top of page
379208.jpg

นักการธนาคารแห่งปี 2019 : ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน





เครือหนังสือพิมพ์ดอกเบี้ยธุรกิจ ยกย่อง "ชาติชาย พยุหนาวีชัย" ผอ.ออมสิน รับรางวัลเกียรติยศ Banker of the Year 2019 หลังนำพาธนาคารรุกสนับสนุนเศรษฐกิจฐานราก ช่วยคนพ้นความยากจน ด้วยกลยุทธ์ Social Banking ทั้งช่วยปลุก SMEs และ Startup รุกขึ้นสู้ ในบริบทธนาคารเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมที่ตอบโจทย์การตอบแทนสังคมและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน พร้อมก้าวสู่การธนาคารเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Banking)


เครือหนังสือพิมพ์ดอกเบี้ยธุรกิจ ซึ่งประกอบด้วย หนังสือพิมพ์ "ดอกเบี้ยธุรกิจ" รายสัปดาห์ นิตยสาร "ดอกเบี้ย" รายเดือน และ "ดอกเบี้ยเรดิโอ" ประกาศยกย่อง ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน (Government Savings Bank : GSB) ให้ได้รับรางวัลเกียรติยศ Banker of the Year 2019 หรือ นักการธนาคารแห่งปี 2562 ซึ่งการได้รับการยกย่องให้ได้รับรางวัลในครั้งนี้ ทำให้ ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ได้รับรางวัล Banker of the Year เป็นครั้งที่สาม จากที่เคยได้รับการยกย่องให้ได้รับรางวัล Banker of the Year 2016 และ 2017 หรือได้รับรางวัล 2 ปีติดต่อกันในช่วงก่อนหน้านี้


สำหรับการประกาศผลรางวัลครั้งล่าสุด คณะกรรมการตัดสินรางวัลมีมติเป็นเอกฉันท์ หลังจากพิจารณาว่า ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน มีผลงานโดดเด่นที่สุดตลอดปี 2562 โดยเฉพาะแนวคิดและการลงมือดำเนินการบริการทางการเงินใหม่ๆ พร้อมสนับสนุนทั้งองค์ความรู้และแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำที่เอื้อประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพอย่างยั่งยืนของผู้ประกอบอาชีพในระดับฐานราก หรือกลุ่มเศรษฐกิจฐานราก ช่วยค้ำจุนเศรษฐกิจไทยให้ยังสามารถเดินหน้าเติบโต โดย ดร.ชาติชาย ได้มีการคิดค้นผลิตภัณฑ์การเงินอย่างหลากหลายเจาะจงลงในผู้คนระดับฐานรากในแต่ละกลุ่มอาชีพ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและยั่งยืนต่อการประกอบอาชีพของผู้คนเหล่านั้น


ขณะเดียวกัน คะแนนของการได้รับรางวัลยังมาจาก ในฐานะผู้บริหารสูงสุดของธนาคารขนาดใหญ่อันดับหนึ่งของประเทศ ผู้อำนวยการธนาคารออมสินมีการทำงานอย่างเข้มแข็ง แทบไม่มีวันหยุด จนเรียกได้ว่าเป็นผู้บริหารที่เหนื่อยหนักกว่าใครในยุทธภพสถาบันการเงิน และยังมีการดำเนินการอย่างโปร่งใส ไร้ข้อบกพร่อง พร้อมกับมีกิจกรรมตอบแทนสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ประสานกันไปกับธุรกิจและพันธกิจของธนาคารในแนวทาง Social Banking ซึ่งถือเป็นการใช้ทรัพยากรของธนาคารอย่างชาญฉลาดและคุ้มค่าเพื่อสร้างสรรค์สังคม ธุรกิจ และพันธกิจของธนาคารเอง


