top of page
379208.jpg

ระวังหมัดเด็ด ประธาน ECB ทิ้งทวนก่อนสั่งลาสิ้นตุลาฯ


Interview: คุณบุญธรรม รจิตภิญโญเลิศ

ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ทรีนีตี้

ตลาดรอดูหมัดเด็ด ปธ. ECB ดรากี ทิ้งทวนอำลาตำแหน่งปลายเดือน ต.ค. หลังประกาศลดดอกเบี้ย เพิ่มวงเงิน QE เมื่อกลางเดือน ก.ย. คาดบรรยากาศตลาดเงิน ตลาดหุ้น ตลาดพันธบัตร เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่วนเฟดมีแนวโน้มลดดอกเบี้ยอีก เพื่อเก็บแรงไว้ทยอยลดดอกเบี้ยต่อไปอีก 5-6 ครั้ง

รู้สึกอย่างไรที่ ECB ท้าทายเฟดว่าคุณกล้าทำแบบฉันไหม

ECB ถือว่าเป็นตามคาด ประมาณ 3 เดือนที่แล้ว เคยสัมภาษณ์สื่อหลายสำนัก อย่างประกาศว่าลดดอกเบี้ยเงินฝากลง 0.1% เป็น -0.5% แล้วก็ทำ QE เดือนละ 20,000 ล้านยูโร จนกว่าจะเริ่มขึ้นดอกเบี้ยใหม่ จุดนี้เกินคาดในแง่ของการเรียกว่าไม่ได้ระบุจำนวนเดือน แต่ให้สังเกตนิดนึงถ้ายังจำได้ประมาณ 5-6 ปีที่แล้วสมัยเบอร์นันเกเป็นอดีตประธานเฟด เคยทำ QE แต่ต้องยอมรับว่าตอนนั้น QE ที่ประสบความสำเร็จของอเมริกา คือ QE1 และ QE2 แล้วมาถึงปี 2013-2014 มาใช้ QE ก็ไม่ประสบความสำเร็จ

เพราะดื้อยา

ด้วยเหตุผล คือ QE มีช่องทางในการกระตุ้นดอกเบี้ยให้ลดลง หรือกระตุ้นผ่านบรรยากาศการเมืองที่ผ่อนคลายเพื่อทำให้ตลาดหุ้นขึ้นมา ช่องทางหลักคือการประกาศแล้วทุกคนเชื่อตามว่าจะมีการผ่อนคลายนโยบายการเงินจริง เป็นการซื้อพันธบัตรในตัวเนื้อ 4-7 ปี มันมีผลน้อยกว่าตัวที่ประกาศแล้วทุกคนตื่นเต้น ซึ่งในช่วงท้ายของการประกาศอย่างช่วงนี้ของดรากีถือเป็นช่วงที่ดื้อยาในระดับนึง ส่วนที่เป็นการปล่อยไปเรื่อยๆจนขึ้นดอกเบี้ยใหม่เป็นสิ่งที่เกินคาด เพราะตลาดคาดว่าในทางกฎหมายของยุโรปมีลิมิตการซื้อพันธบัตร คือการทำ QE ได้ร้อยละ 33 ของจำนวนพันธบัตรทั้งหมด แล้วถ้าเราคำนวณดูการทำ QE อย่างในยุโรปตอนนี้ได้ 9 เดือนก็จะถึงร้อยละ 33

ผมเข้าใจว่าสาเหตุที่ดรากีทำแบบนี้เพื่อว่ามันได้ผลดีกว่าและสถานการณ์มันจูงใจ ผมว่าสาเหตุจริงๆส่วนหนึ่ง คริสติน ลาการ์ด จะเข้ามา 1 พฤศจิกายน ต้องบอกว่าจุดอ่อนของ คริสติน ลาการ์ด คือในแง่ของการประกาศเขาจะเปลี่ยนจำนวนเดือน สมมุติดรากีพูดเมื่อกลางเดือนกันยายนเป็นจริง 6 เดือน แล้วให้ลาการ์ดพูดในช่วงต้นปีพูดเหมือนยืดอายุ QE ซึ่งตลาดจะเชื่อน้อยเพราะ คริสติน ลาการ์ด ไม่ได้เป็นแม่มดการเงิน แต่จะเก่งในแง่กฎหมายและการคลัง ตรงนี้ คริสติน ลาการ์ด มีการบ้านคือต้องไปแก้กฎหมายยุโรปให้เปิดลิมิตการซื้อพันธบัตรให้มากกว่า 33% ซึ่งผมเข้าใจว่า คริสติน ลาการ์ด ทำได้ เป็นงานหมูของเขา ก็เลยมองว่าดรากีช่วยลาการ์ดให้ทำงานง่ายขึ้นและเป็นการเซอร์ไพรส์ตลาดไปในตัว

