top of page
369286.jpg

ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2565 จำนวน 1,061 ล้านบาท เติบโต 210.9 %



• กำไรสุทธิ 1,061 ล้านบาท ( +210.9 % YoY หรือ 719.7 ล้านบาท)

• ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง 291.7 ล้านบาท (-14.0 % YoY) จากการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น

• อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงาน ปรับตัวดีขึ้นเป็น 51.4 % จาก 59.3 % YoY


นายพอล วอง ชี คิน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคาร สำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2565 มีกำไรสุทธิจำนวน 1,061.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 719.7 ล้านบาท หรือร้อยละ 210.9 เมื่อเปรียบเทียบผลกำไรสุทธิของงวดเดียวกัน ปี 2564 สาเหตุหลักเกิดจากการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้นส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลงร้อยละ 14.0 และผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลงร้อยละ 64.0 ในขณะที่รายได้จากการดำเนินงานลดลงร้อยละ 0.8


รายได้จากการดำเนินงาน สำหรับงวดสามเดือนปี 2565 มีจำนวน 3,484.1 ล้านบาท ลดลงจำนวน 26.4 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.8 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 2564 เนื่องจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 152.9 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.2 จากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อและธุรกิจเช่าซื้อ และการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิจำนวน 26.7 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.5 เกิดจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมและบริการ สุทธิกับรายได้จากการดำเนินงานอื่นเพิ่มขึ้นจำนวน 153.1 ล้านบาท หรือร้อยละ 24.1 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุนและรายได้อื่น


ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสำหรับงวดสามเดือนปี 2565 เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 2564 ลดลงจำนวน 291.7 ล้านบาทหรือร้อยละ 14.0 เนื่องจากการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น ทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้จากการดำเนินงานสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2565 อยู่ที่ร้อยละ 51.4 ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2564 อยู่ที่ร้อยละ 59.3


อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Net Interest Margin – NIM) สำหรับงวดสามเดือนปี 2565 อยู่ที่ร้อยละ 2.8 ลดลงจากงวดเดียวกันปี 2564 อยู่ที่ร้อยละ 3.1 เป็นผลจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อและธุรกิจเช่าซื้อ


วันที่ 31 มีนาคม 2565 เงินให้สินเชื่อสุทธิจากรายได้รอตัดบัญชี (รวมเงินให้สินเชื่อซึ่งค้ำประกันโดยธนาคารอื่นและเงินให้สินเชื่อแก่สถาบันการเงิน) ของกลุ่มธนาคารอยู่ที่ 215.0 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 เมื่อเทียบกับเงินให้สินเชื่อ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 กลุ่มธนาคารมีเงินฝาก (รวมตั๋วแลกเงิน หุ้นกู้ และผลิตภัณฑ์ทางการเงินบางประเภท) จำนวน 252.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.4 จากสิ้นปี 2564 ซึ่งมีจำนวน 239.5 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก (the Modified Loan to Deposit Ratio) ของกลุ่มธนาคารลดลงเป็นร้อยละ 85.2 จากร้อยละ 88.5 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564


สินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs) อยู่ที่ 8.4 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ต่อเงินให้สินเชื่อทั้งสิ้นอยู่ที่ร้อยละ 3.8 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 อยู่ที่ร้อยละ 3.7 เป็นผลจากการขายสินเชื่อด้อยคุณภาพในปี 2564 อย่างไรก็ตาม ธนาคารซีไอเอ็มบีไทยยังคงมาตรฐานการอนุมัติสินเชื่อ และนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุมขึ้น ตลอดจนได้มีแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการติดตามหนี้ การดำเนินการดูแลและการแก้ไขลูกหนี้ที่ถูกผลกระทบดังกล่าวอย่างใกล้ชิด


อัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 อยู่ที่ร้อยละ 112.0 ลดลงจากสิ้นปี 2564 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 117.5 ค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของกลุ่มธนาคารอยู่ที่จำนวน 8.6 พันล้านบาท ซึ่งเป็นเงินสำรองส่วนเกินตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 1.5 พันล้านบาท


เงินกองทุนรวมของกลุ่มธนาคาร ณ สิ้นวันที่ 31 มีนาคม 2565 มีจำนวน 53.6 พันล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยงร้อยละ 21.9 โดยเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ร้อยละ 15.9