ผลงานที่โดดเด่นของ ดร.ชาติชาย เกิดจากการกำหนดแผนการดำเนินงานสำหรับปี 2562 ของธนาคารออมสิน มุ่งสู่ GSB WAY 2019 : Drive Success with Highest Performance Delivered หรือ "วิถีออมสินยุคใหม่ พร้อมเติมเต็มสังคมไทย ก้าวไกลเหนือขีดจำกัด ภายใต้แนวคิด เติบโต ยั่งยืน ตอบแทนคืนสู่สังคม" เพื่อเป็นการขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จแบบไม่หยุดยั้ง พร้อมดูแลลูกค้ามากกว่าใคร ทั้งกลุ่มลูกค้าบุคคล กลุ่มลูกค้าธุรกิจและภาครัฐ และกลุ่มลูกค้าฐานรากและนโยบายรัฐ โดยสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าในการใช้บริการและทำธุรกรรมกับธนาคารออมสิน (Customer Journey) ภายใต้ "กลยุทธ์ 3 Banking" หลังจากประสบความสำเร็จในการเป็น The Best & Biggest Local Bank in Thailand ธนาคารที่ดีที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดของไทยในปี 2561 มาแล้ว


ขณะที่กลยุทธ์ 3 Banking เมื่อคลี่ออกมาดูรายละเอียด กลยุทธ์ด้านที่ 1 Traditional Banking ให้บริการธุรกรรมทางการเงินผ่านสาขาธนาคารในรูปแบบปกติ สำหรับลูกค้าที่มีความจำเป็นและต้องใช้บริการที่สาขา เป็นการการสร้างความมั่นคงทางการเงิน และขีดความสามารถในการแข่งขัน เป็นบริการธนาคารในรูปแบบปกติ แต่เพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้ามากยิ่งขึ้น ในบริการรูปแบบดิจิทัล ทำให้พนักงานมีเวลาเสนอผลิตภัณฑ์หรือแนะนำบริการต่างๆ ของธนาคารได้มากขึ้น ลดต้นทุนบริการ และเพิ่มรายได้ให้มากขึ้นด้วย พร้อมกันนี้ได้พัฒนาช่องทางการบริการให้มีความหลากหลาย ครอบคลุมทุกพื้นที่ ทั้งสาขา รถยนต์บริการเคลื่อนที่ เรือ Bank Agent สถาบันการเงินชุมชน และพันธมิตรใหม่ๆ


การให้บริการที่หลากหลายในรูปแบบสาขาธนาคารปกติ ทำให้พนักงานธนาคารออมสินยังมีหน้าที่ให้ปฏิบัติ ดังนั้น ในที่นี้จึงขอนับรวมไปถึงการที่ ดร.ชาติชาย "ได้ใจ" พนักงานธนาคารออมสิน ด้วยการประกาศอย่างหนักแน่นว่าจะไม่มีการปิดสาขาดังเช่นธนาคารพาณิชย์ ถือเป็นเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับพนักงานว่าจะไม่ต้องตกงานจากการถูก Technology Disruption เหมือนกับธนาคารพาณิชย์ที่ไล่ปิดสาขากันเป็นว่าเล่น เพราะธนาคารออมสินยังมีพันธกิจอีกมากมายในการรับใช้ประชาชนในทุกมิติที่อาจไม่ใช่เพียงด้านเทคโนโลยีอย่างเดียว


สำหรับ กลยุทธ์ด้านที่ 2 Digital Banking เพื่อให้บริการลูกค้าได้ทุกที่ ทุกเวลา เป็นการพัฒนาให้มีบริการที่รวดเร็วและทันสมัย พร้อมสร้างความสะดวกสบายบน Digital Platform ใหม่ๆ บน MyMo เพื่อตอบสนองความต้องการใช้บริการทางการเงินในทุกช่วงชีวิตของลูกค้า (MyMo My Life) ทั้งบริการด้านการออม การลงทุน การประกันชีวิต/ประกันภัย และการขอสินเชื่อ


ขณะที่ในฐานะสถาบันเพื่อการออม ผู้อำนวยการธนาคารออมสินได้เปิดให้บริการสลากดิจิทัลอายุ 1 ปี หน่วยละ 20 บาท ซึ่งนัยหนึ่งเป็นการลดการเสียเงินสูญเปล่าของประชาชนไปกับการซื้อหวยใต้ดิน ซึ่งปรากฏว่าในช่วง 10 วันแรกของการเปิดขาย มีผู้สนใจซื้อสลากดิจิทัลจำนวน 79,794 ราย คิดเป็นยอดเงินฝากกว่า 2,500 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีบริการ GSB Money โดยทุกธุรกรรมที่ใช้บริการกับธนาคารออมสิน จะสามารถสะสมแต้ม/คะแนน เพื่อแลกของรางวัล ส่วนลด และสิทธิประโยชน์ต่างๆ เป็น Loyalty Program ที่ตอบสนอง Lifestyle ในการใช้ชีวิตของลูกค้า เป็นรูปแบบการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า เพื่อให้ทุกธุรกรรมทางการเงินของลูกค้าผ่าน MyMo มีค่ามากขึ้น


