top of page
327304.jpg

หลังประชุมเฟดค่อยหาจังหวะซื้อ


เตือนครั้งสุดท้าย !

คงต้องถือเป็นการเตือนครั้งสุดท้ายแล้วนะครับ สำหรับแฟนๆท่านใดที่ต้องการไปพบกับนายหมูบินตัวเป็นที่งาน Thailand Smart Money ประจำปี 2560 ซึ่งในปีนี้ยังคงจัดขึ้นที่ Sky Hall ชั้น 3 เซ็นทรัลลาดพร้าวเช่นเดิม ในช่วง 16-18 ธ.ค.2559 ในส่วนของนายหมูบินจะไปโชว์ตัวเป็นในงาน 2 วันคือในวันที่ 17 และ 18 ธ.ค.2559โดยที่ทั้ง 2 วันทางผู้จัดงานได้จัดพื้นที่ “คลินิกหุ้น” ไว้ให้นายหมูบินได้ตอบคำถามเกี่ยวกับการลงทุนให้กับนักลงทุน “แบบตัวต่อตัว” และขึ้นเวทีใหญ่พูดถึงแนวโน้มการลงทุน และกลยุทธ์การลงทุนในปี 2560 จำนวน 2 รอบ โดยรอบที่ 1 วันเสาร์ที่ 17 ธ.ค.2559 เวลา 14.40-16.20 น. ในหัวข้อ “ทางหนีทีไล่ ลงทุนหุ้นปีไก่ยังไงถึงจะแฮปปี้” และรอบที่ 2 วันอาทิตย์ที่ 18 ธ.ค.2559 เวลา 15.30-17.30 น. ในหัวข้อ “หุ้นร้อนๆ ช้อนได้ ช้อนดี"ซึ่งถ้าแฟนๆสะดวกรอบไหนขอเรียนเชิญเข้าร่วมในรอบนั้นๆนะครับ

ในส่วนของทิศทางของตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นคงจะมีผลการประชุม FOMC วันที่ 13-14 ธ.ค.2559 เป็นตัวชี้วัดแนวโน้มในระยะต่อไป โดยที่ในเบื้องต้นนายหมูบินประเมินว่ากรณีที่คำแถลงของเฟดหลังการประชุมวันที่ 14 ธ.ค.2559 เกี่ยวกับทิศทางของดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐในระยะต่อไป ออกมาในทำนองว่าเฟดไม่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ชัดเจน โดยยังคงระบุเพียงแค่จะขยับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ในกรณีนี้มีความเป็นไปได้ที่จะเห็นตลาดหุ้นภูมิภาค และ SET เริ่มยืนได้เหนือ 1,450 จุด และกลับมาขยับขึ้นได้อีกครั้งหลังการประชุมวันที่ 14 ธ.ค.2559 แต่ในกรณีตรงกันข้ามที่เฟดออกมาระบุเป้าหมายชัดเจนของการขึ้นดอกเบี้ย เช่นจะขยับไปที่ระดับ 1.5%-2.0% ภายในปี 2560 ถ้าเป็นไปในสถานการณ์นี้ก็ต้องเรียนว่าการพักตัวลง SET น่ายังคงมี Downside Risk ให้ลงได้ต่ำกว่า 1,450 จุด

ขณะที่ในทางเทคนิคกรณีที่ SET ไม่สามารถทะลุขึ้นไปยืนเหนือ 1,520 จุดได้ในช่วงต้นเดือน ธ.ค.2559 จะเป็นการยืนยันว่าความพยายามกลับสู่ขาขึ้นอีกครั้ง และการแกว่งตัวขึ้นสวนทาง Seasonality เดือน ธ.ค. ของ SET จะล้มเหลว และในด้านของ Downside Risk ถ้า SET หมุนตัวลงมาปิดสัปดาห์ต่ำกว่า 1,480 จุด หรือบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย EMA 75 วันก็ถือว่าเป็นสัญญาณขาย โดยในกรณีดังกล่าว SET จะมีเป้าหมายระยะไม่เกิน 1 เดือนที่ 1,450 จุด (+/-) ซึ่งนายหมูบินมองว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะเป็นโอกาสเข้า "ซื้อสะสม" ในระยะกลางที่ดีที่สุด เนื่องจากนายหมูบินมองว่า SET ยังเป็นขาขึ้นในระยะกลาง เนื่องจากปัจจุบัน “เส้น Moving Average” ของ SET ทุกเส้น เรียงตัวจากบนลงล่างไล่จาก EMA10 วันถึง EMA 200 วันครบถ้วน สะท้อนให้เห็นสถานะที่เรียกว่า “Perfect Golden Cross” หรือตลาดยังอยู่ในภาวะขาขึ้น หรือ “Bullish Momentum” ชัดเจน

