ทองยังคงมีแนวโน้มขาลง ตามปัจจัยกดดันเรื่องของเฟด และค่าเงินดอลลาร์ในเวลาที่เหลือของปี โดยมีแนวรับ 1,200 ดอลลาร์ แนะ Short ปลอดภัยกว่า พร้อมแนะนำนักลงทุนโกอินเตอร์ CME ตลาดชิคาโก้
ตอนนี้หุ้นตก ราคาทองคำก็ตก คุณหมอมองว่าเกิดอะไรขึ้น
ตอนนี้อารมณ์ของนักลงทุนกลายเป็นต้องการถือเงินสดมากขึ้น ขณะที่ราคาทองคำถูกกดดันจากที่ภาวะเงินดอลลาร์แข็งค่า เลยส่งผลเงินบาทอ่อนค่า และทองคำถูกแรงเทขายเข้ามา
ส่วนอนาคตจากนี้ ดูว่ามีโอกาสปรับตัวลดลงได้อีก เพราะข่าวเรื่องเฟดขึ้นดอกเบี้ยนั้นก็ยังมีอยู่สูง ซึ่งตอนนี้ทองคำอยู่ในช่วงขาลงทั้งในเชิงเทคนิคระยะสั้น กลางและยาว
สำหรับคนที่ถือทองคำ ลงทุนผิดทางจะทำยังไง
พยายามปิดสถานะ Long แต่อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่าราคาอาจดีดขึ้นมาบ้าง แต่ว่าโดยภาพรวมแนวต้านบริเวณ 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์น่าจะแข็งแกร่ง น่าจะไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ง่ายๆ ฉะนั้นในเชิงของการลงทุน ยังคงแนะนำให้เก็งกำไรในแนวโน้มทิศทางขาลงในลักษณะของการเปิด short ขายออกมาก่อน
ต่ำสุดรอบนี้ คิดว่าจะลงไปได้เท่าไหร่
แนวรับน่าจะอยู่ที่บริเวณ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หมายความว่าระยะยาวๆ จนถึงสิ้นปีนะครับ เพราะว่าข่าวเรื่องเฟดอาจจะขึ้นดอกเบี้ยได้ 2-3 ครั้งในปีนี้จะมีผลกับราคาทอง
คนที่ซื้อขายทองคำเป็นเงินบาทควรทำอย่างไร
จะเห็นว่าเงินบาทมันปรับตัว อ่อนค่าลงมา แล้วก็เริ่มมาทดสอบบริเวณ 33 บาทต่อดอลลาร์ ฉะนั้นในเชิงการลงทุน ถ้าเป็นรูปของราคาทองคำไทย น่าจะค่อนข้างปรับลดลงไม่มาก คือถ้าลงก็ลงไม่เยอะ
ในโกลด์ ฟิวเจอร์ส นักลงทุนต้องทำตัวอย่างไร
ยังให้เล่นในแนวโน้มขาลง เพียงแต่ว่าโกลด์ ฟิวเจอร์ส จะเป็น sideway down หมายความว่าอาจจะลงไม่เยอะ คืออาจจะหาผลกำไรได้น้อยหน่อย ซึ่งในช่วงตอนนี้ นักลงทุนก็มีทางเลือก 2 อย่างคือ เล่นขาลง หรือหาจังหวะที่จะเข้า
เห็นว่า MTS ไปจัดงานที่เซ็นทรัลเวิลด์
ผลตอบรับดีมาก คนมาประมาณ 400 ท่าน โดยกลุ่ม MTS Gold ก็เป็นรายแรกของประเทศไทยที่ได้รับการอนุมัติและยอมรับจาก CME GROUP ซึ่งถือเป็นตลาดอนุพันธ์ชั้นนำรายใหญ่ที่สุด โดยเป็นโบรกเกอร์ในตลาด CME ซึ่งถือว่าเราผ่านเกณฑ์ซึ่งถือว่าสูงและยากมากของตลาดโลก CME ตั้งอยู่ที่นครชิคาโก สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีโบรกเกอร์ทั้งหมดจริงๆ เพียงกว่า 200 ราย เราเป็น 1 ในคนไทยที่เป็นโบรกเกอร์อยู่ในนั้น
เมื่อเราได้รับการยอมรับขนาดนี้ เราปูทางอย่างไรในทางการค้าต่อไป
