บล. โกลเบล็ก ประเมินสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยยังคงเทน้ำหนักไปในประเด็นมาตรการต่างๆ ของแบงก์ชาติที่กดดันราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ แนะนักลงทุนงัดวิชา สะกดรอยตาม เพื่อลงทุนในหุ้นที่เป็นเป้าหมายการลงทุนของ กองทุน SSFX
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก (GBS) ประเมินว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยมีทิศทางแกว่งตัวผันผวนจากแรงขายหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจาก แบงก์ชาติขอให้แบงก์พาณิชย์งดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล และงดซื้อหุ้นคืนเพื่อรักษาระดับเงินกองทุนให้เข้มแข็ง ประกอบกับความกังวลการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบ 2 ในสหรัฐและจีน หลังมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น ขณะที่ต้องจับตาดูการรายงานเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งลุ้นว่าจะมีการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่
“สถานการณ์เชิงบวก อาทิ ไทยมีความคืบหน้าเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 การทดสอบฉีดวัคซีนในสัตว์เข็มแรกได้ผลที่น่าพอใจ จะฉีดเข็มที่สองในวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา และแผนฉีดเข็มที่ 3 ในเดือน ก.ค. ซึ่งหากเป็นไปตามแผนคาดจะทดสอบในมนุษย์ได้ประมาณเดือนต.ค.-พ.ย.นี้ ซึ่งไทยยังเป็นประเทศกลุ่มแรกร่วมกับประเทศในทวีปแอฟริกาที่จะได้รับวัคซีนโควิด-19 จากจีนหลังจากจีนส่งออกวัคซีนได้แล้ว ซึ่งคาดจะประมาณไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ขณะที่สถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในประเทศไทยไม่พบต่อเนื่อง คาดจะมีการทยอยปลดล็อกในระยะต่อไปเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ รวมทั้งมีโอกาสที่จะเห็นการทำ Window Dressing สิ้นงวดไตรมาสที่ 2/63 ในขณะนี้ล้วนแต่รอผลจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ”
นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก แนะนำลงทุนในหุ้นที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายของกองทุน SSFX เช่น AOT, CPALL, PTT และ ADVANC รวมทั้งหุ้นเข้าคำนวณดัชนี SET50 มีผลในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 เช่น BPP และ TTW