SME D Bank ลุยช่วย ไม่เกี่ยงลูกค้าเก่า/ใหม่! ฝ่าสารพัดวิกฤต

SME D Bank พร้อมช่วยผู้ประกอบการ SME ทั้งที่เป็นลูกค้าเก่าและที่ยังไม่เคยเป็นลูกค้าในการฝ่าฟันวิกฤตทั้งเรื่องภัยน้ำท่วมและภัยสงครามชายแดน มีทั้งมาตรการพักชำระหนี้ มาตรการตัดเงินต้นได้ 30% มาตรการลดยอดผ่อนชำระ รวมถึงมาตรการเติมทุนฉุกเฉินดอกเบี้ยต่ำเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ส่วนใหญ่เป็นมาตรการช่วยเหลือระยะยาว 1 ปี แต่สามารถต่ออายุมาตรการได้ตามความเป็นจริง ถ้าวิกฤตต่างๆ ลากยาวนานกว่าที่ประเมินไว้

Interview : คุณพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank)

ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นกรณีชายแดน ทาง SME D Bank มีการเตรียมการดูแลลูกค้าอย่างไรบ้าง

เรามี 2 เรื่องตอนนี้ เรื่องร้อนๆ มี 2 เรื่อง เรื่องแรกคือเรื่องอุทกภัย ธนาคารเราประกาศเป็นมาตรการช่วยเหลือฉุกเฉินให้กับ SME ที่อยู่ในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นน่าน แพร่ หรือพะเยา ธนาคารเรามีมาตรการ 2 มาตรการในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย อันแรกก่อนที่จะไปช่วยเหลือเราต้องไปสำรวจก่อนว่าลูกค้าของเราในแต่ละรายได้รับผลกระทบทางตรงทางอ้อมอย่างไร เพื่อจะประมวลผลว่าเราจะให้การช่วยเหลือที่เหมาะสมและตรงกับประเด็นของลูกค้าได้อย่างไร ตอนนี้รีบไปสำรวจเรียบร้อยแล้ว ระหว่างนี้ก็ได้ข้อมูลมาจำนวนหนึ่ง แต่ก็ยังไม่เรียบร้อยทั้งหมดเพราะอุทกภัยไม่ได้เกิดวันเดียว ฝนอาจจะมาอีกวันสองวัน แต่เบื้องต้นเราก็คุยกับลูกค้าแล้วว่าธนาคารจะมีมาตรการเข้าไปช่วยเหลือ

มาตรการแรกที่เราคิดว่าจะช่วยเป็นการฉุกเฉินเลยคือการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยของผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม เราก็จะพักชำระหนี้สูงสุดให้ไม่เกิน 12 เดือน ก็จะช่วยให้ SME แบ่งเบาภาระเพราะกว่าจะดำเนินการฟื้นฟูกิจการกลับมาก็อาจจะต้องใช้เวลาพอสมควร

สำหรับมาตรการที่ 2 เรามีมาตรการเติมทุนฉุกเฉินเพื่อช่วยซ่อมแซมฟื้นฟูกิจการ อย่างเราเคยเห็นปีที่แล้ว แพร่บ้าง น่านบ้าง เชียงใหม่บ้าง เชียงรายบ้าง เวลามีผลกระทบทางด้านอุทกภัย เราไปเห็นแล้วดูไม่จืดเลย สถานประกอบการของผู้ประกอบของลูกค้าเราแบบเละเทะเลย เครื่องมือประกอบทำอาหารการกินบางรายไม่เหลือเลย บางรายก็อาจจะเหลือบ้างแต่ยังจำเป็นจะต้องไปเติมเพื่อให้กลับมาฟื้นฟูกิจการได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเรามีสินเชื่อฉุกเฉิน เราช่วยวงเงิน 10% ของวงเงินเดิมสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท ระยะเวลากู้ประมาณ 3 ปี ปลอดเงินต้น 1 ปี ไม่ต้องมีการค้ำประกันแล้วก็ไม่มีค่าธรรมเนียม พอลูกค้าเอาโคลน เอาอะไรต่างๆ ออกจากบ้านเรียบร้อยก็จะต้องไปดูเรื่องสต๊อกสินค้า เครื่องไม้ เครื่องมือ

