สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เกรงพิษโควิด-19 กระทบภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หนัก เสนอให้ยกเลิกมาตรการ LTV เลื่อนจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พร้อมทั้งเตือนผู้ประกอบการหนี้หุ้นกู้ ตั๋วบีอีมาก ให้รีบเคลียร์
นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผยว่า แนวทางส่งเสริมให้ภาคอสังหาริมทรัพย์สามารถกลับมาฟื้นตัว ท่ามกลางการเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีหลายประเด็น ได้แก่
ประการแรก ควรยกเลิก มาตรการกำกับควบคุมการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย "Loan to Value : LTV" ซึ่งจะช่วยกระตุ้นทั้งกำลังซื้อทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าชาวจีนที่จะเข้ามาซื้อเพื่อการลงทุน ซึ่งจะช่วยดูดซัพพลายภายในระบบได้
ประการที่สอง เรื่องการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กระทบกับภาคอสังหาริมทรัพย์แน่นอน และเมื่อเข้าสู่เดือนมิถุนายน 2563 จะมีการเก็บภาษีตามที่กฎหมายระบุไว้
ประการที่สาม การสร้างกำลังซื้อและความเชื่อมั่น ซึ่งเราก็กังวลหากธนาคารสวมหมวกกันน็อก มองทุกธุรกิจเสี่ยงหมด ก็น่าเป็นห่วง ดังนั้น ที่ผ่านมาในระบบเคยมีกลไกในการฟื้นความเชื่อมั่น ผ่านบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (SMC) การเข้าไปรับซื้อหนี้สินเชื่อจากธนาคาร เช่น อาชีพกัปตันนักบิน เป็นกลุ่มที่มีรายได้ดี แต่วิกฤตครั้งนี้ ทำให้ธนาคารอาจจะไม่ปล่อยสินเชื่อให้ ซึ่งหากมี SMC เกิดขึ้นอีกครั้ง ก็จะทำให้ลดความเสี่ยงในการตั้งสำรองในเกณฑ์ที่สูง แต่ทั้งนี้ ประเด็นเรื่อง SMC เป็นภาพใหญ่ของนโยบายที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ยกเลิก SMC ไปแล้ว
"ขณะนี้ยังประเมินไม่ได้ว่า วิกฤตการณ์โควิด-19 จะจบเมื่อไหร่ แต่หากเกิดความชัดเจนในเรื่องของวัคซีนป้องกันแล้ว ก็จะเป็นการฟื้นความเชื่อมั่นได้ ซึ่งผลจากโควิด-19 ธุรกิจการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบก่อน ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เหมือนมะเร็ง ช่วง 3 เดือนข้างหน้า เรายังทนได้ แต่ถ้าปล่อยไปถึงไตรมาส 4 คิดว่าลำบาก คล้ายๆ วิกฤตปี 2540 ที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ถูกกระทบและล้มกระจาย ยิ่งปัจจุบันนี้ ผู้ประกอบการอสังหาฯ รายใดมีหนี้เยอะ ก็จะลำบาก บริษัทใดออกหุ้นกู้ ตั๋วสัญญาใช้เงิน และจะครบดิวจะต้องหาวิธีบริหารสภาพคล่องให้ดี เพราะประเมินว่าปลายปีจะมีตัวเลขครบไถ่ถอนไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ทางออกของผู้ที่ออกหุ้นกู้ หรือตั๋วบีอี ก็ต้องไปยืดหนี้ตัวนี้ออกไป แม้ว่า แบงก์ชาติจะมีการเข้ามาช่วยเหลือตราสารหนี้ในระบบ แต่จะเน้นตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อที่ดี" นายพรนริศ กล่าว
Comentários