ในกลยุทธ์ Digital Banking ดร.ชาติชาย ยังใช้เจาะและเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มที่ธนาคารมีจำนวนน้อยอย่างกลุ่มคนรุ่นใหม่ และกลุ่มวัยเริ่มทำงาน โดยมีการใช้กลยุทธ์ Music Strategy และ Sport Strategy ซึ่ง Music Strategy ผลงานโดดเด่นที่สอดรับกับธุรกิจของธนาคารด้วย คือ การออกบัตรเดบิต GSB GEN CARD ภายใต้ศิลปิน BNK48 เกิร์ลกรุ๊ปวงดังขวัญใจวัยรุ่น ซึ่งช่วยให้ธนาคารออกบัตรเดบิตใหม่ได้เป็นจำนวนมาก


ส่วนทางด้าน Sport Strategy รายการที่เรียกเสียงฮือฮาที่สุด คือ การจัดการแข่งขัน e-Soprt รายการใหญ่ระดับเอเชีย ซึ่ง ดร.ชาติชาย จัดให้ธนาคารออมสินร่วมกับสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เปิดการแข่งขัน GSB E-CUP 2019 THAILAND OPEN TOURNAMENT การแข่งขันเกม e-Football : Pro Evolution Soccer 2020 (PES2020) ที่มีเงินรางวัลรวมสูงถึง 3 ล้านบาท สูงที่สุดลำดับที่ 6 ของโลก และเป็นครั้งแรกที่มีการเปิดรับสมัครนักกีฬาอีสปอร์ตและผู้คนที่สนใจจากทั่วเอเชีย ซึ่งปรากฏว่ามีเซียนเกม PES ทั้งประเภทบุคคลและทีมเข้าสมัครกันคับคั่งเกินโควต้าที่ฝ่ายจัดการแข่งขันกำหนด


ส่วนกลยุทธ์ด้านที่ 3 Social Banking ธนาคารเพื่อสังคม อันเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้ ดร.ชาติชาย ได้คะแนนสำหรับรางวัลครั้งนี้มากที่สุด เป็นการสร้างความยั่งยืนให้กับสังคมด้วย Social Branch ซึ่งเป็นมิติใหม่ของสถาบันการเงินที่มีสาขาดูแลด้านสังคมโดยเฉพาะ โดยปี 2562 ธนาคารออมสินดำเนินการอย่างมีรูปแบบชัดเจน เปิดเป็น "ศูนย์ยกระดับคุณภาพชีวิตเศรษฐกิจฐานรากของธนาคารออมสิน" ตั้งเป้าหมายมีครบ 100 แห่ง ครอบคลุม 77 จังหวัด ภายในปี 2563


ศูนย์ฯดังกล่าวประกอบไปด้วย ศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน ศูนย์แก้ไขหนี้นอกระบบ ศูนย์บริการชุมชน ข้อมูลต่างๆ ในท้องถิ่น จุดให้บริการทางการเงินเพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐ (Financial Logistic Center) ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินทุกรูปแบบให้บริการโดยเน้นบริการทางการเงินเพื่อสังคมและประชาชนฐานราก เช่น สลากออมสิน, MyMo Pay, GSB Pay, บัตรเดบิตคุ้มครองชีวิต/คุ้มครองอุบัติเหตุ GSB Smart Care/GSB Smart Life, ธนาคารประชาชน, สินเชื่อสตรีทฟู้ด, สินเชื่อโฮมสเตย์, สินเชื่อธุรกิจเฟรนไชส์ และสินเชื่อ QR รายวัน นอกจากนี้ ยังมีบริการธนาคารเพื่อผู้สูงอายุ ธนาคารพระพุทธศาสนา และการสนับสนุนการพัฒนา SMEs และ SMEs Start up อย่างครบวงจร รวมทั้งยังมีศูนย์แสดงสินค้าชุมชน และเว็บไซต์ O2O ที่ให้ลูกค้าของธนาคารซื้อขายสินค้าออนไลน์