ผลกระทบจากเฟดขึ้นดอกเบี้ยอาจไม่เท่าปีที่แล้ว ! ต้องเรียนว่าสัปดาห์หน้าสถานการณ์ของตลาดหุ้นโลก และไทยกำลังเข้าสู่ช่วงที่สำคัญของปีจริงๆแล้ว เนื่องจากจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐ หรือ FOMC ครั้งสุดท้ายของปี 2559 เกิดขึ้น โดยในเบื้องต้นพบว่าภาพรวมตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐต่างๆในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาออกมาค่อนข้างดีกว่าที่ตลาดคาดทั้งภาคการผลิต และตลาดแรงงาน ส่งผลให้ล่าสุดความน่าจะเป็นในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดเดือน ธ.ค.2559 เพิ่มขึ้นจาก 96% มาอยู่ที่ระดับ 100% ประกอบกับการปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องของ 5Year breakeven inflation ที่มีนัยสำคัญทางสถิติอย่างมากต่อทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐ หรือ Fed Fund Target Rate โดยที่จากข้อมูลในอดีตย้อนหลัง 13 ปีที่ผ่านมา พบว่ามี correlation กันอยู่ที่ +0.51924 สะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวขึ้นของ 5Year breakeven inflation ย่อมทำให้ Fed Fund Target Rate มีความเป็นไปได้ที่จะปรับตัวขึ้นตามไปด้วย ขณะที่เมื่อนำ 5 year breakeven inflation มาคิด spread กับ Fed Fund Target Rate แล้วจะพบว่า ปัจจุบัน spread เคลื่อนที่อยู่ในบริเวณ +0.5 SD โดยในปี 2558 ที่ผ่านมาพบว่า spread ก็เคลื่อนไหวในระดับที่เท่าๆกับปัจจุบัน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย +0.5SD

ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันเฟดน่าจะพร้อมที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.2559 ตามที่ตลาดประเมินไว้แล้ว อย่างไรก็ดีการที่ตลาดการเงินโลกรับรู้ และเตรียมใจกับปัจจัยดังกล่าวมาเกือบ 3 เดือนแล้ว ดังนั้นมีความเป็นไปได้ที่ผลกระทบ โดยเฉพาะกับตลาดหุ้นเอเชีย และไทยอาจจะไม่ได้รุนแรงเหมือนหลังการขึ้นดอกเบี้ยครั้งก่อนหน้าในเดือน ธ.ค.2558 สังเกตได้จากการที่ล่าสุดทิศทางของดัชนี US dollar index เริ่มที่จะกลับมาเคลื่อนที่ sideway ในกรอบที่จำกัดขึ้นแล้ว หลังจากขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบ 3 ปี ในช่วงปลายเดือน พ.ย.2559

นอกจากนี้ตลาดหุ้นเอเชีย และไทยที่ Market Cap ส่วนใหญ่กระจุกอยู่ในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากทิศทางของราคาน้ำมันทั้งทางตรง และอ้อม จะได้ประโยชน์จากผลการประชุมของกลุ่ม OPEC & non opec ครั้งที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันได้แรงส่งจากแรงกดดันที่ลดลงจากด้าน supply

อย่างไรก็ดีบนปัจจัยบวกอาจมีปัจจัยลบเล็กแทรกเข้ามา จากประเด็นทางด้านฝั่งเอเซียที่อาจจะเริ่มมีความตึงเครียดมากขึ้น หลังจากที่ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐได้มีการต่อสายตรงกับประธานาธิบดีไต้หวัน ส่งผลให้ทางการจีนออกมาแสดงท่าทีที่ไม่พอใจเท่าใดนัก ซึ่งการติดต่อกับไต้หวันในลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นหลายสิบปี โดยประเด็นดังกล่าวอาจจะกดดันด้านการค้าระหว่างประเทศระหว่างจีนกับสหรัฐมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ จีนอาจจะต้องแทรกแซงค่าเงินหยวนเพื่อให้อ่อนค่ามากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ในส่วนของกลยุทธ์ สำหรับการลงทุนระยะสั้น (ไม่เกิน 1 สัปดาห์) กรณีที่ SET ยังกลับไปปิดเหนือ 1,520 (+/-5) จุดไม่ได้ แนะนำ “ถือเงินสด” อีกครั้ง หรือ “Wait and See” ไปรอ “อ่อนตัวซื้อเก็งกำไร” ในกรอบ 1,410 (+/-5) จุด ในหุ้น PTT, PTTGC, TOP, BDMS, ROBINS, MINT, CPN, AAV, AOT, CK, SCB และ KBANK สำหรับการลงทุนระยะกลาง (1-3 เดือน) ในลักษณะ Long-Only แนะนำ “ลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นลงมาอยู่ที่ระดับ 25% ของพอร์ต”

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณ และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจลงทุนด้วยครับ สำหรับการพูดคุยกันระหว่างสัปดาห์นอกจากทาง Facebook ที่ www.facebook.con/moobin.stockmania , e-mail ที่ moobin.stockmania@gmail.com และ www.dokbiaonline.com แล้ว แฟนๆยังสามารถติดตามมุมมองเกี่ยวกับการลงทุนจากนายหมูบินได้ทาง FM 101.00 ทุกวันอาทิตย์ในรายการ ”เซียนเศรษฐกิจ” เวลา 10.00-12.00 น.เช่นเดิมครับ

0 views
bottom of page