ไทยประกันชีวิตมุ่งยกระดับตัวแทน สู่การเป็นทุกคำตอบของการประกันชีวิต หรือ Life Solutions วางเป้าต้องเป็นเพื่อนคู่คิดเคียงข้างลูกค้า กำหนดคุณวุฒิทั้ง Life Partner และ Financial Partner ชี้ต้องเข้าใจลูกค้าแบบ Human Insight เผยครึ่งปีหลังธุรกิจยังชะลอตัวต่อเนื่อง เน้นรีครูตตัวแทนใหม่ผ่านแคมเปญ Online
นายอังกูร ศรีกัลยาณบุตร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Marketing Officer บริษัท ไทยประกันชีวิต เปิดเผยว่าตามที่บริษัทได้ประกาศปรับโมเดลการทำธุรกิจ (Reinvent Business Model) เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นทุกคำตอบของการประกันชีวิต (Life Solutions) โดยให้ความสำคัญกับการปรับเปลี่ยนทัศนคติ หรือ Mindset ของคนในองค์กร โดยเฉพาะบุคลากรฝ่ายขายที่ต้องเป็นเพื่อนคู่คิด เคียงข้างผู้เอาประกันในทุกช่วงของชีวิต (Life Partner)
บริษัทจึงกำหนดคุณวุฒิบุคลากรฝ่ายขายออกเป็น 4 ระดับตามทักษะ คุณสมบัติและการผลิตผลงานได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด ประกอบด้วย คุณวุฒิ Life Partner (LP) มีใบอนุญาตตัวแทนประกันชีวิตและผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่กำหนด, คุณวุฒิ Life Partner Prime (LPP) เป็นผู้บริหารระดับหน่วยขึ้นไปที่ผ่านการอบรมหลักสูตร Life Partner,คุณวุฒิ Financial Partner (FP) ผู้บริหารระดับหน่วยขึ้นไป ผ่านการอบรมหลักสูตร LP และขึ้นทะเบียนเป็นผู้ขายแบบประกัน Universal Life และคุณวุฒิ Financial Partner Prime ผู้บริหารระดับหน่วยขึ้นไปที่มีใบอนุญาต IC License เพื่อขายสินค้า Unit Linked และผ่านการอบรมหลักสูตรที่บริษัทกำหนด
บุคลากรฝ่ายขายแต่ละกลุ่มจะได้รับการพัฒนาทักษะด้านต่างๆตามหลักสูตรที่ได้มาตรฐานของบริษัททั้งทักษะด้านการขาย เช่น หลักสูตรที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor : FA) หลักสูตร Smart Agent หลักสูตร Life Partner หลักสูตรการนำเสนอขายแบบประกัน Unit Linked หรือ Universal Life หลักสูตรด้านการเงิน การลงทุน ฯลฯ ขณะเดียวกันยังต้องผ่านการอบรมหลักสูตรอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เช่น การตลาด การบริการหลังขาย เพื่อให้ตัวแทนของบริษัทเป็นผู้รอบรู้และรู้รอบในการเป็นทุกคำตอบของชีวิตลูกค้า
“บุคลากรฝ่ายขายของบริษัทต้องมีทักษะ 3 ด้าน ประกอบด้วย Knowledge Skill ทักษะการเป็นผู้รู้รอบและรอบรู้ มีความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ การออมเงิน การลงทุน ภาษี รวมถึงความรู้ด้านสุขภาพ Technology Skill ทักษะความรู้ด้านเทคโนโลยี การนำเทคโนโลยีมาช่วยนำเสนอขายให้สะดวกและรวดเร็วขึ้น และ Spirit Skill ทักษะความรู้ด้านการบริการด้วยใจ มีจิตวิญญาณของการดูแล โดยเฉพาะ Spirit Skill จะทำให้ฝ่ายขายของบริษัทแตกต่างจากฝ่ายขายของบริษัทอื่นๆสามารถสร้างความแตกต่างจากการบริการของเทคโนโลยีสมัยใหม่และแข่งขันกับช่องทางขายอื่น ในยุค Digital Disruptive ได้”
ดังนั้น บริษัทจึงมุ่งเน้นสร้างทักษะทั้ง 3 ด้าน เพื่อปรับ Mindset บุคลากรฝ่ายขาย ผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆ ของบริษัท เช่น โครงการ Yes Club ซึ่งเป็นโครงการสำหรับฝ่ายขายรุ่นใหม่, โครงการ Thailife Family Spirit หรือโครงการสัมมนากลยุทธ์ประจำปี เพื่อให้ฝ่ายขายเข้าใจและเข้าถึงการดูแลผู้เอาประกันในลักษณะ Human Insight ไม่ใช่เพียงความต้องการในลักษณะ Customer Insight โดยการสร้างคุณค่าของมนุษย์ (Value of People) ให้เกิดกับผู้เอาประกันอย่างแท้จริง
นายสวัสดิ์ นฤวรวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Life Operation Officer กล่าวถึงผลประกอบการช่วง 5 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-พ.ค. 2562) บริษัทมีเบี้ยประกันรับปีแรก 5,981 ล้านบาท เบี้ยประกันรับปีต่อไป 24,624 ล้านบาท เบี้ยประกันชำระครั้งเดียว 4,001 ล้านบาท และเบี้ยประกันรับรวม 34,606 ล้านบาท เติบโต 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561
สำหรับแนวโน้มธุรกิจประกันชีวิตในครึ่งปีหลัง ประเมินว่ายังคงได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว ทั้งเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจภายในประเทศและผลกระทบจากเสถียรภาพทางการเมือง ส่งผลให้กำลังซื้อภายในประเทศชะลอตัว โดยเฉพาะผู้มีรายได้ประจำหรือกลุ่มเกษตรกร อย่างไรก็ตามคาดว่าธุรกิจประกันชีวิตในปี 2562 มีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันรับรวมประมาณ 5%
“ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทจะมุ่งขยายฐานลูกค้าเพิ่มเติม โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจมากนัก คือ กลุ่มระดับบน หรือ High Net Worth และการพัฒนาแบบประกันใหม่ ตามแนวคิดทุกคำตอบของการประกันชีวิต หรือ Life Solutions เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างครบรอบด้าน เช่น แบบประกันคุ้มครองโรคร้ายแรง แบบประกันเพื่อการวางแผนมรดก ฯลฯ รวมถึงการรีครูตตัวแทนใหม่ ทั้งในรูปแบบการรีครูตผ่านกิจกรรมต่างๆ และ Online Recruitment โดยสร้างสรรค์ภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ เผยแพร่ผ่านสื่อ Online ในช่วงต้นเดือน ส.ค.และทำสปอตวิทยุ และ Banner Ad
สำหรับเป้าหมายการดำเนินงานในปี 2562 บริษัทตั้งเป้าเบี้ยประกันรับปีแรก 19,000 ล้านบาท เติบโต 15% แบ่งเป็นช่องทางตัวแทน 13,000 ล้านบาท และช่องทางที่ไม่ใช่ตัวแทน(Non-Agent) 6,000 ล้านบาท” นายสวัสดิ์ กล่าว