Interview: คุณสมคิด จิรานันตรัตน์ ประธานเคบีทีจี กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป
บริการ Mobile Banking โตแบบก้าวกระโดด ยอดธุรกิจเดือน ส.ค. เฉพาะ KBank สูงถึง 122 ล้านรายการ ในยอดเงิน 8 แสนล้านบาท ชี้แจง...ระบบล่มปลายเดือน ส.ค. เกิดจากเอนจิเนียร์ป้อนคำสั่งผิดพลาด หลังเกิดเหตุฝ่ายไอทีทุกธนาคารประชุมด่วน ออกมาตรการเข้ม 6 ข้อรับมือ และร่วมกันพัฒนาระบบไอทีให้เข้มแข็ง ป้องกันความผิดพลาด เพื่อให้บริการแบบเรียลไทม์อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยร่วมกัน
ถึงตรงนี้ชัวร์ไหมว่าไม่ต้องมานั่งลุ้นกันแล้วเรื่องระบบ Mobile Banking ล่ม
ตอนนี้คนให้ความสำคัญกับการทำธุรกรรมผ่านออนไลน์มากขึ้นกว่าเมื่อก่อน ตั้งแต่เรามี Prompt pay มีการชำระสินค้าผ่าน QR Code นั้น Mobile Banking มีธุรกรรมมากที่สุดเมื่อเทียบกับช่องทางอื่นๆ อย่างข้อมูลของกสิกรไทยผ่าน Mobile Banking เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 55% ผ่านทาง ATM 35% ส่วน Cyber banking 3% ที่สาขา 7%
ถ้าเราสังเกตธุรกรรมที่ผ่าน Mobile Banking จะมีหลายๆ อย่างที่เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน เมื่อก่อนเราไปสาขา 3 โมงก็ปิด หรือ ATM ตอนกลางคืนเราก็ไม่เดินออกจากบ้านไปตู้ ATM แต่ถ้าเป็น Mobile Banking อยู่กับเรา 24 ชั่วโมง Mobile Banking คนจึงคาดหวังว่าจะต้องใช้ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมงในแต่ละวัน รวมทั้งเสาร์-อาทิตย์ด้วย กลายเป็น 24x7 และเมื่อเดือนมีนาคมเราก็เปิดฟรีค่าธรรมเนียม ซึ่งการเปิดฟรีค่าธรรมเนียม ธุรกรรมการเงินของกสิกรไทยโดยรวมเพิ่มขึ้น 27% เพราะไม่เสียค่าธรรมเนียม แต่ 27% เพิ่มที่ Mobile Banking 47% ทำให้สัดส่วน Mobile Banking ของกสิกรไทยเมื่อเดือนสิงหาคมเป็น 64% ซึ่งก่อนหน้านั้น 55% โดยในเดือนสิงหาคมมีธุรกรรมทางการเงินทั้งหมด 122 ล้านรายการใน 1 เดือน เป็นเงินเกือบ 800,000 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่าเรื่องนี้ประชาชนคาดหวังเยอะมากว่าต้องใช้ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง 7 วัน และห้ามตาย เพราะถ้าตายก็จะเดือดร้อน ในช่วงสิ้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาเราก็มีเหตุของกสิกรไทย และธนาคารอื่นก็มี ของกสิกรไทยมีตั้งแต่เช้าวันที่ 31 ตอน 6 โมงครึ่งมี engineer เข้าไป maintain ระบบ และก็เกิดความผิดพลาดทางเทคนิคในการใช้คำสั่ง มีผลกระทบกับตัว network หลักของธนาคาร ทำให้ระบบมันคุยกันไม่ได้ เราซ่อมเสร็จตอน 11 โมง สรุปคือของกสิกรไทยใช้ไม่ได้ตั้งแต่ 6.30- 11 โมง หลังจากนั้นใช้ได้เป็นปกติ แต่ของบางธนาคารอาจจะมีสะดุดบ้างแต่ไม่นานเท่าของกสิกรไทย ส่วนวันที่ 1 ไม่มีระบบของธนาคารไหนมีปัญหา แต่ของกสิกรไทยบังเอิญมีรายการที่โอนบัญชีผิด คือช่องที่ให้ใส่รหัสเลขบัญชี มีลูกค้าส่วนมากที่โอนมาจากธนาคารอื่นมาที่กสิกรไทยใส่เป็นเลขโทรศัพท์แทน จริงๆ ต้องไปใส่ช่องเลขโทรศัพท์ พอเป็นแบบนี้ ทาง ITMX