'ส. ขอนแก่นฟู้ดส์' ประกาศงบปี 2563 ทำรายได้รวม 2,793.9 ล้านบาท

‘ส. ขอนแก่นฟู้ดส์’ ประกาศงบปี 2563 ทำรายได้รวม 2,793.9 ล้านบาท

บอร์ดไฟเขียวประกาศจ่ายปันผล 0.20 บาทต่อหุ้น รุกสร้างยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์

‘ส. ขอนแก่นฟู้ดส์’ หรือ SORKON รายงานผลดำเนินงานในปี 2563 ทำรายได้รวม 2,793.9 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 109.9 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังเผชิญต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่กดดันเศรษฐกิจโดยรวม ส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ฟากบอร์ดไฟเขียว อนุมัติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.20 บาทต่อหุ้น ตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ไว้วางใจและเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัทฯ พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์ขยายเข้าสู่ช่องทางออนไลน์มากขึ้น รองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป

นายจรัสภล รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจอาหารพร้อมรับประทาน (RTE-QSR) บริษัท ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SORKON ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์รายใหญ่ของไทย เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2563 (มกราคม-ธันวาคม) บริษัทฯ ทำรายได้รวมในปี 2563 จํานวน 2,793.9 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อน ที่มีรายได้รวม 2,864.9 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ 109.9 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 112.11 ล้านบาท หลังเผชิญผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่กดดันเศรษฐกิจให้ชะลอ กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานโดยรวมของบริษัทฯ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารให้ลดลง 2.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.20 บาทต่อหุ้น ซึ่งคิดเป็นเงินปันผลจ่ายจำนวน 64.6 ล้านบาท โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร่วมประชุม (Record date) วันที่ 12 มีนาคม 2564 พร้อมกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 6 พฤษภาคม 2564 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 นี้ เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ให้ความไว้วางใจ และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้น จะเร่งสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2564

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจอาหารพร้อมรับประทาน (RTE-QSR) หรือ SORKON กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแนวโน้มแผนการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์ให้เข้าสู่ช่องทางออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตต่าง ๆ ทั้งการซื้อสินค้าที่หันมาสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น หรือรูปแบบการทานอาหารที่เปลี่ยนเป็นการรับประทานที่บ้านหรือซื้อกลับ โดยบริษัทฯ ได้เตรียมแผนรองรับมาต่อเนื่องตั้งแต่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ใหม่ ๆ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มผู้บริโภค