top of page
327304.jpg

ขึ้นต่อแรงๆต้นปี..เป็นโอกาสขายปรับพอร์ต


ลุ้นแค่เล่นสั้น !

ในส่วนของทิศทางเศรษฐกิจโลกในปี 2560 นี้ ขออนุญาตนำมุมมองของสำนักวิจัยชั้นนำของโลกอย่าง Morgan Stanley หรือ MS มาเรียนให้ได้ทราบเป็นแนวทางกันนะครับ

ทั้งนี้ถ้าดูจากข้อมูลเบื้องต้นพบว่าแนวโน้มของเศรษฐกิจโลกในปี 2560 จะยังคงมีการฟื้นตัวอย่างช้าๆต่อไป โดยที่ Morgan Stanley ประเมินว่าเศรษฐกิจโลกในปี 2560 จะขยายตัว 3.4% จาก 3.0% ในปี 2554 ทั้งนี้ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจโลกในปี 2560 จะหมุนกลับมาอยู่ที่กลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (Developed Market: DM) อีกครั้ง โดยที่ Morgan Stanley ประเมินว่าเศรษฐกิจในกลุ่มดังกล่าวจะขยายตัวได้ราว 3.6% เทียบกับระดับ 2.3% ในปี 2559 ขณะที่กลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market: EM) คาดว่าจะขยายตัวเพียง 4.7% เท่านั้น โดยเฉพาะในส่วนของจีนที่คาดว่าเศรษฐกิจในปี 2560 จะขยายตัวเพียง 6.4% เท่านั้น ลดลงจาก 6.7% ในปี 2559

อย่างไรก็ดีกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (Developed Market: DM) ยังมีแนวโน้มที่จะต้องเผชิญกับภาวะเงินฝืด และดอกเบี้ยต่ำต่อเนื่อง นอกจากนี้ดูเหมือนว่าจะมีเพียงสหรัฐเท่านั้นที่เศรษฐกิจส่งสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนแล้ว โดยที่ Morgan Stanley ประเมินว่าเศรษฐกิจของสหรัฐในปี 2560 จะขยายตัวราว 2.0% จาก 1.6% ในปี 2559 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะขยับขึ้นไปอยู่ที่ 2.4% จาก 1.3% ในปี 2557 “นายหมูบิน” ประเมินว่าแม้เศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้น โอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในครั้งต่อไปน่าจะอยู่ในช่วงไตรมาสที่ 2 และไตรมาสที่ 4 ปี 2560 มากกว่า ซึ่งน่าจะส่งผลให้ตลาดหุ้นโลก และไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 ยังคงมีโอกาสขยับขึ้นต่อได้ จากสภาพคล่องส่วนเกินในตลาดการเงินโลกจากการอัดฉีดสภาพคล่องจากธนาคารกลางยุโรป และญี่ปุ่นที่ยังคงมีอยู่

เศรษฐกิจเอเชียไม่ใช่พระเอกอีกแล้ว ! : การขยายตัวของเศรษฐกิจเอเชียไม่รวมญี่ปุ่น (Asia Pacific ex Japan :APXJ) ยังมีแนวโน้มที่จะอ่อนแอต่อเนื่องในปี 2560 โดยที่ Morgan Stanley ประเมินระดับ GDP Growth ของเอเชียในปี 2560 ไว้ที่ 6.0% ลดลงจากระดับ 6.1% ในปี 2559 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อของประเทศในกลุ่มดังกล่าวถูกประเมินว่าจะลดลงจาก 2.6% ในปี 2559 มาอยู่ที่ 2.5% ในปี 2560

ทั้งนี้การขยายตัวที่ชะลอตัวลงต่อเนื่องของเศรษฐกิจจีนยังคงเป็นปัจจัยฉุดรั้งการฟื้นตัวขึ้นของเศรษฐกิจในภูมิภาค โดยที่ Morgan Stanley ประเมินระดับ GDP Growth ในปี 2560 ของจีนไว้ที่ 6.4% ลดลงจาก 6.7% ในปี 2560 ขณะที่ในส่วนของกลุ่มประเทศ ASEAN-5 ทรงตัวไม่แย่ แต่ไม่โดดเด่น โดยที่พบว่าเศรษฐกิจของไทย, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์ และมาเลเซียขยายตัวเพิ่มขึ้นในปี 2560 โดยมีเพียงฟิลิปปินส์เท่านั้นมีการขยายตัวที่ลดต่ำลง

ในส่วนของไทย Morgan Stanley ประเมินการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2560 ไว้ที่ 3.1% YoY แม้ว่าจะฟื้นตัวขึ้นจากที่คาดว่าจะอยู่ที่ 3.0% ในปี 2559 แต่ “นายหมูบิน” มองว่าระดับดังกล่าวยังไม่ใช่ระดับที่น่าพอใจนัก เนื่องจากถ้าพิจารณาการขยายตัวรวมกันในปี 2558-2559 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวเฉลี่ยเพียงราว 2.8% เท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 4% ต่อปีของเศรษฐกิจไทยค่อนข้างมาก

ความเสี่ยงอยู่ที่เรื่องของ Flow เป็นหลัก !