ซึ่งเป็นตัวกลางที่เชื่อมระหว่างธนาคารต่างๆ ในการทำธุรกรรมก็ตัดกสิกรไทยออกจาก ITMX เพราะมีเรื่อง error message เยอะเกินไป ก็อยากให้เราไปสร้างความมั่นใจว่าไม่ได้สร้างปัญหาให้คนอื่น เราก็โอนจาก ITMX ไปผ่านอีกตัวหนึ่งที่เรียกว่าเป็นตัว back up ของ ITMX เป็นอีกบริษัทหนึ่งที่ทำหน้าที่เหมือนกัน จากนั้นระบบของกสิกรไทยก็โอนออกได้ไปทุกธนาคารได้ไม่ได้มีปัญหา แต่ว่าบางธนาคารที่เข้ามาทาง ITMX จะโอนเข้ามาบัญชีกสิกรไทยไม่ได้จนถึง 4 โมงเย็นที่เรายืนยันตรวจสอบระบบเรียบร้อยว่าของเราไม่ได้มีปัญหา ทาง ITMX ก็เปิดให้โอนได้ปกติหลัง 4 โมงเย็น
หลังจากมีปัญหาและประชุมระหว่างธนาคารด้วยกัน จึงมี 6 มาตรการรับมือการเติบโตของธุรกรรม Mobile Banking ขึ้น
ก็มีมาตรการ 6 ข้อ ก็ต้องขอบคุณทุกๆ ธนาคารที่รับผิดชอบด้านเทคโนโลยีที่มาช่วยกันระดมสมองว่าปัญหาที่เกิดในแต่ละธนาคารและปัญหาที่เกิดในตอนนั้นคืออะไร เราก็มาระดมสมองหามาตรการที่จะช่วยให้ระบบโดยรวมมีความแข็งแรงมากขึ้น ระบบโดยรวมหมายความว่าไม่ใช่ของธนาคารใดธนาคารหนึ่ง คือเกี่ยวพันกันหมดเลยทุกธนาคาร
ทุกวันนี้เรากำลังเดินหน้าเข้าสู่สังคม cashless society เราพยายามโปรโมทให้คนมาใช้บริการธุรกรรมทางออนไลน์ฟรีค่าธรรมเนียมซึ่งรายได้ แต่ภาระค่าใช้จ่ายของธนาคารที่จะไปลงทุนในเทคโนโลยีเยอะมากเป็นหลักพันล้าน
ความจริงทุกธนาคารเท่าที่คุยกันยินดีที่จะลงทุน เพราะคิดว่าแนวโน้มและความสะดวกของลูกค้ามาทาง Mobile Banking มากขึ้น ทุกธนาคารก็ลงทุน แต่บางครั้งถ้าเข้ามาเร็วเกินไปบางธนาคารอาจต้องใช้เวลาในการแก้เรื่องคอขวดต่างๆ ก็ต้องใช้เวลานิดหน่อย แต่เชื่อว่าทุกธนาคารยินดีที่จะลงทุน เพราะแนวโน้มมาทางออนไลน์มากขึ้น และประเทศเราก็พัฒนาเร็วมากในช่วงที่ผ่านมา สามารถทำธุกรรมต่างๆ ได้แบบออนไลน์เรียลไทม์ ซึ่งในบางประเทศใหญ่ๆ ไม่ได้ทำแบบนี้ แค่โอนเงินที่อเมริกาโอนไปให้บัญชีอื่นใช้เวลา 2 วัน แต่ของเราโอนแล้วได้ทันที ก็มีความแตกต่างกันพอสมควร ทำให้ระบบโดยรวมของเรามีความซับซ้อน ต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ
อยากให้ช่วยยืนยันกับลูกค้าที่ใช้ Mobile Banking ว่าโอกาสที่จะเกิดปัญหาแบบนี้ยังมีอีกไหม
คือเราคงพูดไม่ได้ว่าจะไม่เกิดอีก เพราะคนที่ทำด้านเทคโนโลยีหรือไอทีรู้ว่าไม่มีอะไรสามารถมารับรองให้เป็น 100% ได้ แต่ผมรับรองได้ว่าทุกคนร่วมมือกันและปรึกษาหารือกันเพื่อพัฒนาระบบออนไลน์ให้ดีขึ้น บางมาตรการต่างๆ ที่ออกมารวมทั้งวิธีการปฎิบัติและคนที่ให้ความสนใจที่มีทั้งกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย ให้ความสนใจมาช่วยดู เชื่อว่าการพัฒนาจะทำให้ระบบของธนาคารบ้านเราดีขึ้น สร้างความมั่นใจได้มากขึ้น ถึงแม้จะบอกว่าไม่มีใครรับประกันว่าเป็น 100% แต่ว่าต้องดีกว่าที่เคยเกิดแน่นอน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เกิดจากโจมตีไซเบอร์
จากกรณีนี้ไม่ใช่แน่นอน เพราะเราตรวจเรื่องนั้นเป็นพิเศษเลยว่ามีหรือไม่ ผมขอยืนยันเลยว่าไม่มีแน่นอนในเคสนี้ มันเป็นปัญหาของเราเอง ต้องยอมรับข้อผิดพลาดและทุกคนก็ช่วยกันแก้ไข