ฟอลคอนประกันภัยประกาศผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ปี 2564 เติบโต 15% สถานะการเงินแข็งแกร่ง มีเงินกองทุนสูง 246% พร้อมเดินหน้าลุยธุรกิจให้เติบโตโดยเร่งขยายฐานลูกค้าไปยังตลาดใหม่ๆ เน้นทำการตลาดทั้งกลุ่มลูกค้ารายเดี่ยวและกลุ่มลูกค้าองค์กร ควบคู่ไปกับนโยบาย ESG
บริษัท ฟอลคอน ประกันภัย รายงานผลการดำเนินปี 2564 ระบุมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 2,953 ล้านบาท เติบโตกว่า 15% เมื่อเทียบกับปี 2563 สัดส่วนของการรับประกันภัย (Portfolio Mix) ระหว่าง Motor และ Non-Motor อยู่ที่ 51:49 โดยเบี้ยประกันภัยรถยนต์คิดเป็นสัดส่วน 51% รองลงมาเป็นประกันภัยทรัพย์สิน 21% ประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพ 12% ประกันภัยเบ็ดเตล็ด 11% และประกันภัยอื่นๆ 5% สำหรับสัดส่วนของเบี้ยประกันโควิด-19 คิดเป็นประมาณ 1% ของเบี้ยประกันภัยรับ จึงไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดการด้านสินไหมของบริษัท รวมถึงการดำเนินธุรกิจกับคู่ค้าทุกรายยังคงเป็นไปตามปกติ ณ สิ้นปี 2564 และมีอัตราส่วนเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย หรือ CAR 246% เมื่อเทียบกับขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนด 120%
นางโสภา กาญจนรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟอลคอนฯ กล่าวถึงความสำเร็จที่เกิดขึ้นในปี 2564 ของบริษัทว่ามาจากปัจจัยหลายส่วนประกอบกัน แม้ว่าสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมประกันภัยเป็นวงกว้างก็ตาม แต่สำหรับฟอลคอนฯ ได้ดำเนินการตามนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ ควบคุมทุกกระบวนการภายในบริษัท เพื่อให้สามารถบริหารความเสี่ยงให้อยู่ภายใต้ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ฟอลคอนฯ ควบคุมปริมาณการรับประกันโควิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อประกอบกับการเติบโตจากการรับประกันภัยประเภทอื่นๆ รวมถึงกลยุทธ์การรุกตลาดทุกช่องทาง และการปรับขั้นตอนการทำงานโดยมุ่งเน้น Automation process ในระบบการปฏิบัติการหลักในทุกส่วนงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการจัดการต้นทุนได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับ ปี 2565 ฟอลคอนฯ ตั้งเป้าการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับที่ 3,125 ล้านบาท ในส่วนของกลยุทธ์นั้น ฟอลคอนฯ ยังคงมุ่งเน้นทำการตลาดทั้งกลุ่มลูกค้ารายเดี่ยวและกลุ่มลูกค้าองค์กร รวมถึงการขยายฐานลูกค้าไปยังตลาดใหม่ๆ แต่ยังคงเคร่งครัดในเรื่องการพิจารณารับประกันภัยและการจัดการสินไหมทดแทน
“ในปีนี้ฟอลคอนฯ มีแผนนำระบบ AI มาใช้ในการประเมินความเสียหายของรถยนต์เพื่อความถูกต้องแม่นยำและช่วยลดระยะเวลาในการขออนุมัติซ่อม ในส่วนของการรับ-ส่งข้อมูลและการสื่อสารระหว่างอู่กับบริษัท ดำเนินการผ่านแพลตฟอร์มโดยการใช้ภาพถ่ายและข้อมูลในรูปแบบดิจิทัล ซึ่งการใช้ AI ในการประเมินความเสียหายนี้จะช่วยให้การอนุมัติซ่อมเป็นไปอย่างเป็นธรรมและโปร่งใสจากการใช้ราคากลางค่าซ่อมที่เป็นมาตรฐาน ทำให้ลูกค้าและคู่ค้าได้รับการบริการที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น ฟอลคอนฯ ได้พัฒนาระบบงานการให้บริการลูกค้าผู้ถือกรมธรรม์โดยลูกค้าสามารถติดต่อบริษัทผ่านทุกช่องทาง (Omni Channel) ด้วยการเชื่อมโยงช่องทางการติดต่อทุกช่องทางเข้าระบบ CRM เพื่อให้สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้รวดเร็ว ทุกที่ ทุกเวลา ผ่าน Cloud Platform”
นอกจากนี้ในปี 2565 นี้จะเดินนโยบาย ESG เข้ามาเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์องค์กรเพื่อเป้าหมายในการเป็นบริษัทประกันวินาศภัยที่เติบโตยั่งยืน โดยเริ่มต้นจากการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวในทุกส่วนงานอย่างเป็นรูปธรรม และกับลูกค้า คู่ค้าทุกกลุ่ม มุ่งเน้นการจัดการให้มีกรอบการกำกับดูแลกิจการที่ดี เช่นการออกแผนประกันภัยสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนจากพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับลูกค้าประกันภัยที่อยู่อาศัย ขยายความคุ้มครองเพิ่มเติมไปยังวัสดุที่ติดตั้งเพื่อเก็บกักพลังงาน