กระทรวงคมนาคม ตีกลับแผนศึกษาพัฒนาพื้นที่สถานีกลางบางซื่อเป็บฮับด้านคมนาคมขนส่ง เพราะไม่มีความชัดเจน ส่วนซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้างเคาะซอยทีโออาร์รถไฟทางคู่ 5 สาย เป็น 13 สัญญา แถมปรับเงื่อนไขเปิดกว้างให้ผู้เข้าประมูลแข่งขันได้ทุกสัญญา
นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า หลังการหารือร่วมกับตัวแทนจากกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่งและการท่องเที่ยวญี่ปุ่นนั้น กระทรวงที่ดินของญี่ปุ่นได้มานำเสนอผลการศึกษาเบื้องต้นเกี่ยวกับแนวทางในการพัฒนาพื้นที่บริเวณสถานีกลางบางซื่อ ซึ่งในอนาคตการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะพัฒนาเป็นศูนย์การขนส่งทุกระบบที่เชื่อมระหว่างกรุงเทพฯ กับทั่วประเทศ ญี่ปุ่นได้นำเสนอแนวคิดในการพัฒนาออกเป็น 3 ทางเลือก คือ เป็นศูนย์กลางเมืองราชการ เป็นศูนย์กลางการจัดประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ และเป็นศูนย์กลางการพัฒนาอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งฝ่ายไทยพิจารณาแล้วเห็นว่าผลการศึกษาทั้ง 3 ทางเลือกยังขาดรายละเอียดหลายประเด็น จึงขอให้ญี่ปุ่นกลับไปศึกษาเพิ่มเติม โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับอุปสงค์ อุปทาน และปริมาณเงินลงทุนในแต่ละทางเลือกว่าเป็นอย่างไร เพื่อให้สามารถนำแต่ละทางเลือกมาเปรียบเทียบและเลือกแนวทางที่เหมาะสมและเกิดประโยชน์มากที่สุดได้ คาดว่าญี่ปุ่นจะนำเสนอผลการศึกษาฉบับสมบูรณ์ให้ฝ่ายไทยพิจารณาอีกครั้งประมาณเดือนสิงหาคม 2560
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง กล่าวว่า คณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง ได้ประชุมร่วมกับคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีความเห็นร่วมกันให้แก้ไขสัญญาทีโออาร์รถไฟทางคู่ 5 สาย โดยจะมีการเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ เพื่อ รฟท.จะได้ทำร่างทีโออาร์ใหม่และยกเลิกทีโออาร์ของเดิม ที่ประชุมได้เห็นชอบให้มีการแบ่งสัญญาก่อสร้างรถไฟทางคู่ให้อยู่ในช่วงตามมูลค่าที่ 5,000 ล้านบาท ถึง 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้งานก่อสร้างรางและงานโยธามี 9 สัญญา และงานก่อสร้างอุโมงค์อีก 1 สัญญา นอกจากนี้ให้แยกงานการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณออกมาจากงานก่อสร้างทาง โดยออกเป็นอีก 3 สัญญา รวมเป็นทั้งหมด 13 สัญญา โดยผู้เข้าประมูลงานสามารถแข่งขันได้ทุกสัญญา
นายวรวิทย์ จําปีรัตน์ ประธาน รฟท. กล่าวว่า การยกเลิกทีโออาร์เก่า จะต้องรอเสนอทีโออาร์ใหม่ให้ ครม.เห็นชอบเสียก่อน ซึ่งจะนำรายละเอียดทีโออาร์ใหม่ให้คณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างเห็นชอบ ก่อนที่จะนำเสนอ ครม.ต่อไป