อายิโนะโมะโต๊ะลุยต่อครึ่งปีหลังชู 3 กลยุทธ์พิชิตกลุ่มคนรุ่นใหม่
- Dokbia Online

- Aug 4
- 2 min read

"อายิโนะโมะโต๊ะ" เปิดแผนธุรกิจหนุนคนไทย “กินดี มีสุข” ส่ง 3 กลยุทธ์พิชิตใจคนรุ่นใหม่ ทั้งการขยายตลาด หนุนโภชนาการกีฬา และ FarmAI ลดคาร์บอน
นายอิชิโระ ซะกะกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากความท้าทายของธุรกิจอาหารในปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น ภาวะเงินเฟ้อ พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภค และความใส่ใจเรื่อง ESG เราได้ปรับตัวรับทุกความท้าทายและพัฒนาไปอีกขั้นเพื่อพิชิตใจคนยุคใหม่ ด้วยการส่งเสริมโภชนาการและสุขภาพที่ดีผ่าน “AminoScience” อันเป็นความเชี่ยวชาญหลักของเรา เพื่อสร้างมิติใหม่ให้กับวงการธุรกิจอาหาร โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา อายิโนะโมะโต๊ะ สร้างผลประกอบการด้วยมูลค่ากว่า 32,663 ล้านบาท ขึ้นแท่นเบอร์ 6 ของกลุ่มธุรกิจผู้ผลิตอาหารในประเทศไทย
สำหรับทิศทางการดำเนินงานในปี 2568 นี้ แม้เศรษฐกิจยังไม่ดีนัก บริษัทก็ไม่มีแผนชะลอการลงทุนใดๆ ขณะที่เรื่องของภาษีสหรัฐอเมริกา มองว่าไม่มีผลกระทบกับธุรกิจของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทมีแผนขับเคลื่อนธุรกิจผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก อันประกอบด้วย 1. การขยายตลาดและสร้างการเติบโต โดยอายิโนะโมะโต๊ะได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ปัจจุบันและนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ “กินดี มีสุข” มุ่งเสริมแกร่งกลุ่มเครื่องปรุงรสผ่านการปรับกลยุทธ์การสื่อสารให้เป็นมิตรเข้าถึงง่าย โดยใช้ผงชูรสอายิโนะโมะโต๊ะสร้างประสบการณ์ความสนุกและความอร่อยในการทำอาหาร พร้อมการสร้างสุขภาพที่ดีให้แก่นักชิม ปรับการสื่อสารกาแฟเบอร์ดี้ให้ทันสมัยเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ พร้อมเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์หมวดอาหารแช่แข็งสไตล์ญี่ปุ่นที่กินง่ายและดีต่อสุขภาพ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทาน แบบ Ready-to-eat เจาะกลุ่มผู้บริโภคในปัจจุบันที่ชีวิตรีบเร่งแต่ยังใส่ใจสุขภาพ
นอกจากนี้ ยังเตรียมพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกรดอะมิโน ที่ใช้นวัตกรรมจาก “AminoScience” เพื่อตอบโจทย์การดำเนินชีวิตของคนในทุกไลฟ์สไตล์ อาทิ กลุ่มคนที่รักการเล่นกีฬา หรือผู้ที่ใส่ใจด้านสุขภาพและความงาม ด้านเซอร์วิส “แอปพลิเคชัน i-LiveWell-แพลตฟอร์มกินดีมีสุขฉบับมนุษย์เงินเดือน” ซึ่งบริษัทวางแผนผนึกพันธมิตรธนาคาร ประกันสุขภาพ โค้ชสุขภาพ และ telemedicine เป็นต้น
2. หนุนโภชนาการกีฬาให้ทัพนักกีฬาและคนไทย มุ่งสานต่อโครงการ Thailand Victory Project เป็นปีที่ 7 ผ่านการสนับสนุนกีฬาซีเกมส์ 2025 โดยต่อยอดความเชี่ยวชาญในการดูแลโภชนาการกีฬาและจุดแข็งด้าน “AminoScience” จากญี่ปุ่นสู่ไทย มาประยุกต์ใช้ในการสนับสนุนมื้ออาหารแห่งชัยชนะ ซึ่งเป็นแผนโภชนาการกีฬาที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมศักยภาพให้กับนักกีฬาทีมชาติไทย ควบคู่กับผลิตภัณฑ์เจลพลังงานอะมิโนไวทัลที่อุดมด้วยกรดอะมิโน นอกจากนี้ ยังเตรียมเปิดตัว Ajinomoto Victory Canteen ซึ่งเป็นการปรับลุคใหม่ให้กับห้องอาหารของนักกีฬา นำเสนอโภชนาการที่ดี และพื้นที่กิจกรรมสำหรับพัฒนาศักยภาพและปลดล็อกพลังแห่งชัยชนะของทัพนักกีฬาไทย