ส่วนมาตรการที่ 3 เป็น 2 เทียร์ที่เป็นค่าเงินของแบงก์พาณิชย์ต่อ ECB แบ่งเป็น 2 เทียร์ตรงนี้ถือว่าตามคาด จริงๆแล้วหลายคนมองไปที่ 3-4 เทียร์ เพราะสภาวะต้นทุนของแบงก์พาณิชย์ ยิ่งมีการซอยเทียร์ซอยระดับเยอะจะเป็นการลดภาระของแบงก์พาณิชย์ การซอยแค่ 2 เทียร์ ข้อดีคือง่ายต่อการปฏิบัติ แต่ข้อเสียคือช่วยธนาคารพาณิชย์ยุโรปได้เล็กน้อยเท่านั้น

ส่วนมาตรการสุดท้ายคือการปล่อยกู้แบงก์พาณิชย์ดอกเบี้ยต่ำ คือ Targeted longer-term refinancing operations อันนี้ถือว่าเกินคาดเล็กน้อย เพราะลดดอกเบี้ยลง 0.1% เท่ากับตัว refinancing rate ด้วยเงื่อนไขในการค้ำประกันที่ดีขึ้น ภาพรวมจริงๆถือว่าตามคาดแบบไม่มีเซอร์ไพรส์หนักๆ แต่ว่ามีส่วน QE ที่ปลอบใจ แต่ผมขอโน้ตนิดนึงว่าถ้าแค่นี้สำหรับดรากี สำหรับ ECB ยังไม่พอ จริงๆดรากียังมีการประชุมครั้งสุดท้ายในเดือนตุลาคม คือดรากีคงน่าจะเก็บหมัดชุดสุดท้ายไว้ในช่วงวันที่ 31 ตุลาคม ว่าสมมุติสัปดาห์ที่จะประชุม ECB อยู่ช่วงประมาณสัปดาห์ที่ 3 ของตุลาคม ประมาณเป็น 19-20 ตุลาคม ถ้าสมมุติว่า 19 ตุลาคม ของอังกฤษยังตกลงเรื่อง Brexit ไม่ได้ แล้วยังมีโอกาส no deal สูง ผมเชื่อว่าในวันนั้นที่เป็นการประชุมครั้งสุดท้าย มาริโอ ดรากี น่าจะปล่อยหมัดเด็ด ทุกคนคาดไว้ตั้งแต่ Q1 ประมาณเมษายน-พฤษภาคม คือเขาคิดประมาณนี้ทั้งหมด ในวันประชุมครั้งสุดท้ายภายใต้การนำของดรากีก็พอจะรู้แล้วว่า Brexit จะ no deal หรือไม่ ถ้าสมมุติว่าวุ่นวายผมเชื่อว่าหมัดสุดท้ายของดรากีน่าจะเป็นอะไรที่เราคาดไม่ถึง ผมเชื่อว่าเขายังมีอะไรอีกเพราะสิ่งหนึ่งที่ยังไม่ได้ทำคือการซื้อตราสารทุน ซึ่งตรงนี้ยังติดกฎหมายบางประเทศอยู่ แต่อย่างที่ทราบกันคือในแง่ของกฎหมาย ECB ดรากีมีทีมกฎหมายค่อนข้างแข็งแรงและเชื่อว่าหมัดสุดท้ายเอาไว้ใช้เพื่อลงหลังเสืออย่างสง่างาม เชื่อว่าถ้าโดนปลด ดรากีน่าจะมีประกาศมากกว่านี้ เพราะสิ่งที่เขาประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีกลางเดือนกันยายนเป็นสิ่งที่คาดกันเมื่อช่วงกลางปีแล้ว