เป็นสินเชื่อฉุกเฉินที่ดอกเบี้ยถูกกว่าปกติ

เรามีสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำที่จะไปช่วย SME เป็นสินเชื่อที่รัฐบาลมอบหมายมาให้ SME D Bank ไปช่วยลูกค้า SME ตั้งแต่กลุ่ม Micro จนถึงกลุ่ม SME ที่โตขึ้นมา กลุ่ม Micro เรามีสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำมากๆ คือดอกเบี้ย 3% คงที่ 3 ปี สำหรับลูกค้ากลุ่ม Micro ที่ได้ผลกระทบไม่ว่าจะเป็นบุคคลหรือนิติบุคคลที่มีรายได้ไม่เกิน 2 ล้านบาท เราจะช่วยลูกค้าในวงเงินสูงสุดถึง 1,500,000 บาท ที่สำคัญมากๆ คือไม่ต้องมีหลักประกัน เราใช้ บสย.มาช่วยค้ำ เพื่อจะให้ลูกค้าเข้าถึงแหล่งทุนได้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น อันนี้ก็จะเป็นกลุ่มหนึ่ง

ส่วนกลุ่มที่เป็น SME ที่โตขึ้นมาหน่อยมีรายได้เกินกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเงินทุนหมุนเวียน หรือเรื่องสต๊อกสินค้า หรือเรื่องรถยนต์ โลจิสติกส์ อะไรต่างๆ ก็มีสินเชื่อให้สูงสุดถึง 15 ล้านบาทต่อราย อาจจะมีหลักประกันแล้วก็ใช้ บสย.ค้ำร่วม ที่สำคัญคืออัตราดอกเบี้ยพิเศษ 3% คงที่ 3 ปี

อันนี้ก็จะเป็นมาตรการช่วยอย่างเร่งด่วนที่เราพร้อมให้การช่วยเหลือลูกค้าทันทีตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ในส่วนลูกค้าตะเข็บชายแดนมีการช่วยเหลืออย่างไรบ้าง

เรื่องผู้ประกอบการที่อยู่ชายขอบตะเข็บในจังหวัดสำคัญๆ หลายจังหวัด SME D Bank ก็เข้าไปหาข้อมูลแล้วก็สอบถามลูกค้า คุยกับลูกค้าว่าได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง สามารถค้าขายได้ไหมหรือยังไม่ได้ หรือไม่ได้เลย เราก็มีมาตรการเร่งด่วนที่จะช่วยเป็นมาตรการของธนาคารที่มีอยู่หลายตัว ซึ่งอยู่ในแพ็กเกจเดียวกัน

อันแรกคือพักหนี้ เราพักหนี้เงินต้นสูงสุด 12 เดือน แล้วช่วงนี้ SME ได้รับผลกระทบ รายได้คงจะเข้ามาแบบไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะฉะนั้นการที่ชำระแบบเดิมๆ ส่วนใหญ่ก็จะมีดอกเบี้ยและเงินต้น ครั้งนี้เราก็เลยอยากจะช่วยลูกค้าให้ตัดต้นได้มากยิ่งขึ้น เวลาลูกค้าชำระจะให้ตัดต้นสูงสุดถึง 30% ซึ่งเดิมธนาคารไม่ได้มีหลักเกณฑ์นี้ ครั้งนี้เราทำเพื่อ SME ที่ได้รับผลกระทบเป็นการเฉพาะ พอตัดต้นไปบางทีค่างวดก็อาจจะไม่พอ ลูกค้าบางรายก็อาจจะชำระค่างวดเป็นหมื่นเป็นแสนก็มี หรือเป็นหลักพันก็มี แต่คราวนี้ก็ต้องดูถึงความจำเป็นเร่งด่วนของลูกค้าว่าลูกค้าได้รับผลกระทบทางตรงหรือของเสียหายเลยไหม หรือว่าได้รับผลกระทบทางอ้อม ซึ่งนอกจากพักหนี้ และตัดต้นเพิ่มขึ้นเรายังลดค่างวดการผ่อนชำระโดยพิจารณาตามความสามารถชำระนี้ ลูกค้ามีความสามารถเท่าไหร่เราก็ให้เท่านั้น ไม่ได้แบบว่าต้องได้เท่านั้น เท่านี้ เพราะเราต้องการประคับประคอง SME ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมเพื่อให้ผ่อนชำระแต่ละงวดเหมาะสมกับรายได้ในช่วงนี้

เราไม่รู้ว่าเขาจะได้รับผลกระทบยาว 3 เดือน 6 เดือน 12 เดือน เราจึงคิดโปรแกรมเข้ามาเพิ่ม คือการขยายระยะเวลาชำระหนี้ พอขยายแล้วเคยผ่อน 1,000 ก็อาจจะเหลืออยู่ 500 หรือ 700 รวมทั้งเมื่อหลายๆ กิจการได้รับผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้หรือโดนผลกระทบทางตรง เราก็มองถึงการที่จะทำให้ SME กลับมาฟื้นฟูได้ ก็มีสินเชื่อเติมทุนฟื้นฟูกิจการ เป็นสินเชื่อจากรัฐบาลที่ช่วยสนับสนุน SME ให้ธนาคารคิดอัตราดอกเบี้ยจาก SME คงที่ 3% นาน 3 ปี อันนี้ก็จะช่วยลดต้นทุน

