top of page
369286.jpg

ซินเน็คฯ ปักธงปี 65 ตั้งเป้าเติบโต 15 % คาดรายได้ทะลุ 4 หมื่นลบ.

ซินเน็คฯ ปักธงปี 65 ตั้งเป้าเติบโต 15 % คาดรายได้ทะลุ 4 หมื่นลบ.!!!

ย้ำการเป็นนัมเบอร์วัน เสริมแกร่งไอทีอีโคซิสเต็ม


บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) (SYNEX) กางแผนกลยุทธ์ปี 65 ลั่น!! เติบโตกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เข้าสู่สังคมดิจิทัลมากขึ้น ส่งผลดีมานด์สินค้าไอทีพุ่งกระฉูด เตรียมพร้อมขยายพอร์ตกลุ่มสินค้า และศูนย์บริการที่มากขึ้น พร้อมจับมือพันธมิตรใหม่ๆ ตอกย้ำความเป็นไอทีอีโคซิสเต็ม รวมถึงเปิดตัวเฮ้าส์แบรนด์สินค้าของตัวเองเป็นครั้งแรก หวังสร้างอัตรากำไรเพิ่มสูงขึ้น หลังโชว์งบปี 64 ที่ทำรายได้ 37,085.4 ลบ. โดยตั้งเป้าปี 65 เติบโตอยู่ที่ 15 % ด้านรายได้ลุ้นทะลุ 4 หมื่นลบ.

นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (SYNEX) ดิสทริบิวเตอร์ผู้นำด้านไอทีอีโคซิสเต็ม เปิดเผยถึง ภาพรวมของธุรกิจในปี 2565 ว่ามีโอกาสเติบโตสูงกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน จากปัจจัยในหลายๆด้าน ทั้งผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตมาสู่ยุคดิจิทัลมากขึ้น เน้นความสะดวกสบายในการเข้าถึงสินค้าและบริการต่างๆ และองค์กรต่างๆเริ่มปรับสู่การทำงานแบบ work form anywhere ทำให้สินค้าไอที เติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ดีมานด์พุ่งขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้งปัญหาทางด้านชิปขาดแคลนเมื่อปีที่แล้ว จากผลกระทบของการระบาดโควิด-19 ก็เริ่มคลี่คลายขึ้น และน่าจะกลับมาเต็มที่ในช่วงไตรมาส 3 คาดว่าปี 65 จะเป็นอีกหนึ่งปีที่บริษัทฯ มีโอกาสทำรายได้ทะลุ 40,000 ล้านบาท เติบโตไม่ต่ำกว่า 15 %

นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะเดินหน้าตอกย้ำความเป็นไอทีอีโคซิสเต็ม มองหาโอกาสและเดินหน้าจับมือกับพันธมิตรใหม่ เสริมแกร่งธุรกิจในทุกกลุ่ม อาทิ SWOPMART ที่จับมือ TG Fone ผลักดันให้เกิดการหมุนเวียนของสินค้าไอที ที่คาดว่าจะได้เห็นแคมเปญที่มากขึ้นในช่วงกลางเดือนนี้ ด้านกลุ่มสินค้าเกมมิ่ง ที่ได้ประกาศจับมือ NADZ และ NGIN เขย่าวงการบุกตลาดเกมคอนโซล มีแผนที่จะเปิดตัว shop in shop NADS by SYNNEX ผ่านช่องทางตัวแทนร้านค้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมอีก 19 สาขาในต่างจังหวัด ให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าและบริการได้สะดวกขึ้น กลุ่มซีเคียวริตี้ ที่จับมือกับ Hikvision กล้องวงจรปิดอันดับ 1 ของประเทศ ที่แต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะเห็นความชัดเจนมากขึ้นในเร็วๆนี้ รวมไปถึงกลุ่มสินค้าโทรศัพท์มือถือ กลุ่มอีวี และกลุ่มสุขภาพ หรือ Smart Health หนุนการเติบโต เพื่อให้ครอบคลุมการบริการและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ซึ่งคาดว่าจะได้เริ่มทยอยเห็นความคืบหน้า และการจับมือพันธมิตรใหม่ เพื่อต่อยอดธุรกิจเดิมให้แกร่งขึ้นตลอดทั้งปี

ไม่เพียงเท่านี้ซินเน็คฯ เตรียมที่จะวางจำหน่ายสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ของตัวเองเป็นครั้งแรก จากการเล็งเห็นโอกาสทางช่องว่างของตลาด ซึ่งคาดว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด จากประสบการณ์ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าสินค้าไอทีมาอย่างยาวนาน และสามารถเพิ่มอัตราผลกำไรให้สูง โดยเตรียมพร้อมแถลงข่าวเปิดตัวให้ทุกคนได้ยลโฉมกันในเร็วๆ นี้

“ในปี 2565 นี้ เรายังคงตั้งเป้าหมายจะเป็นที่หนึ่งในตลาดไอที โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม IT Distributor และขยายเพื่อเป็นที่หนึ่งใน IT Ecosystem มองว่าเป็นปีที่เราจะสามารถทำรายได้และกำไรได้ดีในทุกกลุ่มสินค้า เติบโตอย่างน้อย 15 % จากปัจจัยบวกที่เข้ามา อีกทั้งยังมีแผนที่จะจับมือกับพันธมิตรในหลายกลุ่มธุรกิจ เพื่อขยายขอบเขตการจัดจำหน่ายสินค้า และบริการออกไปให้ครอบคลุม โดยคำนึงถึงสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากการจับมือร่วมธุรกิจเป็นหลัก อีกทั้งปีนี้จะมีสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ของตัวเองเข้ามาเสริมพอร์ตอีกด้วย ซึ่งการมีพาทเนอร์เข้ามาเสริมแกร่ง มีช่องทางการจัดจำหน่ายที่มากขึ้น ขยายจำนวนศูนย์เซอร์วิส ล้วนต่างเข้ามาช่วยผลักดันยอดขายอย่างครบวงจรก็ทำให้ซินเน็คฯเติบโตได้มากขึ้น” นางสาวสุธิดา กล่าว

ทั้งนี้จากปีที่ผ่านมาแม้ว่าจะเป็นการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้หลายอุตสาหกรรมชะลอตัว แต่กลับสวนทางกับกลุ่มไอที ที่ซินเน็คฯ สามารถทำรายได้จากการขายและให้บริการ 37,085.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,936.7 ล้านบาท หรือ 15.36% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีกําไรสุทธิ 856.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 214.6 ล้านบาท หรือ 33.43% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 4.81% พร้อมจ่ายเงินปันผล 0.52 บาท ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2565 นี้

13 views

Comentários


bottom of page