นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มการลงทุนในหุ้น ESG ถือเป็นรูปแบบการลงทุนที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในกลุ่มนักลงทุนทั่วโลกโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งให้ความสำคัญกับธุรกิจที่คำนึงถึงปัจจัยสำคัญ 3 ด้าน คือ สิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance) หรือ ESG ซึ่งเป็นหนึ่งในธีมการลงทุนอย่างยั่งยืน (Sustainable and Responsible Investing – SRI) และมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของ บลจ.ไทยพาณิชย์ ได้บริหารจัดการกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นธรรมาภิบาลไทย (SCBTHAICG) นับจากจัดตั้งกองทุนในปี 2560 ก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักลงทุนเช่นเดียวกัน โดยตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2562) มีเม็ดเงินใหม่เข้ามาลงทุนในกองทุนดังกล่าวรวม 842 ล้านบาท สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในหุ้นกลุ่มธรรมาภิบาลซึ่งเป็นธีมการลงทุนที่ไม่เพียงแต่เน้นลงทุนในธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลเท่านั้น แต่ยังมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างยั่งยืนในระยะยาว นอกจากนี้ยังถือเป็นการสร้างแรงจูงใจและค่านิยมให้กับบริษัทจดทะเบียนหันมายึดหลัก ESG ในการดำเนินธุรกิจด้วย
“ปัจจุบันพอร์ตการลงทุนของ SCBTHAICG จะลงทุนในหุ้นกลุ่ม ESG ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ประมาณ 30 บริษัท โดยให้น้ำหนักการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน ปิโตรเคมีภัณฑ์และอสังหาริมทรัพย์ เป็นหลัก โดยบริษัทที่ลงทุนจะต้องผ่านเกณฑ์หุ้นที่จัดว่ามีธรรมาภิบาลสูงตามการคัดกรองของกองทุนธรรมาภิบาลไทย ซึ่งจะคัดเลือกหุ้นที่ได้รับการประเมิน 4 ดาว และได้การรับรองเป็นสมาชิกของแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (CAC) และคัดกรองซ้ำจากเกณฑ์ภายในของ บลจ.ไทยพาณิชย์ ว่าเป็นหุ้นที่มีแนวโน้มการเติบโตดีหรือมีราคาถูกกว่าที่ควรจะเป็น” นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นธรรมาภิบาลไทย สามารถสร้างผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 8.69% ต่อปี ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -3.04% ต่อปี ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -0.21% ต่อปี ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 4.95% ต่อปี และตั้งแต่จัดตั้งอยู่ที่ 3.36% ซึ่งสูงกว่าเมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน (SET TRI) โดยผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 3.84% ต่อปี ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -4.87% ต่อปี ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -4.73% ต่อปี ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 0.56% ต่อปี และตั้งแต่จัดตั้งอยู่ที่ 0.19% (ข้อมูล ณ วันที่ 13 ธันวาคม 2562) โดยกองทุนนี้มีผลตอบแทนอันดับ 1 สองปีซ้อนเมื่อเทียบกับในกลุ่มหุ้นธรรมาภิบาล (ที่มา : กองทุนผลตอบแทนอันดับ 1 ในกลุ่มกองทุนรวมธรรมาภิบาลไทยปี 2561 และ 2562 ข้อมูลจาก www.aimc.or.th ณ 4 พ.ย. 2562)
ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการ ได้ที่ SCBAM Call Center โทร.02-777-7777 กด 0 กด 6 หรือผู้สนับสนุนการขายทุกราย
Comentários