เราจะครอบคลุมที่จะขยายไปในกลุ่มของ AEC โดยเฉพาะทางด้านเขมร พม่า เวียดนาม ซึ่งตอนนี้เราได้เปิดสาขาที่สิงคโปร์และฮ่องกง ก็สามารถทำตลาดได้ดี สำหรับนักลงทุนทั้งในสิงคโปร์ ฮ่องกงและเขมร ก็มองว่าโอกาสที่จะเจริญเติบโตยังอีกเยอะ เพราะว่าตลาด CME นั้น จะเป็นตลาดใหญ่ที่สุดในโลกของการซื้อขายสินค้าล่วงหน้า ถ้านักลงทุนไม่เข้าในว่า CME คืออะไร ก็ต้องบอกว่า ถ้าท่านเคยดูน้ำมันในเม็กซ์หรือครูสออยล์นั่นก็คือเป็นส่วนหนึ่งของตลาด CME หรือตลาดทองคำที่เราเรียกว่าตลาดโคเม็กซ์ นั่นก็คือส่วนหนึ่ง เป็นพาร์ตหนึ่งใน CME เท่านั้นเอง ซึ่ง CME สามารถซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนได้ทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น เยน ยูโร ดอลลาร์ หรืออะไรก็ตาม ฉะนั้นต้องถือว่ามีศักยภาพที่สูงที่สุดในโลกแล้วในขณะนี้
MTS Gold เราได้รับเครดิตจาก CME ว่าให้เป็นโบกรเกอร์ที่มีมาตรฐานระดับโลก แต่ว่าการควบคุม การกำกับดูแลในประเทศไทยขณะนี้ ทำให้เราขยับตัวได้หรือไม่ อย่างคริปโตเคอเรนซี กฎเกณฑ์ต่างๆทำให้ปฏิบัติยากหรือไม่
เราไม่ได้เก็งกำไรเรื่องค่าเงินบาท โดยที่จริงๆ เงินบาทในตลาดโลกก็ไม่ค่อยซื้อขาย ในภาพรวมเราซื้อขายคริปโตเคอเรนซีในระดับโลกทั้งหมดเลย ก็คือ เจแปนนิส เยน ยูโร ดอลลาร์ หรือเงินสกุลต่างๆ ซื้อขายได้ทุกสกุล ซึ่งจริงๆเงินบาทไม่ได้ซื้อขายในตลาดพวกนี้ ฉะนั้นไม่ได้ติดขัดเรื่องกฎระเบียบของแบงก์ชาติหรือที่ไหน ซึ่งจริงๆแล้วเราเองเป็นรายเดียวด้วยซ้ำไปที่ได้รับอนุมัติจากแบงก์ชาติให้สามารถพานักลงทุนไปลงทุนในตลาดโลกได้
ถ้านักลงทุนที่สนใจให้ MTS Gold พาไปลงทุนในระดับโลก ค่าคอมมิชชั่นแพงหรือไม่
การที่เราเป็นโบรกเกอร์โดยตรง จะทำให้นักลงทุนไทยได้รับค่าคอมมิชชั่นที่เป็นมาตรฐานโลก แน่นอนว่าจะเป็นมาตรฐานที่ถูกต้อง และราคาไม่แพงหรอกครับ ซึ่งตอนนี้ก็เปิดให้บริการแล้ว หากสนใจติดต่อได้ที่ MTS Gold แม่ทองสุก 0-2770-7777 หรือทางด้านเว็บไซต์ MTS Gold ก็แนะนำให้มาเปิดบัญชี เพราะว่าการเปิดบัญชีนักลงทุนก็จะได้อะไรต่างๆไม่ว่าจะเป็นบทวิเคราะห์ แพลตฟอร์มในการซื้อขายต้องถือว่าเป็นแพลตฟอร์มที่ดี สะดวก และแข่งขันได้ในระดับโลกทีเดียว ซึ่งต่างชาติที่มาเปิดงานในวันนั้น ก็เป็นไดเรคเตอร์ของภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก
เมื่อไหร่ MTS Gold จะเข้าตลาดหุ้น
อยู่ในระหว่างปรับระบบภายในอยู่ คงต้องปรับโครงสร้างกันอีกพักหนึ่ง ต้องรอก่อน และคงจะเข้าตลาดหุ้นไทยนี่แหละครับ แต่ว่าตอนนี้วอลุ่มส่วนหนึ่งอยู่ที่ฮ่องกง สิงคโปร์ด้วย