้ได้มีโอกาสเข้าถึงการเรียนรู้จะเข้าใจถึงการให้ความสำคัญต่อวิธีการจัดทำแผนธุรกิจ การลงทุน การตลาด สามารถนำความรู้และทักษะไปประยุกต์ใช้ตัดสินใจเลือกประเภทของผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม การตลาดในโลกยุคใหม่ พร้อมทั้งดำเนินการจัดทำโครงการ SMAEs ของกลุ่มหรือชุมชนของตนเองได้ ความร่วมมือครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญที่จะขับเคลื่อนเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรให้มีความเข้มแข็งและมั่นคง ยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดีขึ้น

50 views
bottom of page