ได้เวลาหันกลับมาดูพื้นฐานที่แท้จริงของ BANPU หลังกลืนไม่เข้าคายไม่ออกมานานกว่า 10 ปี เมื่อศาลฎีกาตัดสินชี้ชัดคดีหงสา-บ้านปูเสร็จสิ้น นับเป็นการสิ้นสุดคดีและปลดพันธนาการที่รั้งหุ้นมาตลอด ประเมินแม้บ้านปูเป็นฝ่ายแพ้คดีแต่ค่าความเสียหายที่ต้องชดใช้อยู่ในเกณฑ์รับได้ ส่งผลให้หุ้น BANPU ยังคงได้รับคำแนะนำให้ซื้อต่อไป
6 มีนาคม 2561 คือวันชี้ชะตาบริษัทบ้านปู (BANPU) และผู้ถือหุ้น BANPU เพราะเป็นวันที่ ศาลแพ่งนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีประวัติศาสตร์ ที่ยืดเยื้อยาวนานมาถึง 10 ปี 8 เดือนหลังจากที่ นายศิวะ งานทวีกับพวก เป็นโจทย์ยื่นฟ้อง BANPU เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2550 ข้อหาหลอกเข้าทำสัญญาร่วมทุนเพื่อที่ BANPU จะได้ข้อมูลสัมปทาน และรายละเอียดโครงการเหมืองถ่านหินลิกไนต์ ที่เมืองหงสา ประเทศลาว และเป็นเหตุให้รัฐบาลลาวยกเลิกสัมปทานกับกลุ่มนายศิวะหันไปทำสัญญากับ BANPU แทน โดยศาลชั้นต้น (ศาลแพ่ง) ตัดสินให้นายศิวะเป็นฝ่ายชนะ BANPU ต้องจ่ายค่าเสียหายให้ถึง 3.1 หมื่นล้านบาท ต่อมา BANPU ยื่นอุทธรณ์และ 9 กันยายน 2557 คดีพลิกฝ่าย BANPU เป็นฝ่ายชนะคดี โดยศาลอุทธรณ์ตัดสินให้ ยกฟ้อง ไม่ต้องจ่าย 3.1 ล้านบาท ระบุ BANPU กระทำการสุจริตทั้งก่อนหน้าและหลังการทำสัญญาโครงการ โดยกลุ่มนายศิวะเป็นฝ่ายผิดสัญญาเอง นำมาสู่การยื่นฎีกาเพื่อค้านคำสั่งอุทธรณ์ดังกล่าว
ทั้งนี้ ศาลแพ่งได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ตัดสินคดีโดย BANPU ชดใช้ค่าเสียหาย 1,500 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี นับจากวันฟ้อง (กรกฎาคม 2550) เนื่องจาก มีการนำข้อมูลผลการศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าหงสาไปใช้ ส่วนค่าเสียโอกาสราว 6 หมื่นล้านบาท ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์ คือ BANPU ไม่ต้องชำระ โดยสรุปคำตัดสินได้ดังนี้ คือ
1. กรณีที่โจทก์กล่าวหาจำเลยว่า เข้าร่วมทำสัญญาพัฒนาโครงการเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูล โดยไม่มีเจตนาเข้าทำโครงการจริง ศาลพิจารณาว่า จำเลยมีความสุจริตในการเข้าทำสัญญาและมีเจตนาทำโครงการจริง มิใช่เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูล
2. กรณีที่โจทก์กล่าวหาจำเลยว่า จำเลยยกเลิกสัญญากับผู้รับเหมาเพื่อให้โครงการล่าช้า อันเป็นเหตุให้รัฐบาลลาวยกเลิกสัมปทานกับโจทก์ ศาลพิจารณาว่า จำเลยมีความสุจริต ทำเพื่อประโยชน์ของโครงการ และรัฐบาลลาวมิได้ใช้เหตุนี้ในการยกเลิกสัมปทานกับโจทก์
3. กรณีที่โจทก์กล่าวหาจำเลยว่า จำเลยยุยงรัฐบาลลาว ให้ยกเลิกสัมปทานกับโจทก์ ศาลพิจารณาว่า จำเลยมีความสุจริต มิได้ยุยง การยกเลิกสัมปทานเป็นการตัดสินใจของรัฐบาลลาว เพื่อประโยชน์ของประชาชนลาว
4. กรณีที่โจทก์กล่าวหาจำเลยว่า จำเลยใช้ข้อมูลโครงการของโจทก์ ศาลพิจารณาว่า เป็นการใช้ข้อมูลที่มีมูลค่าของโจทก์จึงกำหนดให้จำเลย จ่ายค่าใช้ข้อมูลเป็นจำนวนเงิน 1,500 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2550