สำหรับศูนย์ฯ ดังกล่าว ถูกกำหนดให้เดินตามกลไก 3 สร้าง ในการยกระดับเศรษฐกิจฐานราก คือ 1. สร้างความรู้/สร้างอาชีพ 2. สร้างตลาด/สร้างรายได้ และ 3. สร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งทุน ซึ่งในกลไกเหล่านี้ธนาคารออมสินสนับสนุนการยกระดับการให้บริการและยังสนับสนุนแหล่งทุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หนุนพัฒนาอาชีพและการเข้าถึงแหล่งทุน สร้างความเป็นอยู่ที่ดี นำหลุดพ้นความยากจน ของกลุ่มเศรษฐกิจฐานรากและผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งในปี 2562 มีโครงการที่สำคัญ เช่น โครงการ GSB Smart Homestay ที่ร่วมกับ Airbnb ยกระดับผู้ประกอบการโฮมสเตย์ไทย เพื่อพัฒนาตลาดการท่องเที่ยววิถีชุมชน ผ่าน Platform ที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก


นอกจากนี้ ยังมีโครงการ GSB Street Food เปลี่ยนชีวิต ซึ่งเป็นรายการเรียลิตี้สตรีทฟู้ดรายการแรกของไทย เพื่อเฟ้นหาร้านค้าริมทางเท้าที่มีความโดดเด่นภายใต้ "4D Street Food Upgrade" ประกอบด้วย D Food, D Innovation, D Design และ D Marketing


และที่สำคัญ การจัดโครงการประกวด GSB สุดยอด SMEs Startup ตัวจริง "BIG BOOM WOW ทำได้เลย ทำได้เร็ว ทำได้จริง" เพื่อเป็นเวทีสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ SME หรือ Startup นำเสนอแนวคิดธุรกิจที่มีความโดดเด่น แตกต่าง สร้างสรรค์ไอเดียธุรกิจ เพื่อชิงเงินทุนประเดิมมูลค่ารวมกว่า 3,000,000 บาท โดยผลงานที่ผ่านเข้ารอบ 100 ทีมที่มีความเป็นไปได้ในเชิงธุรกิจ และเข้าร่วมอบรมพัฒนาศักยภาพในการทำธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการจะได้รับการพิจารณาการให้สินเชื่อธุรกิจอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 1 - 2 ปี ในวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท รวมถึงมีโอกาสที่จะร่วมทุนกับ VC (Venture Capital) ธนาคารออมสินอีกด้วย


ขณะที่การสนับสนุนกลุ่มเศรษฐกิจฐานรากในภาพรวม ดร.ชาติชาย ได้จัดโครงการสินเชื่อเพื่อกลุ่มเศรษฐกิจฐานรากมาแล้วหลายโครงการ คิดเป็นวงเงินรวมหลายแสนล้านบาท ซึ่งล่าสุดในการร่วมงาน "เศรษฐกิจฐานราก พลิกความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทย" ดร.ชาติชายจัดโครงการ "สินเชื่อประชารัฐสร้างไทยธนาคารประชาชน 5..5..5" วงเงินโครงการ 2,500 ล้านบาทเข้าร่วม โดยให้กู้รายละไม่เกิน 50,000 บาท เพื่อให้พ่อค้า แม่ค้า หาบเร่ แผงลอย ผู้ประกอบอาชีพอิสระรายย่อย และผู้มีรายได้น้อย ได้นำเงินไปเป็นทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ โดยผู้กู้สามารถใช้บุคคล หรือ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกัน มีวงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 0.50% ต่อเดือน (Flat Rate) ระยะผ่อนชำระเกิน 5 ปี (60 งวด)


ส่วนก่อนหน้านั้น ในช่วงรอยต่อของรัฐบาลชุดก่อนที่ดำเนินการโครงการ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้อำนวยการธนาคารได้ต่อยอดโครงการ ด้วยการออกมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐด้วยการเป็นแหล่งทุน ให้เงินกู้ สินเชื่อโครงการธนาคารประชาชนสำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นำไปเป็นทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ ประกอบอาชีพเสริม โดยให้วงเงินกู้ไม่เกินรายละ 50,000 บาท ผ่อนชำระ 3-5 ปี อัตราดอกเบี้ย 0.75% ต่อเดือน (Flat Rate) กรณีกู้ 10,000 บาท ผ่อนชำระขั้นต่ำเพียงงวดละ 242 บาทต่อเดือน กรณีกู้ 50,000 บาท ผ่อนชำระขั้นต่ำงวดละ 1,209 บาทต่อเดือน