3. ใช้เทคโนโลยี FarmAI ช่วยลดคาร์บอนสร้างความยั่งยืน ตั้งเป้าลดใช้คาร์บอน พร้อมเพิ่มปริมาณการตรวจสอบกลับจากโครงการ “Thai Farmer Better Life Partner” ขึ้นเป็น 45,000 ตัน หรือประมาณ 30% โดยมีแอปพลิเคชัน FarmAI เป็นเครื่องมือใหม่ที่จะเข้ามาช่วยเสริมประสิทธิภาพในการตรวจสอบกลับการดำเนินงานในระบบ ecosystem พร้อมเดินหน้าโมเดล Ajinomoto FD Green one-stop service ด้วยการสร้างเครือข่ายเพื่อการเกษตรกับพาร์ตเนอร์อย่างครบวงจร ผ่านการใช้เทคโนโลยีในการยกระดับการเกษตร เพิ่มผลผลิตและให้ความรู้แก่เกษตรกรมันสำปะหลังและกาแฟเพื่อผลผลิตที่มีคุณภาพ ควบคู่กับการลดคาร์บอนตามเป้าหมายใน Scope 3
“จากกลยุทธ์ดังกล่าว บริษัทตั้งเป้าเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเรามั่นใจว่าอายิโนะโมะโต๊ะจะบรรลุเป้าหมายในการสนับสนุนความกินดี มีสุข แก่สังคมไทยผ่านโภชนาการที่ดี ด้วยนวัตกรรมอาหารที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ควบคู่ไปกับแนวทางการดำเนินงานที่ดีและลดการปล่อยคาร์บอน ซึ่งจะช่วยดูแลคุณภาพชีวิตที่ดีแก่คนไทยและสิ่งแวดล้อมให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน”อายิโนะโมะโต๊ะลุยต่อครึ่งปีหลัง
ชู 3 กลยุทธ์พิชิตกลุ่มคนรุ่นใหม่
“อายิโนะโมะโต๊ะ” เปิดแผนธุรกิจหนุนคนไทย “กินดี มีสุข” ส่ง 3 กลยุทธ์พิชิตใจคนรุ่นใหม่ ทั้งการขยายตลาด หนุนโภชนาการกีฬา และ FarmAI ลดคาร์บอน
นายอิชิโระ ซะกะกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากความท้าทายของธุรกิจอาหารในปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น ภาวะเงินเฟ้อ พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภค และความใส่ใจเรื่อง ESG เราได้ปรับตัวรับทุกความท้าทายและพัฒนาไปอีกขั้นเพื่อพิชิตใจคนยุคใหม่ ด้วยการส่งเสริมโภชนาการและสุขภาพที่ดีผ่าน “AminoScience” อันเป็นความเชี่ยวชาญหลักของเรา เพื่อสร้างมิติใหม่ให้กับวงการธุรกิจอาหาร โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา อายิโนะโมะโต๊ะ สร้างผลประกอบการด้วยมูลค่ากว่า 32,663 ล้านบาท ขึ้นแท่นเบอร์ 6 ของกลุ่มธุรกิจผู้ผลิตอาหารในประเทศไทย
สำหรับทิศทางการดำเนินงานในปี 2568 นี้ แม้เศรษฐกิจยังไม่ดีนัก บริษัทก็ไม่มีแผนชะลอการลงทุนใดๆ ขณะที่เรื่องของภาษีสหรัฐอเมริกา มองว่าไม่มีผลกระทบกับธุรกิจของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทมีแผนขับเคลื่อนธุรกิจผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก อันประกอบด้วย 1. การขยายตลาดและสร้างการเติบโต โดยอายิโนะโมะโต๊ะได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ปัจจุบันและนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ “กินดี มีสุข” มุ่งเสริมแกร่งกลุ่มเครื่องปรุงรสผ่านการปรับกลยุทธ์การสื่อสารให้เป็นมิตรเข้าถึงง่าย โดยใช้ผงชูรสอายิโนะโมะโต๊ะสร้างประสบการณ์ความสนุกและความอร่อยในการทำอาหาร พร้อมการสร้างสุขภาพที่ดีให้แก่นักชิม ปรับการสื่อสารกาแฟเบอร์ดี้ให้ทันสมัยเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ พร้อมเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์หมวดอาหารแช่แข็งสไตล์ญี่ปุ่นที่กินง่ายและดีต่อสุขภาพ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทาน แบบ Ready-to-eat เจาะกลุ่มผู้บริโภคในปัจจุบันที่ชีวิตรีบเร่งแต่ยังใส่ใจสุขภาพ
นอกจากนี้ ยังเตรียมพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกรดอะมิโน ที่ใช้นวัตกรรมจาก “AminoScience” เพื่อตอบโจทย์การดำเนินชีวิตของคนในทุกไลฟ์สไตล์ อาทิ กลุ่มคนที่รักการเล่นกีฬา หรือผู้ที่ใส่ใจด้านสุขภาพและความงาม ด้านเซอร์วิส “แอปพลิเคชัน i-LiveWell-แพลตฟอร์มกินดีมีสุขฉบับมนุษย์เงินเดือน” ซึ่งบริษัทวางแผนผนึกพันธมิตรธนาคาร ประกันสุขภาพ โค้ชสุขภาพ และ telemedicine เป็นต้น
2. หนุนโภชนาการกีฬาให้ทัพนักกีฬาและคนไทย มุ่งสานต่อโครงการ Thailand Victory Project เป็นปีที่ 7 ผ่านการสนับสนุนกีฬาซีเกมส์ 2025 โดยต่อยอดความเชี่ยวชาญในการดูแลโภชนาการกีฬาและจุดแข็งด้าน “AminoScience” จากญี่ปุ่นสู่ไทย มาประยุกต์ใช้ในการสนับสนุนมื้ออาหารแห่งชัยชนะ ซึ่งเป็นแผนโภชนาการกีฬาที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมศักยภาพให้กับนักกีฬาทีมชาติไทย ควบคู่กับผลิตภัณฑ์เจลพลังงานอะมิโนไวทัลที่อุดมด้วยกรดอะมิโน นอกจากนี้ ยังเตรียมเปิดตัว Ajinomoto Victory Canteen ซึ่งเป็นการปรับลุคใหม่ให้กับห้องอาหารของนักกีฬา นำเสนอโภชนาการที่ดี และพื้นที่กิจกรรมสำหรับพัฒนาศักยภาพและปลดล็อกพลังแห่งชัยชนะของทัพนักกีฬาไทย
3. ใช้เทคโนโลยี FarmAI ช่วยลดคาร์บอนสร้างความยั่งยืน ตั้งเป้าลดใช้คาร์บอน พร้อมเพิ่มปริมาณการตรวจสอบกลับจากโครงการ “Thai Farmer Better Life Partner” ขึ้นเป็น 45,000 ตัน หรือประมาณ 30% โดยมีแอปพลิเคชัน FarmAI เป็นเครื่องมือใหม่ที่จะเข้ามาช่วยเสริมประสิทธิภาพในการตรวจสอบกลับการดำเนินงานในระบบ ecosystem พร้อมเดินหน้าโมเดล Ajinomoto FD Green one-stop service ด้วยการสร้างเครือข่ายเพื่อการเกษตรกับพาร์ตเนอร์อย่างครบวงจร ผ่านการใช้เทคโนโลยีในการยกระดับการเกษตร เพิ่มผลผลิตและให้ความรู้แก่เกษตรกรมันสำปะหลังและกาแฟเพื่อผลผลิตที่มีคุณภาพ ควบคู่กับการลดคาร์บอนตามเป้าหมายใน Scope 3
“จากกลยุทธ์ดังกล่าว บริษัทตั้งเป้าเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเรามั่นใจว่าอายิโนะโมะโต๊ะจะบรรลุเป้าหมายในการสนับสนุนความกินดี มีสุข แก่สังคมไทยผ่านโภชนาการที่ดี ด้วยนวัตกรรมอาหารที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ควบคู่ไปกับแนวทางการดำเนินงานที่ดีและลดการปล่อยคาร์บอน ซึ่งจะช่วยดูแลคุณภาพชีวิตที่ดีแก่คนไทยและสิ่งแวดล้อมให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน”






Comments