top of page
358556.jpg

PPS ตามรอย JMART...ออก ProfinCoin ระดม ICO


ในขณะที่ บอร์ด ก.ล.ต.ไม่ได้มีมติใดเกี่ยวกับเรื่องกฎหมาย ข้อบังคับเกณฑ์การออก ICO เพื่อระดมทุน ตามกำหนดเดิมที่คาดการณ์กันก่อนหน้านี้ปรากฏว่า ในวันเดียวกันนั้นเอง บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ได้มีการประกาศออก ICO อย่างเป็นทางการเป็นแห่งที่ 2 ตาม JMART บริษัทนั้นคือ บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง (PPS) ในนาม โปรฟิน กรุ๊ป รองรับการดำเนินธุรกิจ Project Financing และ ICO Portal ออก ProfinCoin ระบุ เป็น Asset Backed Token รายแรกของประเทศไทย จำนวน 500 ล้านบาท ยืนยันตัวตนผ่านระบบ KYC ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มี.ค. เปิดจอง 15 มี.ค. - 31 มี.ค. ขายจริง 5 เม.ย. - 30 เม.ย.

ดร.พงศ์ธร ธาราไชย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โปรเจค แพลนนิ่งฯ (PPS) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร บริษัท มีมติอนุมัติการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน ภายใต้ชื่อ บริษัท โปรฟิน กรุ๊ป ด้วยทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจ Project Financing และ ICO Portal โดยบริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จํากัด (มหาชน) ถือหุ้น 33.33 % บริษัท ฟินเทค (ประเทศไทย) จํากัด ถือหุ้น 33.34% และ บริษัท เวโลพาร์ค จํากัด ถือหุ้น 33.33%

“บริษัทได้ทำการศึกษาระบบ Digital Lending Platform การลงทุนในอุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์รูปแบบใหม่ผ่าน Blockchain Technology ขณะนี้มีความพร้อมแล้วที่จะระดมทุนแบบ Initial Coin Offering (ICO) โดยออกสิทธิดิจิทัลที่มีชื่อว่า ProfinCoin สำหรับนักลงทุนในการเลือกโครงการลงทุนระยะสั้นจากผู้รับเหมาในโครงการก่อสร้างที่มีใบส่งมอบงานที่โอนสิทธิรับเงินได้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยมีเป้าหมายในการเสนอขายระยะแรกจำนวน 500 ล้านบาท และหากมีการออกกฏเกณฑ์เพื่อมากำกับดูแลการระดมทุนเงินดิจิทัลหรือไอซีโอ ทางบริษัทก็พร้อมที่จะดำเนินตามกรอบที่กำหนดไว้” ดร.พงศ์ธร กล่าว

นายชลเดช เขมะรัตนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟินเทค (ประเทศไทย) เปิดเผยว่าเงินที่ได้จากการเสนอขาย ProfinCoin จะถูกใช้เป็นสินทรัพย์ค้ำประกัน Token นี้เต็มจำนวน โดยจะมีบริษัทกลางที่ทำหน้าที่ดูแลสินทรัพย์หรือ Custodian ให้กับนักลงทุน สิทธิในการถอนเงินในกองทุนจะขึ้นอยู่กับนักลงทุนที่ถือ ProfinCoin เท่านั้น ไม่ใช่บริษัทโปรฟินกรุ๊ป โดยบริษัทจะเริ่มเปิดระบบให้สินเชื่อโดยมีใบส่งงานค้ำประกันตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้ นักลงทุนที่ถือ ProfinCoin สามารถเลือกใช้สิทธิในการปล่อยกู้ให้แก่โครงการต่าง ๆ ด้วยตนเอง ซึ่งมีอัตราผลตอบแทนตั้งแต่ 5 – 9% ตามระดับความเสี่ยงของโครงการ ในส่วนของโปรฟินกรุ๊ปจะได้รับรายได้จากดอกเบี้ยที่เรียกเก็บจากผู้ขอกู้ในอัตรา 3% ต่อปี

ศ.ดร.อาณัติ ลีมัคเดช กรรมการที่ปรึกษา บริษัท เวโลพาร์ค ผู้พัฒนาแพลทฟอร์มด้วยระบบ Blockchain เปิดเผยว่าการใช้ Token เพื่อระดมทุนในครั้งนี้ ไม่ได้เน้นที่การเก็งกำไร เพราะ ProfinCoin จะมีราคา 1 บาทคงที่ตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่นักลงทุนจะได้ผลตอบแทนจากการปล่อยกู้ เหตุที่ต้องสร้าง Token มาแทนเงินเพื่อเน้นความโปร่งใส ความปลอดภัยในการทำธุรกรรม เพราะระบบและฐานข้อมูลอยู่บนเครือข่าย Blockchain ของ Ethereum ที่นักลงทุนสามารถเรียกดูได้ด้วยตนเอง นอกจากนี้ยังประหยัดต้นทุนในการดำเนินงาน อันเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อก่อสร้างต่ำลง ซึ่งนอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนและผู้รับเหมาในการปล่อยกู้กันโดยตรงแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศ สอดคล้องกับทิศทางของรัฐบาลในการพัฒนาฟินเทคเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

17 views
bottom of page