นอกเหนือกว่านั้น จากที่ธนาคารออมสินมีสินเชื่อบ้านให้บริการด้วย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ได้จัดหนักจัดเต็มให้คนต้องการมีบ้าน ด้วยผลิตภัณฑ์ที่แม้แต่คนไม่ได้คิดจะซื้อบ้านยังต้องกล่าวถึง โดยออกผลิตภัณฑ์ สินเชื่อบ้านผ่อนต่ำ ล้านละ 10 บาท ไม่จำกัดวงเงินกู้สูงสุด คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 0.010% ปีที่ 2-3 เท่ากับ 4.350% ต่อปี ปีที่ 4 เป็นต้นไป MRR-0.50% ต่อปี คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี เท่ากับ 2.903% โดยวงเงินกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระ 20 ปี ในปีแรกคิดเป็นเงินงวดผ่อนชำระ 10 บาทต่อเดือน ปีที่ 2-3 ผ่อนชำระ 3,700 บาทต่อเดือน และปีที่ 4 เป็นต้นไป ผ่อนชำระ 8,300 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ ยังได้รับการลดค่าใช้จ่ายในการซื้อที่อยู่อาศัยตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งให้ลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์จาก 2.00% เหลือ 0.01% และลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนจำนองจาก 1.00% เหลือ 0.01%


กิจกรรมสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเหล่านี้ ยังไม่นับรวมกรณีที่ ดร.ชาติชาย ได้ขอมติคณะกรรมการธนาคารปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ลง 2 ครั้ง โดยไม่ลดดอกเบี้ยเงินฝาก เพราะกลัวกระทบภาพลักษณ์สถาบันเพื่อการออม จากที่ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 2 ครั้งในปี 2562


รวมทั้งการแจกของขวัญปีใหม่ 2563 ในช่วงปลายปี 2562 ด้วยการออกโครงการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต สำหรับลูกหนี้ที่ชำระหนี้เป็นปกติติดต่อกัน 12 เดือน สามารถโอนหนี้มาเป็นเงินกู้ที่ธนาคารออมสิน (Balance Transfer) โดยให้ชำระขั้นต่ำเพียง 3% จากเดิม 10% และให้ผ่อนชำระคืนเป็นเวลาประมาณ 3 ปี เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ดีที่ประสบปัญหาการเงินจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และการลดดอกเบี้ยเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับลูกค้าของธนาคารออมสินที่ชำระหนี้ดีติดต่อกัน 12 เดือน สำหรับลูกหนี้รายย่อยที่มียอดหนี้ไม่เกิน 2 แสนบาท


ขณะที่ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล เพื่อให้ทราบถึงแนวโน้มและทิศทางในระยะข้างหน้า เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทย และเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน ดร.ชาติชาย ได้ดำเนินการให้มีการก่อตั้ง ศูนย์วิจัยธนาคารออมสิน หรือ GSB Research เพื่อทำการวิจัยทั้งด้านเศรษฐกิจมหภาค จุลภาค เศรษฐกิจฐานราก และเศรษฐกิจอุตสาหกรรมที่มีมาตรฐาน อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ข้อมูลงานวิจัยและข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ ทันสมัย ทันเหตุการณ์ ตลอดจนใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมทางวิชาการ เป็นแหล่งเรียนรู้และค้นคว้าข้อมูลของหน่วยงานภายในธนาคารและหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และเพื่อสะท้อนภาพลักษณ์การเป็นองค์กรเพื่อการเรียนรู้และพัฒนาของธนาคารออมสิน โดยในระยะยาวศูนย์วิจัยฯ แห่งนี้น่าจะช่วยให้ธนาคารออมสินดำเนินกิจกรรมที่เกิดผลต่อระบบเศรษฐกิจได้แม่นยำมากขึ้น