นอกจากนี้ธนาคารยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่จะช่วยลดต้นทุน สามารถสอบถามธนาคารได้ผ่าน Call Center 1357

มีการตัดเงินต้นสูงสุด 30% แล้วก็ลดค่างวดผ่อนชำระ ขยายระยะเวลาการชำระ ตรงนี้ให้กี่เดือน

เราให้ยาวถึง 1 ปีเลย แต่เราก็ไม่ได้บอกว่าแค่ถึง 1 ปีแล้วเราก็หยุดช่วยเหลือ ไม่ใช่ คือเมื่อเราช่วยเหลือลูกค้าแล้วเราต้องช่วยเหลือให้จนสุดทาง ลูกค้ามีความมุ่งมั่นตั้งใจในการที่จะแก้ไขปัญหาแล้วที่จะฟื้นฟูกิจการให้มาสามารถดำเนินธุรกิจได้ดังเดิม ธนาคารก็พร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือ เราให้พนักงานที่ดูแลบัญชีลูกค้าติดต่อลูกค้าทุกราย รายใดที่ได้รับการติดต่อไปแล้วหรือรายใดที่ยังไม่ได้รับการติดต่อก็สามารถที่จะประสานเจ้าหน้าที่ที่ดูแลบัญชีในแต่ละสาขา เรามีจังหวัดที่ได้รับผลกระทบตรงๆ อยู่ประมาณ 4-5 จังหวัด เช่น สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี แต่จะขยายผลไหมเราก็ไม่รู้ แต่เราก็พยายามที่จะช่วยเหลือลูกค้าให้มีสภาพคล่อง ให้มีการดำเนินธุรกิจได้อย่างเหมาะสม

จะพิจารณาอย่างไรถ้าลูกค้าเข้ามาบอกว่าให้ช่วยเหลือหน่อย เขาได้รับผลกระทบ การจะพิจารณาว่าลูกค้ารายนี้ใช่ รายนี้ไม่ใช่ เราเข้มงวดแค่ไหน

เราดูลูกค้าอยู่แล้ว ทุกวันนี้เราใกล้ชิดกับลูกค้ามากๆ เราโทรคุยกับลูกค้า บางรายก็ไปเยี่ยมกิจการ บางรายก็มีการปรับโครงสร้างหนี้ในช่วงที่ผ่านมาก็มี เพราะฉะนั้นข้อมูลต่างๆ เรามีการอัปเดตอย่างต่อเนื่องว่าลูกค้าที่ได้รับผลกระทบเขาเดือดร้อนขนาดไหน อาจจะถ่ายรูปมาให้เรารู้ก็ได้เพื่อให้ประหยัดเวลาในการที่จะช่วยได้อย่างทันท่วงที หรือถ้าเราเข้าไปได้เราก็พยายามที่จะเข้าไปเพื่อจะได้คุยกับลูกค้าตัวเป็นๆ ด้วยว่าลูกค้าต้องการความช่วยเหลือเกินกว่ามาตรการที่เรามีอยู่ไหม นี่คือสิ่งที่เรามอง และพอเรามองไปแล้วมาตรการช่วยเหลือเบื้องต้นคือพวกมีหนี้เดิมอยู่แล้วเราต้องทำให้เบาตัวลง พอเบาตัวลง อย่างน้อยๆ ก็มี Cash Flow เหลืออยู่โดยยังไม่ต้องจ่ายหนี้แบงก์ ก็จะช่วยให้ SME บางรายที่ได้รับผลกระทบทางอ้อมซึ่งเขาอาจจะยังไม่อยากเป็นหนี้เพิ่ม

แต่ถ้าได้รับผลกระทบทางตรงธนาคารก็พร้อมจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เพราะมีประวัติลูกค้าอยู่แล้ว มีไฟล์ของลูกค้าอยู่แล้ว อันนี้เราพร้อมที่จะช่วยเหลือได้อย่างเต็มที่

ถ้าไม่ได้เป็นลูกค้า SME D Bank มาก่อน แล้วอยากจะเข้ามาขอความช่วยเหลือ จะมีการพิจารณาไหม

