กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่ามีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 30.35-30.70 ต่อดอลลาร์เทียบกับระดับปิดอ่อนค่าที่ 30.64 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.50% ตามคาด ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย 4.2 พันล้านบาท และ 4.9 พันล้านบาท ตามลำดับ
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า นักลงทุนจะให้ความสนใจข้อมูลภาคบริการและตลาดแรงงานของสหรัฐฯ เป็นสำคัญ ส่วนความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯ กลับมาเป็นประเด็นรุมเร้าบรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงหลังสภาผู้แทนราษฎรจะเริ่มต้นการไต่สวนอย่างเป็นทางการเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ นอกจากนี้ ตลาดจะจับตาความคืบหน้าเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนและค่าเงินหยวนในไตรมาสสุดท้ายของปีหลังมีกระแสข่าวล่าสุดว่าสหรัฐฯ กำลังพิจารณาเพิกถอนหุ้นบริษัทจีนออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งขัดแย้งกับท่าทีประนีประนอมจากทั้งสองฝ่ายช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย.จะชะลอลง ขณะที่กนง.ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 2562 เหลือ 2.8% จากเดิมเคยคาดไว้ที่ 3.3% และปรับลดประมาณการส่งออกเป็นหดตัว 1.0% จากที่เคยคาดไว้ 0% สิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้เราคือมติที่เป็นเอกฉันท์ในรอบนี้หลังจากทางการปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% อย่างเหนือความคาดหมายในเดือนส.ค. อย่างไรก็ดี เราคาดว่ามีโอกาสที่กนง.จะปรับลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.25% ในการประชุมเดือนพ.ย.ซึ่งเรามองว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายของวัฎจักรผ่อนคลายนโยบายการเงิน ทั้งนี้ กนง.ระบุว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตต่ำกว่าศักยภาพ โดยประเมินแนวโน้มการส่งออก การท่องเที่ยว การบริโภคภาคเอกชน การลงทุนภาคเอกชนและการใช้จ่ายภาครัฐเป็นไปในเชิงลบทั้งหมด นอกจากนี้ ทางการยังกังวลต่อเงินบาทที่แข็งค่าและกล่าวว่าจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดรวมทั้งพิจารณามาตรการที่เหมาะสมหากจำเป็น