สำหรับในส่วนธุรกิจปกติของธนาคาร ดร.ชาติชาย ได้ดำเนินการในหลายเรื่องเพื่อยกระดับการให้บริการลูกค้าประชาชน โดยมีการร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ ในการเพิ่มช่องทางบริการและผลิตภัณฑ์การเงิน เช่น การแต่งตั้ง Banking Agent ทั้งบริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส ในร้านเซเว่นอีเฟลเว่น (7-11) ในการรับฝากเงิน-ถอนเงินสด ด้วย QR Code/Barcode บนบริการ MyMo ผ่านเมนู "My Agent" ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่


การร่วมกับ 3 ยักษ์ใหญ่ตู้เติมเงิน 'ตู้บุญเติม-ตู้เติมสบายพลัส-ตู้เติมดี' เพิ่มช่องทางฝากเงิน 211,000 จุดทั่วประเทศ พร้อมเปิดตัวโครงการ ‘เด็กดีออมฟรี ที่ตู้เติมเงินทั่วไทย’ ให้เด็กอายุ 7-20 ปี ฝากเงินฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียม สามารถออมเงินได้ตั้งแต่ 1 บาทขึ้นไป


นอกจากนี้ ยังมีการจับมือกับ ธนาคารไอซีบีซี(ไทย) ยักษ์ใหญ่เบอร์หนึ่งจากจีนที่มีลูกค้าบุคคลกว่า 500 ล้านราย เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง เป็นเครือข่ายแบงก์ใหญ่ที่สุดในโลก รองรับฐานลูกค้าไทย-จีน ทั้งนักธุรกิจและนักท่องเที่ยว คนจีนทำธุรกรรมในไทยด้วยเครือข่ายของธนาคารออมสิน และคนไทยทำผ่านเครือข่ายไอซีบีซีทั่วโลก พร้อมช่วยเสริมเครือข่ายธุรกิจฐานรากและโครงการขั้นพื้นฐานของภาครัฐ ซึ่งในเบื้องต้นตั้งเป้าออกบัตรเครดิต Co-Brand ร่วมกัน 1 แสนใบในปีแรก

ตลอดจน การร่วมมือกับ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ใช้เครื่องเอทีเอ็มร่วมกัน โดยทดลองนำร่อง 2 จังหวัดอีสานกับ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2562-30 เมษายน 2563 ก่อนขยายไปทั่วประเทศ ถือเป็นการประเดิมนโยบายเครื่องเอทีเอ็มสีขาว (White Label ATM) ของธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ที่ทุกธนาคารจะหันมาใช้เครื่องเอทีเอ็มร่วมกัน เพื่อประหยัดทรัพยากร ลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย ซึ่งการร่วมมือของธนาคารออมสินและกสิกรไทย ทำให้ทั้งสองธนาคารสามารถเพิ่มจุดบริการลูกค้าผ่านเครื่องเอทีเอ็มเป็นกว่า 22,000-23,000 จุด


รวมทั้งการเข้าถือหุ้น บล.เอเอสแอล (ASL) ในสัดส่วน 25% เพื่อขยายธุรกิจและเพิ่มช่องทางการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่าน Platform ของธนาคาร ตามกลยุทธ์ Digital Banking เพื่อให้ลูกค้าทั้งลูกค้ารายย่อย ลูกค้ารายใหญ่ และลูกค้าสถาบัน สามารถเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ และทำธุรกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหลักทรัพย์ได้


ส่วนทางด้านธุรกิจบัตรเครดิตและเดบิต ในกลยุทธ์ Sport Strategy ได้มีการร่วมกับ VISA ประเทศไทย ซึ่ง VISA เป็นผู้สนับสนุนหลักของโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 อย่างเป็นทางการ โดยออมสิน ทุ่มงบประมาณกว่า 14 ล้านบาท จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด 2 กิจกรรม คือ "Lucky Draw Olympic Games Tokyo 2020" และ "Top Spender Olympic Games Tokyo 2020" เพื่อต่อยอดความสำเร็จ และดึงดูดลูกค้าใหม่ ซึ่งผู้ใช้บัตรวีซ่าของธนาคารออมสิน จะได้สิทธิ์ลุ้นไปดูโอลิมปิกถึงขอบสนาม


