MFC ขานรับโครงการ “ช้อปดีมีคืน 2566” ตามประกาศมาตรการภาษีของรัฐบาลที่ใช้ในการลดหย่อนภาษีประจำปี 2566 เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถลดหย่อนภาษีได้เมื่อซื้อกองทุนรวมของ MFC ลดสูงสุด 30,000 บาท
นายนิเวศ พันธุ์ขะวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ สายปฏิบัติการลงทุนบลจ.เอ็มเอฟซี หรือ MFC เปิดเผยรายละเอียดการเข้าร่วมโครงการดังกล่าวว่า การเข้าร่วมโครงการช้อปดีมีคืน 2566 เพื่อลดหย่อนภาษีประจำปีนั้น ค่าธรรมเนียมการซื้อหน่วยลงทุน หรือ Front-end Fee ที่ทางบริษัทเรียกเก็บจากลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการได้สูงสุด 30,000 บาท โดย บลจ.เอ็มเอฟซี จะเข้าร่วมเฉพาะการออกใบกำกับภาษีในรูปแบบกระดาษเท่านั้น และหนังสือรับรองสิทธิในหน่วยลงทุน/ใบยืนยัน/ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี ที่นักลงทุนได้รับสามารถใช้เป็นหลักฐานเพื่อลดหย่อนภาษีประจำปี 2566 ได้ โดยเป็นไปตามเงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนด
กองทุนรวม 4 ตัวเด่นที่ บลจ.เอ็มเอฟซี มองว่าควรค่าแก่การลงทุนในช่วงนี้ได้แก่
1. กองทุน MCHINA ที่ลงทุนในหุ้นจีน A-Shares ซึ่งเป็นกองทุนที่คาดการณ์ว่าจะได้รับประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจีนในระยะยาว อันเนื่องมาจากปัจจัยด้านหุ้นจีนที่คาดว่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นในปี 2566 ตามลำดับ รวมไปถึงมาตรการการผ่อนปรนการควบคุมโควิดและการเปิดประเทศ
2. กองทุน MCHEVO กองทุนที่ลงทุนในหุ้นจีน All Shares ใน China Evolution Theme ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ของจีน
3. กองทุน MHEALTHG เกาะกลุ่มหุ้น Healthcare ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีความผันผวนต่ำ มีความสามารถในการส่งผ่านต้นทุนและเงินเฟ้อไปยังผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังมีข้อได้เปรียบด้านกำไรที่โดดเด่นกว่าตลาดในช่วงจังหวะเศรษฐกิจขาลง
4. กองทุน MINFRA ที่ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน (Sustainable Infrastructure) ซึ่งเป็นทางเลือกการลงทุนอีกแนวทางที่ทนต่อความผันผวนของตลาดได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีรายได้มั่นคง เช่น บริการสาธารณูปโภคด้านพลังงานสะอาด บำบัดน้ำเสีย ซึ่งเป็นสินค้าและบริการขั้นพื้นฐานอีกด้วย
Comments