จะเป็นผลดีหรือไม่ดีกับตลาดหุ้น กระแสเงินทุน

การผ่อนคลายนโยบายการเงินที่เกิดขึ้นวันพฤหัสบดีกลางเดือนกันยายนมีผลดีแน่นอน แต่ต้องยอมรับว่าในตลาดหุ้นเมืองไทยกับเฟดเรียกว่าแรง ถ้าเกิดลดดอกเบี้ย 0.5% ถือว่ามีผลดีต่อตลาดหุ้นเมืองไทยมากมาย แต่กับยุโรปถ้าความสัมพันธ์กับตลาดหุ้นไทยและ ECB น้อยกว่าเฟดระดับนึง การที่มันตามคาดหรือเกินกว่าคาดการณ์นิดหน่อยมีผลดีเล็กน้อยกับตลาดหุ้นเมืองไทย แต่ถ้าสมมุติหมัดชุดใหญ่เกิดขึ้นมาจริงมันคงดีต่อตลาดหุ้นไทยในระดับมากพอสมควรสำหรับตลาดการเงินหรือตลาดพันธบัตร การผ่อนคลายนโยบายการเงินของตัวธนาคารกลางยุโรป อย่างน้อยทำให้เปิดโมเมนตัม ถ้าสังเกตในวันนั้น yield curve ในอเมริกาหรือ yield curve ในยุโรปใต้ลงมา ทำให้บรรยากาศของตลาดเงินผ่อนคลาย แต่มันลดลงนิดหน่อยค่าเงินยุโรลงนิดหน่อย เพราะเป็นแพ็กเกจที่คาดมาระดับหนึ่งแล้ว แต่อย่างน้อยดรากีก็แสดงให้เห็น ก่อนประกาศมีบางคนกังวลว่า QE จะมีไหม เพราะติดกฎหมายยุโรปที่ว่าให้ QE ได้ 33% และส่วนหนึ่งในธรรมเนียมปฏิบัติการลงจากตำแหน่งแล้วให้ลาการ์ดขึ้นมา ดรากีอย่าทำเยอะ ในมุมหนึ่งยังมองว่าส่วน Brexit ซึ่งน่าจะเข้มข้นในเดือนตุลาคม เชื่อว่าอย่างน้อยในส่วนที่พูดถึงนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในอนาคตของดรากีครั้งสุดท้ายในกลางเดือนหน้าคงจะชัดเจน สิ่งนี้จะทำให้ตลาดหุ้นเมืองไทยและ yield ตลาดพันธบัตรทั่วโลก น่าจะลดลงเยอะกว่าในช่วงวันพฤหัสบดีกลางเดือนกันยายนที่ลดลง ลดประมาณ 0.05 ในระดับที่พอสมควรไม่ได้เยอะมาก ผมคิดว่าในตัว ECB เดือนหน้าน่าจะเป็นปัจจัยบวกเพราะมองว่า Brexit ค่อนข้างวุ่นวายในเดือนหน้า

เฟดมีท่าทีอย่างไร

เฟดยังไงๆ ก็จะลดดอกเบี้ยลง 0.25 มีแน่นอน บางคนมองไปถึง 0.5 จริงๆโอกาสถ้ามองภาพรวมเหมือนน่าจะมีโอกาสอยู่ครึ่งหนึ่ง แต่ถ้าสังเกตดูดีๆตัวผู้ว่าเฟดสาขาต่างๆประมาณ 6 สาขา ที่มีสิทธิ์ในการโหวตต่างออกมาทางไม่อยากไปถึง 0.5 เกือบทั้งหมด ผมมองว่าในส่วนหนึ่ง คือ แม้ว่าพาวเวลค่อนข้างจะเชื่อผู้ว่าฯ นิวยอร์ก แต่ด้วยสมาชิกน่าจะโน้มน้าวได้แค่ 0.25 อีกประเด็นหลัก คือ ดูเหมือนทรัมป์จะค่อนข้างเริ่มอ่อนข้อกับจีน เลยมองว่าทรัมป์น่าจะมองออกว่าเฟดจะลดแค่ 0.25 เชื่อว่าพาวเวลคงอยากจะลด 0.25 เพื่อที่จะมีดอกเบี้ยให้ลดอีกอย่างน้อย 6 ครั้ง ถ้าลด 0.5 มันจะลงเหลือประมาณ 1.5 จะเหลือจำนวนครั้งในการลดดอกเบี้ยค่อนข้างน้อย ส่วนที่สำคัญคือตัวเลขของสหรัฐ การจ้างงาน ตัวเลขค่าจ้าง ไม่ได้ย่ำแย่ถึงขนาดต้องไปช่วยตลาดในช่วงนี้ ผมเชื่อว่ายังมีช่วงเวลาอีกถ้านับตัวทรัมป์เป็นตัวตั้ง 1 ปี 4 เดือน ที่ทรัมป์กับพาวเวลต้องร่วมสู้รบปรบมือ เชื่อว่าเก็บอาวุธไว้และด้วยยังไม่มีสถานการณ์ รวมถึงสมาชิกเกินครึ่งไม่พร้อมที่จะให้พาวเวลลดดอกเบี้ยมามากกว่า 0.25

23 views
bottom of page