บมจ.ทิพยประกันภัย เผยผลงานปี 2561 เบี้ยประกันภัยรับรวมกว่า 20,522 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,531 ล้านบาท และกำไรสุทธิต่อหุ้น 2.55 บาท ด้านเอ็มดี "ดร.สมพร สืบถวิลกุล" แจ้งเบี้ยประกันภัยขยายตัวต่อเนื่องจากการปรับตัวรับลูกค้ายุคดิจิทัล พร้อมเดินหน้าสานฝันปั้นสตาร์ทอัพ และจับมือพันธมิตรเพิ่มช่องทางให้เข้าถึงลูกค้าเพิ่มขึ้น
ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TIP เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานประจำปี สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561 ว่า บริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งสิ้น 20,521.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 20,008.37 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 1,531.16 ล้านบาท และกำไรสุทธิต่อหุ้น 2.55 บาท
สำหรับเบี้ยประกันภัยรับรวม 20,521.83 ล้านบาท ประกอบด้วย เบี้ยประกันอัคคีภัย 1,977.35 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยทางทะเลและขนส่ง 300.27 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยรถยนต์ 2,914.34 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยเบ็ดเตล็ด 15,329.87 ล้านบาท
ส่วนสาเหตุที่ทำให้เบี้ยประกันภัยรับขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น เป็นผลจากที่บริษัทฯ ได้ปรับนโยบายและกลยุทธ์การทำตลาดให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในระบบประกันภัย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายหลักของบริษัทฯ ที่ต้องการขับเคลื่อนสู่การเป็น Digital Insurance Company อย่างเต็มรูปแบบ ขณะเดียวกันบริษัทฯ ได้ให้การสนับสนุนกับธุรกิจ "สตาร์ทอัพ" ซึ่งถือเป็นช่องทางใหม่ให้ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการในรูปแบบดิจิทัลของบริษัทฯ มากขึ้น
"ปัจจุบันธุรกิจ "สตาร์ทอัพ" เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญในธุรกิจประกันภัยมากขึ้น ทั้งในรูปแบบของการขายกรมธรรม์และการให้บริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย ทิพยประกันภัยได้เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ จึงให้การสนับสนุนและมีส่วนร่วมพัฒนาสตาร์ทอัพให้เข้าถึงธุรกิจประกันวินาศภัยอย่างต่อเนื่อง" ดร.สมพร กล่าว
พร้อมกันนี้ ทิพยประกันภัย ได้พัฒนาระบบ Insurance API Gateway ภายใต้ชื่อ TIP Gateway, powered by Acrosure เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพต่างๆ สามารถเชื่อมต่อกับระบบประกันภัย เพื่อนำเสนอประกันให้กับลูกค้าได้จากระบบทันที ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงประกันภัยได้ง่าย มีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว รวมไปถึง สร้างห้อง “Inspiration Chamber (TIP IC)” ที่ออกแบบมาด้วยคอนเซ็ปต์ Innovative Co-Working Space ภายในห้องเพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์ที่สุดล้ำ เพื่อรองรับการใช้งาน พร้อมติดตั้งเทคโนโลยีต่างๆอีกมากมาย อยู่บนชั้น 22 ของอาคารทิพยประกันภัย พระราม 3 ด้วยวิวที่สวยงามที่สุดสามารถมองเห็นคุ้งน้ำเจ้าพระยา โดยห้อง Inspiration Chamber ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเปิดโอกาสให้ Tech Startup หรือประชาชนที่มีความสนใจได้เข้ามาใช้พื้นที่ในการบ่มเพาะความคิด รวมถึงพัฒนานวัตกรรม ซึ่งสามารถติดต่อขอใช้ห้องได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ดร.สมพร กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ๆ แล้ว เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการก้าวสู่ผู้นำด้าน Digital Insurance ทิพยประกันภัยจึงได้คิดค้นและพัฒนาแอปพลิเคชัน “TIP Insure M” เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการให้บริการและตอบสนองความต้องการของลูกค้ายุคดิจิทัลที่ต้องการความสะดวกสบาย ความรวดเร็ว สามารถตอบสนองได้ทุกที่ทุกเวลาและก่อให้เกิดประโยชน์แก่ลูกค้าสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการซื้อประกันภัยทุกประเภท ต่ออายุ ชำระเงิน เคลมประกัน ดูข้อมูลกรมธรรม์ หรืออื่นๆ อีกมากมาย โดยลูกค้าสามารถดาวน์โหลด และใช้บริการได้ ทั้งระบบ IOS และ Android
จากการที่ "ทิพยประกันภัย ได้คิดค้นและพัฒนาระบบเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องนี้เอง ทำให้บริษัทฯ ได้รับรางวัล Most Innovative Customer Service Initiative จากนิตยสาร International Financial Magazine ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับบริษัทฯ ที่ริเริ่มสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ในการให้บริการลูกค้าในมิติต่างๆ"
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2562 นั้น ดร.สมพร กล่าวว่า ในปีนี้ นอกจาก บริษัทฯ จะยังคงสานต่อนโยบายการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสนองตอบความต้องการของลูกค้าแล้ว ทิพยประกันภัยจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมถึงการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อขยายฐานลูกค้ารายย่อยให้เพิ่มมากขึ้นด้วย