ยินดีเลย เพราะธนาคารเราให้บริการทั้งที่เป็นลูกค้าและยังไม่เป็นลูกค้า ก็อยากจะเชิญชวนและประชาสัมพันธ์ SME ที่ได้รับผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็นอุทกภัยหรือภัยอื่นๆ ที่เป็นภัยธรรมชาติ แม้แต่ในเรื่องของการดำเนินธุรกิจชายแดน เราพร้อมที่จะให้บริการลูกค้าเพราะเกณฑ์ที่เราพิจารณาอยู่นี้เป็นเกณฑ์ที่ผ่อนปรนค่อนข้างมากสำหรับ SME ที่ยังไม่ได้เป็นลูกค้าของธนาคาร

SME D Bank ต้องเตรียมวงเงินเอาไว้เยอะไหม

เรามีวงเงินสำหรับสินเชื่อรายเล็กๆ กลุ่ม Micro ที่มีวงเงินอนุมัติสินเชื่อไม่เกิน 1.5 ล้านบาท รวมแล้วเรามีอยู่ประมาณ 9,000 กว่าล้านบาท เหลือเฟือเพียงพอที่จะช่วย SME ได้ และ SME ที่โตขึ้นมาหน่อย ที่รายได้เกินกว่า 2 ล้านบาท เรามีอยู่หลายพันล้านบาท แต่ทั้งหลายทั้งปวงเรายังมีวงเงินของธนาคารรองรับตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกมิติ อันนี้ก็เป็นโครงการที่ดอกเบี้ยต่ำ โครงการของธนาคารก็มีต่ำกว่านี้ที่จะช่วย SME ได้ด้วย เช่น สินเชื่อรีไฟแนนซ์ดอกเบี้ย 2.99 ในปีแรก อันนี้ก็จะช่วย SME ในการลดต้นทุนทางการเงิน

เราเข้าใจว่า SME ตอนนี้ใจจดใจจ่อเหมือนกันว่าจะเพิ่มการลงทุนดีไหม เพราะเรายังมีข้อจำกัดหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มสภาพเศรษฐกิจ เรื่องการชะลอตัวของการค้า เรื่องความผันผวน ของสินค้าเกษตร หรือเรื่องหนี้ครัวเรือนอะไรต่างๆ ถึงแม้ SME อาจจะไม่ได้รับกระทบแบบตรงๆ เหมือนกับกิจการขนาดใหญ่ แต่เขาเป็น Supply Chain ซึ่งยังไงก็มีผลกระทบอยู่ แต่ขณะที่เราเห็นปัจจัยด้านลบ ส่วนปัจจัยด้านบวกในตอนนี้ก็มี ไม่ใช่ไม่มี เช่น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ตัวนี้ที่รัฐบาลประกาศออกไปว่าจะไปช่วยสร้างโครงสร้างพื้นฐานทำนั่นทำนี่ ตรงนี้ก็จะเป็นการอัดฉีดเงินเข้าระบบให้กับ SME ที่ทำงานกับภาครัฐหรือภาครัฐวิสาหกิจ รวมทั้งมาตรการส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวและบริการ เช่น โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง เห็นจากข่าวมีลูกค้าลงทะเบียนค่อนข้างเยอะ ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นปัจจัยบวก

เมื่อเราดูทั้งปัจจัยบวก ปัจจัยข้อจำกัดแล้ว ผมเข้าใจได้ว่า SME ก็ยังต้องปรับตัวเพื่อจะให้ลดความผันผวนตรงนี้ลงไป เมื่อปรับตัวต้องใช้เงินแน่นอนไม่ว่าจะเป็นเรื่องปรับเปลี่ยนเครื่องจักร ไม่ว่าจะปรับเปลี่ยนเรื่องการใช้พลังงานทดแทน หรือไม่ว่าจะเปลี่ยนเรื่องเงินทุนหมุนเวียน SME D Bank ก็มีแพ็คเกจที่ผมนำเรียนไปดีๆ หลายโครงการมากๆ ก็อยากจะเชิญชวน SME เข้ามาในที่เว็บไซต์ของธนาคารเข้ามาสอบถามที่ 1357 เข้ามาสอบถามสาขา เรามีสาขาอยู่ 96 สาขาทั่วประเทศ เราสามารถที่จะให้บริการแบบออนไซต์หรือแบบออนไลน์ได้ ทาง SME D Bank เราตั้งปณิธานไว้จะให้บริการด้วยความเป็นกันเอง รวดเร็ว เพื่อช่วยเหลือให้ SME เข้าถึงแหล่งทุนได้อย่างกว้างขวางและอย่างครอบคลุม ตรงนี้เป็นพันธกิจสำคัญที่รับมาจากเชิงนโยบายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวง ไม่ว่าจะเป็นนโยบายประเทศ หรือแม้กระทั่งนโยบายของแบงก์