"ผลการดำเนินงานโดยรวมมีความก้าวหน้า แม้จะยังมีความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวจากการระบาดของ COVID-19 โดยบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ คุณภาพสินทรัพย์ปรับปรุงดีขึ้น และเห็นโมเมนตัมการเติบโตเชิงบวกในไตรมาสแรก กลยุทธ์ของธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ปี 2565 จะเดินหน้ามุ่งเน้นโซลูชั่นทางการเงินอย่างยั่งยืน และตอบความต้องการลูกค้าอย่างตรงจุด ผ่านการขับเคลื่อนจากธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจรายย่อย ธุรกิจรายใหญ่ ธุรกิจบริหารเงิน โดยใช้ประโยชน์จากเครือข่ายอาเซียนและดิจิทัลแพลตฟอร์ม " พอล วอง ชี คิน กล่าว


 

CIMB THAI posts 210.9 % YoY increase in net profit of THB 1,061 million for 3M2022 • Net profit of THB 1,061.0 million (+210.9% YoY or an increase of THB 719.7 million YoY) • Operating expenses decreased by THB 291.7 million (-14.0% YoY), largely due to better optimisation of cost management • Cost to income ratio improved to 51.4% compared to 59.3% YoY Mr. Paul Wong Chee Kin, President and Chief Executive Officer, CIMB Thai Bank PCL commented on the unreviewed consolidated financial results for the three months ended 31 March 2022 (3M2022), “CIMB Thai Group recorded a consolidated net profit of THB 1,061.0 million, an increase of THB 719.7 million or 210.9% year-on-year (“YoY”) compared to 3M2021. The improvement was mainly attributed to better cost control with a 14.0% decline in operating expenses and a 64.0% decrease in expected credit losses, despite a marginal drop of 0.8% in operating income.” On a YoY basis, operating income declined by THB 26.4 million, or 0.8% to THB 3,484.1 million attributed to the drop in net interest income of THB 152.9 million or 6.2% due to lower interest income on loans and hire purchase business, as well as drop in net fee and service income by THB 26.7 million or 6.5% from higher fee and service expenses. This was partially offset by the increase in other operating income by THB 153.1 million or 24.1% due to an increase in gains on financial instruments measured at fair value through profit or loss, and other income. Operating expenses decreased by THB 291.7 million or 14.0%, largely due to better optimisation of cost management. This consequently improved the cost to income ratio to 51.4% in 3M2022 compared to 59.3% in 3M2021. Net Interest Margin (NIM) over earning assets stood at 2.8% in 3M2022, compared to 3.1% in 3M2021, resulting from lower interest income on loans and hire purchase business. As at 31 March 2022, total gross loans (inclusive of loans guaranteed by other banks and loans to financial institutions) stood at THB 215.0 billion, an increase of 1.5% from 31 December 2021. Deposits (inclusive of bills of exchange, debentures and selected structured deposit products) stood at THB 252.5 billion, an increase of 5.4% from THB 239.5 billion as at end of December 2021. The modified loan to deposit ratio decreased to 85.2% from 88.5 % as at 31 December 2021. The gross non-performing loans (“NPL”) stood at THB 8.4 billion, with a higher gross NPL ratio of 3.8% from 3.7% as at 31 December 2021 due to the sale of NPLs in 2021. CIMB Thai continues to exercise high credit risk underwriting standards and risk management policies. The Bank will also continue to focus on improving productivity, monitoring collection and managing all accounts closely and effectively. CIMB Thai Group’s loan loss coverage ratio as at 31 March 2022 stood at 112.0% from 117.5% at the end of December 2021. Total allowance for expected credit losses stood at THB 8.6 billion, THB 1.5 billion over the Bank of Thailand’s reserve requirements. Total consolidated capital funds as at 31 March 2022 stood at THB 53.6 billion. The BIS ratio stood at 21.9%, of which 15.9% comprised Tier-1-capital. "We are pleased to have made considerable progress on our overall performance despite the uncertain recovery surrounding the COVID-19 pandemic, driven by our cost discipline and improved asset quality, and we also saw positive growth momentum in 1Q22. CIMB Thai’s 2022 strategy is to remain focused on driving sustainable financial solutions and personalised services through its key business drivers - Consumer Banking, Wholesale Banking and Treasury and Markets, while leveraging its ASEAN network and digital platforms." Paul Wong Chee Kin said.

14 views

Comments


bottom of page