ทั้งนี้ บริษัทได้จัดแถลงข่าวหลังศาลอ่านคำพิพากษาว่า บริษัทน้อมรับและพร้อมปฏิบัติตามคำตัดสินของศาลทุกประการ และขอเน้นย้ำว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทดำเนินธุรกิจโดยสุจริตทั้งก่อนและหลังการเข้าทำสัญญาร่วมพัฒนาโครงการ โดยไม่ได้กระทำผิดสัญญาต่อโจทก์
บริษัทขอให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นว่าคำตัดสินไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท และบ้านปู เพาเวอร์ฯ โดยจะยังคงเดินหน้าดำเนินธุรกิจด้วยความเป็นมืออาชีพตามแผนกลยุทธ์ Greener & Smarter ที่มุ่งสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนได้เสียในทุกภาคส่วน
ผลจากคดีทำให้นักวิเคราะห์ ทบทวนและประเมินสถานการณ์หุ้น BANPU ใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่เห็นว่า เป็นการดีที่คดีอันยาวนานกว่า 10 ปีนี้สิ้นสุดลง ซึ่งเท่ากับเป็นการปลดโซ่ตรวนที่มีอยู่ให้จบสิ้นกันไป โดย BANPU ต้องจ่ายเงินชดใช้ 1,500 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% เป็นเงิน 2,500 ล้านบาท ซึ่งน้อยกว่าที่กังวลกันมากก่อนตัดสินคดี ว่าหาก BANPU แพ้จะต้องจ่ายเงินชดใช้ถึง 3.1 หมื่นล้านบาท ซึ่ง บริษัทเคยได้เตรียมกันสำรองเอาไว้เผื่อแพ้เลย ซึ่งถ้าหากต้องจ่ายเงินก้อนโต แม้บริษัทมีกำไรก็อาจไม่เพียงพอ
อย่างไรก็ตาม ตามคำพิพากษาศาลฎีกา ให้ชดใช้ด้วยจำนวนเงินที่ต้องจ่ายน้อยกว่าที่คาดการณ์เยอะพอสมควร จึงเห็นว่ากระทบกับผลการดำเนินงานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ขณะที่คดีจบสิ้นทำให้นักวิเคราะห์ประเมินอนาคตราคาหุ้น BANPU สะดวก ชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ นักกลยุทธ์มองว่า ราคาหุ้น BANPU อาจจะมีเรื่องของการ Sale on fact ขณะที่หุ้นใน Stock Futures มีปริมาณการซื้อขายสูงสุดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหุ้น BANPU คือ BANPUH18 จำนวน 38,082สัญญา มีราคาที่ใช้ชำระราคา 22.95 บาทลดลง -0.33บาท หลังจากผลการตัดสินออกมาเป็นที่เรียบร้อย
นักวิเคราะห์ประเมินว่า ด้วยปัจจัยพื้นฐานจะทำให้หุ้น BANPU มีแนวโน้มเป็นขาขึ้นต่อไปได้ แม้บริษัทจะมีกำไรลดลงหลังจากหักเงินไปชดใช้ตามคำสั่งศาลแล้ว โดยประมาณการว่า กำไรปี 2561 จะลดลงจากประมาณการเดิม แต่ก็ยังโดดเด่น ในครึ่งปีแรก 2561 กำไรบ้านปูจะกลับมาโดดเด่นจากราคาถ่านหินที่ปรับเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาหุ้น BANPU ยังมีอัพไซด์
บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง ระบุ BANPU และ BPP จะบันทึกค่าชดเชยในผลประกอบการ ไตรมาส 1/2561 ส่งผลกระทบต่อ ประมาณการปี 2561 ของ BANPU 21.8% และ ประมาณการของ BPP 15.8% หุ้นกลับไปสะท้อนปัจจัยพื้นฐาน โดยมีราคาเป้าหมาย 24 บาท จากสมมติฐานราคาถ่านหินที่ต่ำกว่าราคาเฉลี่ยที่ 107 เหรียญต่อตัน จาก Sensitivity แสดงให้เห็นว่าทุก 5 เหรียญต่อตันที่ราคาถ่านหินปรับตัวขึ้นจะส่งผลบวกต่อผลประกอบการปี 2561 ของ BANPU 5% หรือสะท้อนเป็นมูลค่า BANPU 1 บาทต่อหุ้น
ขณะที่ บล.ไอร่าให้ราคาเป้าหมายของ BANPU ปี 2561 สูงสุดกว่าใครคือ 28 บาท เพราะคาดกำไรจากการดดำเนินงานปกติในปี 2561 จะสูงสุดในรอบ 7 ปี ที่ 10,659 ล้านบาท จากแนวโน้มราคาถ่านหินที่เพิ่มขึ้น