ในมุมมองของ “นายหมูบิน” ยังคงมองว่าเศรษฐกิจไทยยังมีโอกาสที่จะขยายตัวต่ำกว่าที่ Morgan Stanley ประเมินไว้ที่ 3.1% ตามลำดับ เพราะถ้าไปดูไส้ในของประมาณการจะพบว่าที่ Morgan Stanley ประเมินว่าการบริโภคภายในประเทศ และการส่งออกจะขยายตัวราว 2.3% และ 2.4% ตามลำดับ “นายหมูบิน” มองว่ามีความเป็นไปได้ แต่ในส่วนของการใช้จ่ายภาครัฐที่ Morgan Stanley ประเมินว่าจะขยายตัวราว 4% “นายหมูบิน” มองว่าประเด็นนี้เป็นความเสี่ยงจากโอกาสที่จะไม่ได้ตามที่คาด โดยเฉพาะถ้าพิจารณาจากท่าทีในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจในปัจจุบันของรัฐบาล ทั้งนี้นอกจากประเด็นของเศรษฐกิจในประเทศแล้ว ในส่วนของทิศทางกระแสเงินในตลาดการเงินโลก ถือว่าเป็นอีกประเด็นความเสี่ยงสำคัญ ซึ่งความกังวลเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวจะกลับเข้ามาแน่นอนในปี 2560 หลังจากที่เฟดขยับขึ้นดอกเบี้ย หรือเข้าสู่ Exit Strategy เต็มที่แล้วในเดือน ธ.ค.2559 ที่ผ่านมา

ความกังวลดังกล่าวน่าจะส่งผลให้มีกระแสเงินไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาคค่อนข้างแน่ เพื่อปิดสถานะ “US Dollar Carry Trade” ดังนั้นในสถานการณ์ดังกล่าวแม้ว่าจะมีโอกาสค่อนข้างมากที่แบงก์ชาติจะตัดสินใจคงดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ “นายหมูบิน” ต้องเรียนว่าประเด็นนี้เป็นความเสี่ยงที่ต้องติดตามมากที่สุดในปี 2560 เพราะตามประวัติศาสตร์แล้ว พบว่าทุกครั้งที่เฟดตัดสินใจขึ้นขยับขึ้นดอกเบี้ยจากจุดต่ำสุด หลังจากนั้นเฟดมักจะขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องไปในเกือบทุกครั้งที่มีการประชุม FOMC

ดังนั้น “นายหมูบิน” ประเมินเป้าหมายในปี 2560 ไว้ที่ 1,650 จุด ซึ่งถือว่าจะมี Potential Upside Gain ไม่มากราว 10% เท่านั้นในปี 2560 ทำให้ “นายหมูบิน” มองว่าการที่ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นในปี 2560 เป็นโอกาสในการขายทำกำไรออกมาสักครั้งหนึ่งสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว

ในส่วนของกลยุทธ์ สำหรับการลงทุนระยะสั้น (ไม่เกิน 1 สัปดาห์) : กรณีที่ SET ยังคงปิดเหนือ 1,520 (+/-5) จุดได้ แนะนำ “อ่อนตัวซื้อเก็งกำไร” ในหุ้น PTT, PTTGC, TOP, BDMS, ROBINS, MINT, CPN, AAV, AOT, CK, SCB และ KBANK ขณะที่กรณีตรงข้ามที่ SET กลับมาปิดต่ำกว่า 1,520 (+/-5) จุดอีกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยง ควรกลับมา “ถือเงินสด” หรือ “Wait and See” ไปก่อน สำหรับการลงทุนระยะกลาง (1-3 เดือน) ในลักษณะ Long-Only แนะนำ “คงสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไว้ที่ระดับ 25% ของพอร์ต”

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณ และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจลงทุนด้วยครับ สำหรับการพูดคุยกันระหว่างสัปดาห์นอกจากทาง Facebook ที่ www.facebook.com/moobin.stockmania , e-mail ที่ moobin.stockmania@gmail.com และ www.dokbiaonline .com แล้ว แฟนๆยังสามารถติดตามมุมมองเกี่ยวกับการลงทุนจาก “นายหมูบิน” ได้ทาง FM 101.00 ทุกวันอาทิตย์ในรายการ ”เซียนเศรษฐกิจ” เวลา 10.00-12.00 น.เช่นเดิมครับ

 

ภาพประกอบ : การวิเคราะห์ตลาดหุ้นไทยในทางเทคนิครายวัน (Daily)

Source: Wealth Hunters Club

1 view
bottom of page