นอกจากนี้ ได้ร่วมกับ บมจ.ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น (TQM) ธุรกิจประกันภัย ออกผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต Co-Brand ในชื่อ บัตร TQM Infinity Credit Card ที่นำเสนอสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้แก่ลูกค้าของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อนำเสนอบริการและสิทธิประโยชน์ดีๆ ให้กับลูกค้าและผู้สนใจ เพราะศักยภาพจากทั้ง 2 ฝ่ายจะช่วยให้เกิดความมั่นใจและความน่าสนใจที่จะใช้บริการบัตรนี้ รวมถึงบริการอื่นๆ เช่น บัตรเครดิตของธนาคารออมสิน และบริการประกันภัยของบริษัท ทีคิวเอ็ม


ส่วนการตอบแทนสังคมและสิ่งแวดล้อม นอกจากกลยุทธ์ Social Banking ที่เป็นการตอบแทนสังคมและสิ่งแวดล้อมไปในตัวอยู่แล้ว ในช่วงปลายสิงหาต้นกันยาของปี 2562 ซึ่งเกิดเหตุอุทกภัยในหลายพื้นที่ของประเทศจากฤทธิ์ของพายุโซนร้อน "โพดุล" ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ได้ออกมาตรการช่วยเหลือด้านเงินกู้เป็นกรณีเร่งด่วน พักหนี้-ยืดหนี้ให้กับทั้งลูกค้าเอสเอ็มอี ลูกค้าบุคคล และลูกค้าสินเชื่อบ้านอย่างเต็มพิกัดที่จะช่วยได้ เพราะทราบถึงความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยเป็นอย่างดี


สำหรับทางด้านความโปร่งใส ภายใต้การดูแลบริหารของ ดร.ชาติชาย ทำให้ธนาคารออมสินได้รับรางวัลการประเมิน ITA Integrity & Transparency Assessment หรือ คุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ปี 2562 ในระดับ AA ด้วยคะแนน 96.31 เป็นอันดับที่ 4 ของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ จากทั้งหมด 54 หน่วยงาน และเป็นอันดับที่ 12 จาก 8,299 หน่วยงานทั้งหมดในประเทศไทย และได้รับผลคะแนนในระดับ AA ถึง 3 ปีติดต่อกัน ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) จัดขึ้น เนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) International Anti-Corupption Day 2019 ภายใต้แนวคิด "Zero Tolerance คนไทยไม่ทนต่อการทุจริต" รางวัลที่ได้รับ คงเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่า ธนาคารออมสินภายใต้การบริหารของ ดร.ชาติชาย มีความโปร่งใส ไร้ทุจริต เพียงใด


กับระยะเวลา 5 ปีของ ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ในธนาคารออมสิน (1 มกราคม 2558-31 ธันวาคม 2562 โดยจะเกษียณอายุช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2563) ที่ได้ปลุกปั้นพัฒนาธนาคารของรัฐอันยิ่งใหญ่แห่งนี้ก้าวเข้าสู่บริบทใหม่ บริบทของการเป็นสถาบันการเงินที่จะต้องมีบริการครบถ้วนทุกมิติ มีการก้าวหน้าหาความสำเร็จอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อการเป็นธนาคารยั่งยืน ซึ่งได้เปลี่ยนแปลงอัตลักษณ์ของธนาคารที่เคยเชยๆ ล้าหลัง ให้กลายเป็นธนาคารที่มีความทันสมัยในระดับสากล รวมทั้งดำเนินการตามพันธกิจหลักได้โดดเด่นกว่าทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมา ด้วยการทำงานที่ฉลาดและเอาจริงให้จังอย่างที่สุด ซึ่งทั้งหมดมาจากแนวคิดอันลึกซึ้งของ ดร.ชาติชาย ที่ต้องการให้ออมสินดูแลลูกค้ามากกว่าใคร เพื่อให้ออมสินเป็น "...มากกว่าธนาคาร ธนาคารเพื่อสังคม..."


ผลงานอันโดดเด่นของ ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ตลอดปี 2562 จึงเหมาะสมอย่างที่สุดแล้ว สำหรับรางวัลเกียรติยศ Banker of the Year 2019 หรือ นักการธนาคารแห่งปี 2562


ทั้งนี้ สามารถติดตามผลงานอย่างละเอียดที่ส่งผลให้ ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ได้รับรางวัล Banker of the Year 2019 ได้ในนิตยสารดอกเบี้ย ฉบับประจำเดือนธันวาคม 2562 ที่จะออกวางตลาดในเร็วๆ นี้

339 views

Comments


bottom of page