Gold-D ยังไม่ดี ... โบรกเกอร์ทองกุมขมับ ชี้จุดอ่อนขาดการประชาสัมพันธ์และให้ความรู้ ทำให้นักลงทุนไม่กล้าซื้อขาย และวอลุ่มเทรดหลังเปิดประเดิม 4 กันยาไม่ไปไหน แถมยังออกผลิตภัณฑ์ผิดเพี้ยนจากที่คุยกันแต่แรกโดยเปลี่ยนกลางอากาศ จาก Gold Spot เป็น Gold Future ทำให้ราคาในตลาดแพงกว่าถึง 5 ดอลลาร์
สินค้าใหม่ของ TFEX ..”Gold-D” หรือ สัญญาซื้อขายที่อ้างอิง ทองคำแท่งที่มีความบริสุทธิ์ 99.99% โดยราคาซื้อขาย Gold-D เป็นราคามาตรฐานที่ซื้อขายกันในต่างประเทศกำหนดเป็นสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้ผู้ลงทุนติดตามและเปรียบเทียบกับราคาในตลาดโลกได้สะดวกมากขึ้น เริ่มซื้อขายครั้งแรกแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา
หลังจากที่มีการหารือกันเพื่อออกผลิตภัณฑ์ Gold-D ซึ่งจะทำให้นักลงทุนซื้อขายทองคำในตลาดได้ง่ายขึ้น โดยไม่ติดในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยน และโบรกเกอร์ผู้เป็นนายหน้าค้าทองคำในตลาด TFEX เองได้รอคอยมาอย่างยาวนาน ด้วยความหวังว่าตลาดนี้จะมีนักลงทุนเข้ามาซื้อขายกันอย่างคึกคัก แต่เมื่อมีการเปิดตลาดซื้อขายจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น โดยโบรกเกอรที่เป็นนายหน้าค้าทองคำรายหนึ่งกล่าวกับ “ดอกเบี้ยธุรกิจ” ว่าแป็กและผิดหวังพอสมควร
ทั้งนี้พบว่า 3 วันแรกของการเปิดให้ซื้อขาย Gold-D มีปริมาณการซื้อขายเพียง 2,698 สัญญา (เป็นสัญญาทั้งซีรีส์ U สิ้นสุดกันยายน และ Z สิ้นสุดธันวาคม โดยวันที่ 4 กันยา 754 สัญญา วันที่ 5 กันยา 812 สัญญา วันที่ 6 กันยายังไม่รวมภาคค่ำ 1,132 สัญญา) ทั้งที่ในช่วงเวลาดังกล่าว ปัจจัยต่างประเทศหนุนให้ตลาดทองคึกคักมาก ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 2 ปี(มีราคาเปิดตลาดที่ 1,334 ดอลลาร์) และยังคงขึ้นต่อเนื่องจากกรณีความกังวลเรื่องของเกาหลีเหนือและอเมริกา จนนักลงทุนหันมาจับตามอง แต่ Gold-D ที่เริ่มซื้อขาย 3 วันแรกก็ยิ่งมีการซื้อขายไม่มาก ขนาดที่ว่า นับจากวันที่ 4 กันยายน TFEX ได้ขยายเวลาซื้อขายสินค้าที่อ้างอิงกับทองคำทั้งหมด โดยเปลี่ยนเวลาในภาคค่ำ จากเดิม 19.30-22.30 น.เป็น 19.00-23.55 น. แล้วด้วย
โบรกเกอร์ค้าทองรายหนึ่งกล่าวว่า วอลุ่มการซื้อขาย Gold –D ผิดเป้าไปหมด โดยการซื้อขาย Gold-D ยังคงต้องวางหลักประกัน ประมาณ 3-5% ของมูลค่าสัญญา และชำระราคาเป็นเงินบาท เป็นราคาที่ใช้กลไกเดียวกับการซื้อขายสินค้าอื่นใน TFEX
“จริงๆแล้ว Gold-D เป็นสินค้าที่ดีมากๆ แต่เสียดายที่ขาดการประชาสัมพันธ์ที่ดี และขาดการให้ความรู้กับนักลงทุน ทำให้วอลุ่มการซื้อขายน้อยมาก
ปัญหาที่สำคัญเลยเป็นเพราะ ทางตลาดเปลี่ยนรูปแบบสินค้ากลางอากาศ ไม่ได้เป็นแบบที่ได้มีการคุยกันมา Gold-D แบบที่เราพูดคุยกันมาคือวางแผนให้มีการซื้อขายแบบ Gold Spot แบบที่สามารถ Rollover ได้ แต่นี่มาเปลี่ยนกลางอากาศให้เป็น ซื้อขายแบบ Gold Future ซึ่งมันเป็นคนละตระกูลกันเลย แบบ Gold Spot ลงทุนง่าย แต่พอเป็น Gold Future ความยากคือราคา Future แพงกว่าราคา Spot ถึง 5 ดอลลาร์ คนเลยไม่กล้าลงทุนกันเลย เห็นแบบนี้แล้วปวดหัว ทำงานยากมาก”
Gold-Dมีมาร์เก็ตเมกเกอร์ 4 ราย ได้แก่ บริษัท ออสสิริส จำกัด, บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด, บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และ บริษัท คลาสสิกโกลด์ จำกัด
Gold-D ใช้สัญลักษณ์การซื้อขาย GD ต่อด้วยสัญลักษณ์สิ้นสุดสัญญา เช่น GDU17 คือ Gold-D ที่ซื้อขายตามสัญญาสิ้นสุดเดือนกันยายน ขนาดของสัญญาเป็นทองคำหนัก 100 กรัม (3.2148 ทรอยออนซ์) ขนาดการส่งมอบสินค้าทองคำหนัก 1 กิโลกรัม (10 สัญญา หรือทองคำหนัก 32.148 ทรอยออนซ์)
ราคาเสนอซื้อขายเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ต่อ น้ำหนักทองคำ 1 ทรอยออนซ์ ช่วงราคาซื้อขายขั้นต่ำ0.10 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ค่าธรรมเนียมการซื้อขายช่วงแรกคือ 4กันยายน 2560 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2561 คิด 2.50 บาทต่อสัญญา หลังจากนั้นไม่เกิน 5 บาทต่อสัญญา โดย TFEX ไม่มีข้อกำหนดเรื่องค่าธรรมเนียมนายหน้าการซื้อขาย อัตราค่าธรรมเนียมสามารถต่อรองได้เสรี
ส่วน หลักประกันรักษาสภาพสำหรับฐานะสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในแต่ละเดือน (Maintenance Margin) Gold-D 2,200 บาทต่อสัญญา
