· กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยรายงานนโยบายเศรษฐกิจและอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศคู่ค้าหลักของสหรัฐฯ รอบครึ่งปี โดยที่ยังคงไม่มีการระบุอย่างเฉพาะเจาะจงว่า ประเทศใดมีพฤติกรรมเข้าข่ายบิดเบือนค่าเงิน (Currency Manipulator) อย่างไรก็ดี สหรัฐฯ มีการปรับเกณฑ์การพิจารณาให้มีความเข้มงวดขึ้น ซึ่งทำให้รายชื่อประเทศที่สหรัฐฯ ติดตามอย่างใกล้ชิด (Monitoring List)เพิ่มจำนวนขึ้น มาเป็น 9 ประเทศ ซึ่งสำหรับประเทศไทยนั้น ไทยไม่ติดอยู่ใน Monitoring List ในรายงานฯ รอบนี้
· ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า สถานการณ์นี้ไม่กระทบต่อการค้าของไทยโดยตรง แต่การที่มีหลายประเทศในอาเซียนติดอยู่ในบัญชีที่ต้องจับตา เป็นสัญญาณว่าไทยก็มีความเสี่ยงที่จะถูกจับตาอย่างใกล้ชิดมากขึ้นในอนาคตจากการที่ไทยเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ใกล้เคียงกับเกณฑ์ที่ 2.0 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ
· ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ทางการสหรัฐฯ อาจส่งผ่านแรงกดดันทางการค้าผ่านการพิจารณาสิทธิ GSP เท่านั้น แต่จะไม่ยกระดับไปสู่มาตรการกีดกันทางการค้ารูปแบบอื่น เพราะการผลิตและส่งออกของไทยไม่น่าจะขัดกับหลักเกณฑ์ใดๆ ของสหรัฐฯ ซึ่งทางการไทยสามารถชี้แจงได้ นอกจากนี้ การส่งออกสินค้าบางรายการของไทยไปสหรัฐฯ ที่มีสัญญาณเร่งตัวขึ้น ก็เป็นผลจากการปรับห่วงโซ่การผลิตของนักลงทุนในระดับโลกเป็นหลัก อย่างไรก็ดี ทางการไทยจำเป็นต้องเตรียมแผนหาตลาดใหม่ รวมทั้งผลักดัน FTA ฉบับต่างๆ ที่อยู่ในแผนให้เปิดเสรีได้สำเร็จ เพื่อช่วยขับเคลื่อนการส่งออกและการลงทุนไทยในระยะยาว