top of page
379208.jpg

KTC ลอยลำ...เทียบท่า 350 หลังแจ้งงบ Q1/61 แจ่มว้าว


KTC ส่งผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2561 มาอย่างเงียบเชียบเรียบร้อย ช่วยชูตราคาหุ้นให้ไปต่อเหมือนพร้อมจะทำนิวไฮรอบใหม่ ขณะที่มีการปรับเป้าหมายกำไรและราคาหุ้น KTC ไปที่ 350 บาท แต่มาขนาดนี้มีสะกิดกันแล้วว่า ยิ่งสูงยิ่งหนาวนะจ๊ะ....

หลังจากที่ราคาหุ้นบริษัทบัตรกรุงไทย หรือ KTC วิ่งตุ้บตั๊บๆ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และดี๊ด๊ามาตั้งแต่เข้าปีใหม่ 2561 โดยปรับขึ้นจากแถว 180 บาท ข้าม 200 บาท 300 บาทขึ้นมาที่ 333 บาท ซึ่งเป็นระดับราคาที่พีคสุดๆสำหรับประวัติศาสตร์หุ้นตัวนี้แล้ว จึงมีการไหลปรับฐานลงมาบ้าง และเกิดข้อกังวลกันพอสมควรในหมู่นักลงทุนว่า KTC ร้อนแรงมากไปหรือไม่ จากเดิมก่อนหน้านี้ที่เคยกังวลว่าบริษัทอาจได้รับความกระทบกระเทือนจากการคุมเข้มของแบงก์ชาติในเรื่องเพดานดอกเบี้ยบัตรเครดิต จนราคาหุ้น ถูกเทลงมาต่ำกว่า 100 บาทด้วยซ้ำ แต่จากนั้นหุ้นกลับปรับขึ้นมาเป็นลำดับเหมือนไม่ได้เกิดอะไรขึ้น และทำสถิติใหม่ต่อเนื่องตามที่กล่าวมาแล้ว

เมื่อเข้าสู่เดือนเมษายนเป็นต้นไป สิ่งที่นักลงทุนให้ความสำคัญต้องจับตามองกันอย่างมากในช่วงนี้ คือเรื่องของการประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2561 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หุ้นในกลุ่มธนาคาร ที่ว่ากันว่าอาจไม่ “หรู” อย่างที่คิด เมื่อเจอกับสงครามค่าธรรมเนียม รวมทั้งมีการประเมินด้วยว่า บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นทั่วไปอาจไม่ได้มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นมากนัก และอาจฉุดให้หุ้นกลุ่มธนาคารไหลลง พร้อมกับฉุดดัชนีหุ้นลงมาด้วย อย่างไรก็ตามหลังจากหยุดยาวในช่วงของเทศกาล ขณะที่กำลังรอการประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2561 ของกลุ่มแบงก์โดยเฉพาะแบงก์ใหญ่ๆ ปรากฏว่า บริษัท บัตรกรุงไทย หรือ KTC นำร่องประกาศผลการดำเนินงานอย่างเงียบเชียบเรียบร้อยมาก่อนแบงก์ใหญ่ๆ โดยหลังจากหยุดพักยาวช่วงสงกรานต์ KTC ได้ส่งงบการเดินงานไตรมาส 1/2561 แต่เช้าวันพุธที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา

ที่สำคัญคือ ผลกำไรที่ส่งเข้ามานั้น เข้าขั้น แซ่บเวอร์ เกินกว่าเป้าหมายที่นักวิเคราะห์คาดการณ์กันไว้

ในรายงานระบุว่า KTC มีกำไรสุทธิ ไตรมาส 1/61 ถึง 1,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 28.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสต่อไตรมาส

บล.หยวนต้า ให้ความเห็นว่า กำไรที่ประกาศมานี้ ดีกว่าที่ บล.หยวนต้าเคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนขนาดปรับเป้าหมายราคาหุ้น KTC ไว้ก่อนหน้า และยังดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ถึง 21% และ 33% ตามลำดับ

ทั้งนี้ กำไรที่ดีดังกล่าว มีผลจากการตั้งสำรองต่ำกว่าคาด

“ภาพรวมกำไรที่โตเด่น ได้แรงหนุนจาก 1) ฐานสินเชื่อเพิ่มขึ้น 6.4% 2) รายได้หนี้สูญรับคืนมากขึ้นถึง 31.3% ส่วนการเติบโตไตรมาสต่อไตรมาส มาจาก 1) ค่าใช้จ่ายการดำเนินงานลดลง 4.7% ตามฤดูกาล และ 2) Credit cost หดตัวจาก 917 bps เป็น 782 bps ตามคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้นต่อเนื่อง โดย Gross NPL ลดลง 2.9% ส่งผลให้ Coverage ratio เพิ่มจาก589% ในไตรมาส 4/2560 เป็น 592% ใน ไตรมาส 1/2561 สูงสุดในกลุ่ม และ NPLratio ที่1.3% ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า”

บล.หยวนต้า ระบุต่อไปว่า ยังคงมีความมั่นใจมากขึ้น และคาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/2561 เติบโตต่อ เนื่องจาก 1) การขยายตัวของสินเชื่อ โดยใช้จุดแข็งด้านโปรโมชั่นร้านค้าที่หลากหลาย กระตุ้นการใช้จ่ายผ่านบัตร รวมทั้งดึงดูดฐานลูกค้าใหม่ 2) สำคัญมากคือ คาดCredit cost ลดลงต่อเนื่อง เพราะ ณ ปัจจุบัน KTC มีCoverage ratio สูงสุดในกลุ่มฯ ทำให้การสำรองส่วนเกินมากเพียงพอต่อการปรับใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS9 โดยไม่จำเป็นต้องเร่งตั้งสำรองเพิ่มเติม ซึ่งถือเป็นตัวแปรสำคัญที่มีผลต่อประมาณการที่ บล.หยวนต้าเคยมองบวกมากๆกับหุ้นนี้ไว้

การประกาศผลกำไรไตรมาส 1 ออกมาเช่นนี้ของ KTC ดันราคาหุ้นขึ้นทันทีที่เปิดตลาดเกือบ 5% และทำท่าจะขึ้นไปแตะจุดสูงสุดเดิม ทะลุไปทำจุดสูงสุดใหม่ ซึ่งมีการประเมินว่าราคาน่าจะมีแรงส่งไปได้อีกที่ 350 บาทต่อหุ้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึงจุดนี้ มีการสะกิดเตือนกันแล้วว่า ต้องระวังมากขึ้น แบบยิ่งสูงยิ่งหนาว เนื่องจากอาจมีแรงขายทำกำไรออกมาจากคนที่ซื้อไว้ก่อนและมีต้นทุนที่ต่ำกว่า จะตัดขายทำกำไร และการที่ KTC จะเดินหน้าต่อไปจากนี้คงต้องมีข่าวดีอะไรมาเพิ่ม

11 views
bottom of page